ตร.รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตภายในบ้าน รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุถึงกับตะลึง เด็กหญิงวัย 3 ขวบนอนกอดศพแม่มา 3 วัน สุดฉงน! เด็กน้อยบอกยังเล่นกับแม่อยู่และแม่เป็นคนเปิดประตูให้ลงมา!! ตร.คาดผู้ตายป่วยลมชักกำเริบก่อนเสียชีวิตญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.อ.อาทิตย์ ศรีสุพจน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ราษฎรบูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในทาวน์เฮาส์ เลขที่ 846/437 หมู่บ้านสินทวี สวนธน ซอยประชาอุทิศ 44 แยก 6 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้น 1 คูหา มีรั้วรอบขอบชิด ที่ชั้น 2 ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่พบศพนางอรณัชดา ไทยสกุลทอง อายุ 35 ปี สภาพศพนอนตะแคง สวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนห่มผ้านวมสีน้ำเงินลายดอก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการรื้อค้น มีเพียงเครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอยู่ พบเพียงนางจุฑามนต์ ไทยสกุลทอง พี่สาวของผู้ตายอุ้มกอดเด็กหญิงกชกร ไทยสกุลทอง หรือน้องกอหญ้า อายุ 3 ขวบ ลูกสาวของผู้ตายในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเลือด นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว โดยน้องกอหญ้าได้ถามว่าแม่อยู่ไหน แม่ไม่ได้กินอะไรเลย ก่อนจะพาไปอาบน้ำชำระร่างกาย
จากการสอบสวนนางจุฑามนต์ ไทยสกุลทอง อายุ 38 ปี พี่สาวผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของน้องสาวว่าไม่เห็นนางอรณัชดามาทำงานเลยตั้งแต่วันจันทร์ ตนจึงรีบไปสอบถามนางพัชรา เชาวนกิจ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและรีบไปดู พบว่าประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านถูกล็อกไว้ จึงไปตามเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ชายให้มาช่วยกันเปิดประตูออก หลังจากกลับมาจากตามเพื่อนบ้านมาเปิดประตูก็พบน้องกอหญ้ายืนเกาะรั้วประตูหน้าบ้าน โดยเสื้อผ้าเปื้อนเลือด แน่ใจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจึงรีบเข้าไปภายในบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องนอนก็พบน้องสาวนอนห่มผ้านวมเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
นางจุฑามนต์กล่าวอีกว่า เมื่อก่อนน้องสาวได้พักอยู่กับแม่ แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วแม่ได้เสียชีวิตลง ทำให้น้องสาวอยู่กับน้องกอหญ้าตามลำพังเพียง 2 คน ส่วนพ่อของน้องกอหญ้าได้เลิกรากับน้องสาวตนเมื่อน้องกอหญ้าอายุยังไม่ถึงขวบ โดยทุกวันเวลาน้องสาวไปทำงานแถวย่านปทุมวัน จะนำเด็กหญิงกชกรไปฝากให้แม่ของนางพัชราดูแล เมื่อกลับจากทำงานก็จะมาดูแลน้องกอหญ้า สำหรับการสียชีวิตของน้องสาวนั้นอาจเกิดจากสาเหตุที่น้องสาวมีโรคประจำตัวเป็นลมชักมาตั้งแต่เกิด และไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้เนื่องจากอยู่กับน้องกอหญ้าลูกสาวเพียงลำพัง และน้องกอหญ้าเป็นเด็กยังไม่รู้ประสาและไม่ทราบว่าแม่เป็นอะไร คงนึกว่าแม่นอนหลับปกติโดยอยู่กับแม่ที่เสียชีวิตจนมีผู้มาพบเจอ อีกทั้งก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตน้องสาวได้ไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ มาก่อนด้วย
เบื้องต้นนางจุฑามนต์และญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยเชื่อว่านางอรณัชดาเสียชีวิตเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนน้องกอหญ้านางจุฑามนต์จะนำไปเลี้ยงดูต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามน้องกอหญ้าว่าออกมาจากห้องนอนได้อย่างไร น้องกอหญ้าตอบว่า แม่เปิดประตูให้หนูออกมาหาอาอี๊ และยังเล่นกับหนูอยู่เลย สร้างความประหลาดใจกับผู้สื่อข่าวและเพื่อนบ้านที่มายืนมุงดูว่าเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อนางอรณัชดาได้เสียชีวิตไปแล้ว แถมประตูห้องก็ยังล็อก ประตูมุ้งลวดด้านหน้าก็ล็อกอยู่