xs
xsm
sm
md
lg

ส่อรับรองก่อนสอยที่หลัง 14มี.ค.ลุ้นกกต.กลางพิจารณาคำค้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(12 มี.ค.56) พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต.กทม. กล่าวภายหลังการประชุมกกต.กทม. เพื่อพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งว่า ขณะนี้กกต.กทม.ได้รับคำร้องทั้งสิ้น 20 คำร้อง พิจารณาไปแล้ว 9 คำร้อง ในจำนวนนี้รับเป็นคำร้อง 3 เรื่อง ไม่รับ 4 เรื่อง และมี 2 เรื่องที่กกต.กทม.มีมติเสียงข้างมากเสนอความเห็นไปยังกกต.กลาง โดยจะถึงกกต.กลางในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.และผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้องขอให้กกต.ตรวจสอบการโพสต์ภาพเผาบ้านเผาเมืองของนายศิริโชค โสภาส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในเฟสบุ๊ก รวมถึงการโพสต์ข้อความในลักษณะไม่เลือกเราเขามาแน่ ของ นายเสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการ โดยเชื่อว่าจากพยานหลักฐานและการสอบสวนของกกต.กทม. มีความสมบูรณ์พอที่กกต.กลางจะพิจารณาได้เลยว่าสมควรที่จะประกาศม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชกากรรุงเทพมหานครหรือไม่ ไม่น่าจะต้องมีการส่งให้อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องคัดค้านของกกต.พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามติที่มีการเสนอไปยังกกต.กลางนั้นความผิดตามที่มีการกล่าวหาโยงไม่ถึงตัวม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังคงเป็นเพียงความผิดของผู้สนับสนุนที่ถือเป็น ผู้ใดตามมาตรา 57 ( 5) ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ที่ กกต.กทม.เสนอให้กกต.กลางพิจารณาสั่งดำเนินคดี แต่ทั้งนี้จะมีการประกาศรับรองผล หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกกต.กลางจะพิจารณา
“ กกต.กทม.พิจารณาโดยดูองค์ประกอบของกฎหมายเป็นหลัก และเอาข้อเท็จจริงมาปรับ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ไม่มีการกดดันจากทั้งผู้ลงคะแนนหรือผู้สมัคร แม้กรณีนี้จะไม่ได้เป็นผู้สมัครดำเนินการเองแต่เป็นการกระทำของผู้สนับสนุนที่ถือว่าเข้าข่ายเป็น ผู้ใดตามกฎหมาย แต่เราก็ต้องดูการกระทำของบุคคลนั้นว่า ทำให้ผู้สมัครได้รับประโยชน์หรือไม่ ผู้ที่กระทำโยงไปถึงการมีตำแหน่งอะไรในพรรค และการกระทำดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ถ้าพบว่าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น โดยทั้งหมด กกต.กลางจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งมีทางออก 3 ทาง คือ 1 เห็นชอบว่าการทำดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครจนต้องสั่งให้มีการเลือกตั้ง กกต.ก็ประกาศรับรองผล 2 เห็นว่าควรให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม 3 เห็นว่าควรไม่ประกาศรับรองผล ”
นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.กทม. ยังมีมติรับเรื่องที่นายเรืองไกร ร้องขอให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ระบุว่าหากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะตั้งปรึกษาและผู้เชียวชาญจำนวน 31 คนซึ่งเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ไว้เป็นคำร้องเพื่อพิจารณาวินิจฉัยแล้ว โดยคำร้องที่เหลืออีก 11 คำร้องกกต.กทม.จะพยายามพิจารณาให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา 30 วัน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าในสัปดาห์หน้าจะให้เหลือไม่เกิน 3 คำร้อง แต่ในส่วนที่ร้องนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยใส่ร้าย ยังอยู่ในการตรวจสอบเนื้อหาคำร้องของเจ้าหน้าที่ ยังไม่ได้มีการเสนอที่ประชุมพิจารณา แต่จากที่ตนได้ติดตามข่าวสาร เห็นว่า คำร้องของเรืองไกร 2 เรื่องหลังนี้ค่อนข้างมีน้ำหนัก
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับมติกกต.ที่เสนอต่อกกต.กลางในวันนี้เป็นมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 โดยก่อนหน้านั้นในการพิจารณาคำร้องของนายเรืองไกรมีด้วยกัน 3 ประเด็น ซึ่ง ประเด็นที่กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ ปราศรัย เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โดยใช้ถ้อยคำว่า “อภิสิทธิ์ เบอร์อะไร ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร เบอร์ 16” นั้น กกต.กทม.มีมติเอกฉันท์ ยกคำร้อง ส่วนประเด็นนายศิริโชค โพสต์ภาพและข้อความเผาบ้านเผาเมืองนั้น และประเด็นนายเสรี โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กในลักษณะไม่เลือกเราเขามาแน่ นั้น ทั้ง 2 ประเด็น กกต.กทม. มีมติ 3 ต่อ 2 เห็นว่ามีน้ำหนักเข้าเกณฑ์ เป็นผู้ใด กระทำการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง แต่ทั้งนี้จากหลักฐานและการสอบสวน ยังไม่ชัดเจนเพียงพอว่าจะพิจารณาเสนอให้ใบเหลืองใบแดง ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ เพราะกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่แล้วเสร็จ โดยถ้ากกต.กทม.เห็นว่าคดีมีมูลเชื่อมโยงไปถึงตัวม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็จะต้องมีหนังสือเรียกม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มารับทราบข้อกล่าวหาและทำการชี้แจงเสียก่อน จากนั้นกกต.กทม.จึงจะค่อยพิจารณาและมีความเห็นเสนอไปยังกกต.กลาง แต่ ณ.วันนี้ที่มีมติที่มียังไปไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งกกต.กทม.นัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 14 มี.ค.นี้เวลา 13.00 ซึ่งก็จะมีการพิจารณาเพื่อหามติว่าจะเสนอให้กกต.กลางประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หรือควรสอบสวนเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าไม่น่าจะเสนอให้กกต.กลางได้ทันในวันเดียวกัน
แหล่งข่าวจากกต.ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่หากเรื่องดังกล่าวเสนอไปถึงยังกกต.กลางแล้ว น่าที่กกต.กลางจะประกาศรับรองให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯกทม.ไปก่อน เนื่องจากหากเรื่องที่กกต.กทม.มีความเห็นมาถึงขั้นต้องสั่งเลือกตั้งใหม่ กกต.มีระยะเวลาที่เหลือก่อนครบกำหนด 30 วันที่จะสั่งให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งได้คือภายในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เพราะตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นและประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 32 ให้อำนาจกกต.สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและหากพบว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่ก่อนประกาศรับรองผลให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง หากไม่แล้วเสร็จกกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน ซึ่งกกต.ไม่น่าจะจัดการเลือกตั้งได้เพราะจะต้องใช้เวลาในเรื่องของการเตรียมกำลังคน อุปกรณ์ต่างๆ ไม่น้อยกว่า 20 วัน อีกทั้งประเด็นตามคำร้องพบว่า ยังมีอยู่ในอีกหลายคำร้อง ซึ่งหากให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาน่าจะเป็นที่ยุติและ ทุกฝ่ายยอมรับได้
เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้เดินทางมายื่นเรื่องร้องคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เนื่องจากพบว่า มีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งไว้เกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยทางกทม.ได้ประกาศจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ไว้ทั้งสิ้น 2,329,891 คน ขณะที่กกต.ประกาศจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกลับมียอดรวมถึง 2,714,579 คน ดังนั้น จึงส่งผลให้คะแนนของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในครั้งนี้มีจำนวนเสียงของประชาชนผู้มาใช้สิทธิ เกินกว่ายอดจริง
จากนั้น เวลา 12.00 น. นายสุขุม วงประสิทธิ์ อดีตผู้สมัคร หมายเลข 19 ได้เดินทางมาทวงถามความคืบหน้ากรณีที่เคยยื่นคำร้องขอให้ ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนางนินนาท ชลิตตานนท์ ปลัดกทม.ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ไม่ยอมให้ใช้ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี ปราศรัยหาเสียง
นอกจากนี้ยังได้ยื่นคำร้องเพื่อให้กกต.ดำเนินการตรวจสอบการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของเครือข่ายเนชั่น จำนวน 50 เขตทั่วกทม. ที่ได้รวมคะแนนของตนไว้จำนวน 7,776 คะแนน ในขณะที่รายงานผลการนับคะแนนของกทม.ที่ศาลาว่าการกทม.กลับได้เพียง 2,730 คะแนน ซึ่งหายไป กว่า 5 พันคะแนน
ต่อมา 13.00 น. ทางกลุ่มเหยี่ยวข่าวอาสาพิทักษ์ประชาธิปไตย ยื่นคำร้อง เพื่อขอให้ดำเนินการพิจารณาตรวจสอบการกระทำของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในกรณีเดียวกันกับที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของพรรคเพื่อไทย ยื่น
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนที่ตื่นเต้นคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ดูจากเทปกับคำให้สัมภาษณ์แล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เหลืองก็แดงแน่ หาก กกต.รับรองก็ถือว่าเก่งมาก ทั้งยังมีการด่าว่าลักษณะกล่าวหาว่าเป็นเผด็จ การยึดบ้านยึดเมืองอย่างนี้ไม่ใส่ร้ายหรือ ตนท้าทาย กกต.กล้าก็ยกคำร้อง อย่าไปตื่นเต้น ในพรรคไม่มีใครตื่นเต้น ดีใจกันร้อยละ 99 ที่ผ่านมาเคยมีกรณีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งโดยตำแหน่งสามารถแต่งตั้งผู้ช่วยได้ 2 คน แต่กลับมีการประกาศว่าจะแต่งตั้งทั้งหมด 9 ตำแหน่ง ทำให้กรณีนี้โดนเล่นไป ซึ่งไม่สามารถบอกตำแหน่ง หรือบุคคลในเหตุการณ์ดังกล่าวได้
ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต ในฐานะรองโฆษกศูนย์อำนวยการเเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจของ ก.ก.ต ทั้งนี้ หากมีการเลือกตั้งใหม่จริง พรรคเพื่อไทยก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง และถือเป็นโอกาสที่ดีที่พรรคจะมีโอกาสชี้แจงผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย จากการที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์พูดใส่ร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น