วานนี้ (11 มี.ค.56) นายสุระ เตชะทัต โฆษกพรรคพลังชล กล่าวปฎิเสธข่าวที่มีการเปิดเผยว่า จะมีกลุ่มการเมืองย้ายเข้าในสังกัดพรรคพลังชลเพื่อต่อรองโควต้ารัฐมนตรีว่า เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น เมื่อใกล้จะปรับครม.มักจะมีกระแสข่าวลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่มีกลุ่มการเมืองมาพูดคุย และพรรคก็ไม่เคยไปทาบทามหรือ พูดคุยกับกลุ่มการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังชลไม่ได้ปิดกั้นนักการเมืองหรือกลุ่มการเมืองที่จะเข้ามาทำงานร่วมกัน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และกติกาของพรรค ซึ่งพรรคมีคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณารายละเอียดและความเหมาะสมอยู่แล้ว และการปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีต้องเคารพและให้เกียรติ พรรคไม่เข้าไปก้าวก่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพรรคพลังชลคนใหม่ ได้เดินทางไปยังประเทศฮ่องกง โดยเที่ยวบินนั้นมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมถึงแกนนำกลุ่มมัชฌิมา รวมอยู่ด้วย โดยมีกระแสข่าวว่า ไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับเจ้าของพรรคตัวจริง โดยมีกระแสข่าวด้วยว่า กลุ่มมัชฌิมาจะย้ายมาทำงานการเมืองกับพรรคพลังชล เพื่อรับโควต้ารัฐมนตรีแลกกับรับกฎหมายนิรโทษกรรม
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธ เช่นกันว่า ไม่ได้กดดัน หรือวิ่งเต้นเพื่อให้ได้กลับไปรับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่ออกมาไม่เกี่ยวกับตนเอง แต่จะขอทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีที่จะรับผิดชอบการบริหารจัดการน้ำต่อไปอย่างดีที่สุด
เมื่อถามว่ามีข่าวว่าปรับครม.เดือนเม.ย.นี้สถานการณ์เหมาะสมหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า“เดือนเม.ย.เป็นเดือนสงกรานต์ หยุดยาวและสาดน้ำ ซึ่งตนจะไปดูงานที่จีนและไปสาดน้ำอย่างอื่นไม่รู้”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรี สำหรับตนแล้วไม่กังวลถ้าถูกปรับออกก็อยู่บ้าน ไม่มีใครรู้ นายกฯไม่เคยมาบอก ว่าตอนนี้มีความชัดจนแล้วหรือยัง ทุกอย่างอยู่นายกฯ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีที่มีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาเป็นรมช.มหาดไทย ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ ตนยังเอาตัวไม่รอดเลย เดี๋ยวนักข่าวจะเหงาถ้าปรับตนออกไป ถ้ากลัวเหงาก็ช่วยบอกให้นายกฯ เอาไว้ต่อ
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ยังไม่ทราบในกระแสดังกล่าว เพราะไม่ได้ติดตามข่าวใดๆ ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา
อีกด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่อาจหลุดจาก ครม. ปู 4 ว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด และเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าวมากว่า ในข่าวระบุว่านายกรัฐมนตรีเรียกไปพบที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันก่อน ทั้งที่ความจริงไม่ได้ไปพบเลย แต่มาประชุม และเดินไปที่ตึกไทยคูฟ้าเท่านั้น ไม่ได้พบนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ายังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องการปรับ ครม.เลย ส่วนที่ว่าจะถูกย้ายกระทรวงนั้น คงไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้น แต่การปรับครม. อยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังชลไม่ได้ปิดกั้นนักการเมืองหรือกลุ่มการเมืองที่จะเข้ามาทำงานร่วมกัน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และกติกาของพรรค ซึ่งพรรคมีคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณารายละเอียดและความเหมาะสมอยู่แล้ว และการปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีต้องเคารพและให้เกียรติ พรรคไม่เข้าไปก้าวก่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพรรคพลังชลคนใหม่ ได้เดินทางไปยังประเทศฮ่องกง โดยเที่ยวบินนั้นมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมถึงแกนนำกลุ่มมัชฌิมา รวมอยู่ด้วย โดยมีกระแสข่าวว่า ไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับเจ้าของพรรคตัวจริง โดยมีกระแสข่าวด้วยว่า กลุ่มมัชฌิมาจะย้ายมาทำงานการเมืองกับพรรคพลังชล เพื่อรับโควต้ารัฐมนตรีแลกกับรับกฎหมายนิรโทษกรรม
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธ เช่นกันว่า ไม่ได้กดดัน หรือวิ่งเต้นเพื่อให้ได้กลับไปรับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่ออกมาไม่เกี่ยวกับตนเอง แต่จะขอทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีที่จะรับผิดชอบการบริหารจัดการน้ำต่อไปอย่างดีที่สุด
เมื่อถามว่ามีข่าวว่าปรับครม.เดือนเม.ย.นี้สถานการณ์เหมาะสมหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า“เดือนเม.ย.เป็นเดือนสงกรานต์ หยุดยาวและสาดน้ำ ซึ่งตนจะไปดูงานที่จีนและไปสาดน้ำอย่างอื่นไม่รู้”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรี สำหรับตนแล้วไม่กังวลถ้าถูกปรับออกก็อยู่บ้าน ไม่มีใครรู้ นายกฯไม่เคยมาบอก ว่าตอนนี้มีความชัดจนแล้วหรือยัง ทุกอย่างอยู่นายกฯ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีที่มีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาเป็นรมช.มหาดไทย ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ ตนยังเอาตัวไม่รอดเลย เดี๋ยวนักข่าวจะเหงาถ้าปรับตนออกไป ถ้ากลัวเหงาก็ช่วยบอกให้นายกฯ เอาไว้ต่อ
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ยังไม่ทราบในกระแสดังกล่าว เพราะไม่ได้ติดตามข่าวใดๆ ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา
อีกด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่อาจหลุดจาก ครม. ปู 4 ว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด และเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าวมากว่า ในข่าวระบุว่านายกรัฐมนตรีเรียกไปพบที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันก่อน ทั้งที่ความจริงไม่ได้ไปพบเลย แต่มาประชุม และเดินไปที่ตึกไทยคูฟ้าเท่านั้น ไม่ได้พบนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ายังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องการปรับ ครม.เลย ส่วนที่ว่าจะถูกย้ายกระทรวงนั้น คงไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้น แต่การปรับครม. อยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
