xs
xsm
sm
md
lg

ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์จ่อขมับดับชีวิตตัวเองระบายเครียดหนีโรคซึมเศร้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ รัชดาฯ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จ่อยิงขมับตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านราษฎร์บูรณะ พบจดหมายระบายความเครียดก่อนตัดสินใจลาโลก

วานนี้ (7 มี.ค.) พ.ต.ท.ยุทธนา นังคลา พงส.ผนก.สน.ราษฏร์บูรณะ รับแจ้งเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 142/8 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 30 แยก 10 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.อ.พรชัย ชะลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ยุโรป รั้วรอบขอบชิดเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา ภายในห้องนอนชั้นล่าง บริเวณข้างเตียงพบศพนายกิติ ปิ่นงาม อายุ 56 ปี ผู้พิพากษาศาลอุทรณ์ รัชดาฯ อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลจังหวัดสิงห์บุรี สภาพศพนอนจมกองเลือดสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุท้ายทอยซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนยี่ห้อเมาเซอร์ ขนาด 9 มม.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช

จากการสอบสวน นางสาวศกุนตลา คุณะศรี อายุ 57 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเห็นสามีนั่งอยู่ภายในบ้าน เป็นปกติจึงไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งตนออกไปทำธุระข้างนอกก่อนกลับเข้ามาบ้านช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ได้เห็นว่าภายในบ้านปิดไฟมืด แต่มีเสียงโทรทัศน์พร้อมเครื่องปรับอากาศเปิดทิ้งไว้ จนเข้ามาภายในห้องนอนก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบร่างสามีนอนจมกองเลือด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

นอกจากนี้ยังพบซองจดหมาย 1 ซอง มีการเขียนข้อความว่า “โรคเครียดโรคซึมเศร้า มียารักษาไหม” ซึ่งจากการสอบถามญาติทราบว่าผู้ตายเขียนเพื่อไปสอบถามแพทย์ที่เคยไปตรวจร่างกายมาก่อน โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยไปตรวจร่างกายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าแต่ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ยุทธนา เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตคงเกิดความเครียดเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากสอบถามทางญาติระบุว่าผู้ตายมีอาการซึมเครียดมาระยหนึ่งแล้ว โดยไม่ได้บอกกล่าวว่าเครียดเรื่องใด ก่อนจะมาคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม พร้อมทั้งเรียกเพื่อนร่วมงานมาสอบปากคำเพิ่มเติมเสียก่อนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น