ฆ่าโหดหัวหน้าช่างทาสี สายไฟมัดมือ หมกบ้านพักย่านแสมดำ ชาวบ้านทนกลิ่นเหม็นไม่ไหวโทร.แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุคาดทะเลาะกับภรรยาชาวพม่า เบื้องต้น เตรียมตามตัวมาสอบปากคำต่อไป
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. เวลา 19.40 น. ร.ต.ต.พายัพ สุคนธสาร พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 15/254 ปากซอยเทียนทะเล 20 แยก 4 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิศัลย์ ศุภวงศ์ ผกก.สน.แสมดำ พ.ต.อ.พงศอานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าครึ่งตึกครึ่งไม้สูง 2 ชั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพโชยออกมาอย่างรุนแรงจากในบ้านดังกล่าว เมื่อตรวจสอบภายในห้องโถงบริเวณชั้นที่ 2 พบศพนายมิ่งขวัญ ม่วงมิ่งสุข อายุ 40 ปี อาชีพหัวหน้าคนงานทาสี อยู่บ้านเลขที่ 95/7 หมู่ 6 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. ในสภาพร่างบวมอืดนอนหงายอยู่กลางห้อง สวมเสื้อยืดคอกลมสีส้ม นุ่งกางเกงบอลสีดำ ตามร่างกายถูกของมีคมเชือดที่ลำคอ และแทงที่ปลายคาง รวม 2 แผล ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกพันธนาการด้วยสายไฟสีดำ ที่ศีรษะถูกรัดด้วยมุ้งผ้าสีฟ้า มีผ้านวมสีม่วงลายดอกคลุมทับบริเวณใบหน้าอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบโดยรอบห้องที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ และรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจัดกระจาย พบโทรศัพท์มือถือ และที่ชาร์จแบตเตอรี่ของผู้ตายกระเด็นแยกย้ายไปคนละทางจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามชาวบ้านในละเเวกที่เกิดเหตุให้การว่า ผู้ตายเป็นหัวหน้าช่างทาสีมาอยู่บ้านเช่าหลังนี้ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ปกติจะเห็นพักอยู่ด้วยกัน 3 คนคือ ผู้ตายกับภรรยาซึ่งเป็นสาวพม่า ไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 18 ปี และพี่ชายของภรรยาซึ่งเป็นคนสัญชาติเดียวกัน อายุประมาณ 20 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายภรรยาเข้ามาที่บ้าน จากนั้นทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน ก่อนที่ภรรยาจะเดินหนีออกจากบ้านไป จากนั้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 1 ต.ค.มีชาวบ้านได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากในบ้านแล้วเงียบหายไป กระทั่งวันนี้เริ่มมีกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพโชยออกมาจากบ้านอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านต้องตัดสินใจรวมตัวกันโทรศัพท์ไปแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
พ.ต.อ.พงศอานันต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเชื่อได้ว่าผู้อาศัยในบ้านทั้ง 3 ราย น่าจะมีปากเสียงกันก่อนเกิดเหตุ โดยขณะนี้ตำรวจยังไม่ทราบชื่อภรรยา และพี่ชายของภรรยาผู้ตาย อยู่ระหว่างติดตามญาติๆ ของผู้ตายมาให้ปากคำอย่างละเอียด และจะนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปตรวจสอบอีกครั้ง เชื่อว่าคดีนี้คงติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการได้ไม่ยากเพราะรถจักรยานยนต์ของผู้ตายก็หายไปด้วย แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้