xs
xsm
sm
md
lg

"นาข้าว"พัทลุงเสียหายกว่า5หมื่นไร่ "ตรัง"สั่งงดเล่นน้ำตก6แห่ง3อำเภอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "พัทลุง"ฝนหยุดแล้ว แต่นาข้าวเสียหายกว่า 50,000 ไร่ น้ำป่ากัดเซาะที่ทำกินกลายเป็นคลอง ที่"นราธิวาส"แม่น้ำโก-ลก เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนริมตลิ่ง 3 อำเภอ ชาวประมงพื้นบ้าน"ปัตตานี-สตูล"หยุดออกทะเล หลังคลื่นสูงลมแรง ปภ.สตูลห่วงนักเที่ยว เตือนผู้ประกอบการหยุดพาล่องแก่งก่อน ขณะที่"ตรัง"ประกาศงดลงเล่นน้ำตก 6 แห่ง 3 อำเภอ หลังน้ำเริ่มเปลี่ยนสีและไหลแรง ที่"จันทบุรี" คลื่นสูงเกือบ 3 เมตรซัดชายฝั่ง ชาวประมงใหญ่เล็กต้องหลบเทียบท่าเหมือนกัน

วานนี้(26 ก.พ.)จากกรณีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง โดยระบุว่า ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส จ.ตรัง และจ.สตูล ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือด้วยนั้น

ที่ จ.พัทลุง ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ยังไหลทะลักลงสู่พื้นที่เชิงเขา ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ควนขนุน อ.ศรีบรรพต อ.กงหรา อ.เขาชัยสน และอ.ตะโหมด โดยเฉพาะที่ต.โคกชะงาย ต.ปรางหมู่ ต.นาโหนด ต.ชัยบุรี ต.พญาขัน อ.เมือง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนักสุด เพราะมวลน้ำจากอ.กงหรา และอ.ศรีนครินทร์ ได้ไหลผ่านคลองชลประทานนาท่อม เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและที่ดินทำกิน

ทั้งนี้ สวนยางพารา และนาข้าวที่รอการเก็บเกี่ยวใน 6 อำเภอเสียหายแล้วกว่า 50,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 18,000 ครัวเรือน โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษากว่า 20 โรง ต้องปิดการเรียนการสอน เนื่องจากระดับน้ำยังท่วมสูง ทั้งภายในโรงเรียน และเส้นทางระหว่างโรงเรียนกับบ้านเรือนประชาชน

นายนิเชล คงเกลี้ยง อายุ 34 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง กล่าวว่า น้ำบนเทือกเขาบรรทัด ไหลทะลักลงสู่คลองทรายขาว จนเวลา 12.30 น. หลังน้ำลดพบว่าตลิ่งลำคลองถูกน้ำกัดเซาะยาวกว่า 4 กิโลเมตร กว้างประมาณ 40 เมตร ทำให้ที่ทำกินของชาวบ้าน หมู่ 2-4 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา ทั้งสวนไม้ผลและยางพารากว่า 20 รายหายไป และกลายเป็นลำคลอง รวมเนื้อที่กว่า 30 ไร่

ส่วนถนนถูกน้ำกัดเซาะเหลือช่องทางเดียว รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ เบื้องต้น นายนฤทธิ์ มงคลศรี นายอำเภอกงหรา ได้เข้าพบนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอของบประมาณ 6 ล้านบาท นำมาทำพนังหินพร้อมซ่อมถนนแล้ว

จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าจากเทือกเขาแก้ว รอยต่อจ.สงขลา กับจ.สตูล ได้เอ่อล้นคลองภูมี และไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.คูหาใต้ 9 หมู่บ้าน ต.เขาพระ 8 หมู่บ้าน ต.ท่าชะมวง 4 หมู่บ้าน ต.กำแพงเพชร 3 หมู่บ้าน และต.ควนรู 4 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม น้ำยังทรงตัว เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดสงขลา ระบุว่า ขณะนี้มีรายงานเพียงอ.รัตภูมิ ที่ประสบภาวะน้ำท่วม รวม 5 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,420 ครัวเรือน 4,240 คน นาข้าว 320 ไร่ สวน 2,240 ไร่ เสียหายกว่า 9 ล้านบาท ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

จ.นราธิวาส ฝนยังคงตกหนักใน 13 อำเภอ ส่งผลทำให้น้ำป่าบนเทือกเขาสันกลาคีรี ไหลทะลักลงมาสมทบกับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก จนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในอ.แว้ง อ.ตากใบ และอ.สุไหงโก-ลก เป็นระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร โดยมีน้ำท่วมขังเป็นช่วง ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-40 เซนติเมตร ราษฎรเดือดร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน โดยเฉพาะชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ต้องอพยพข้าวของหนีน้ำไปไว้ที่สูง และนำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้บนถนน

ด้านพ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ระดมกำลังทหารนำเรือออกช่วยเหลือครูโรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ หมู่ 6 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาสที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยช่วยกันขนย้ายสื่อการเรียนการสอนหนีระดับน้ำที่ท่วมขังสูง 2-3 เมตร ไปไว้ที่ชั้น 2 ของอาคารเรียน รวมทั้งเครื่องครัวที่ใช้สำหรับปรุงอาหารมื้อเที่ยงเด็กนักเรียนด้วย โดยทางโรงเรียนได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด เพราะระดับน้ำท่วมยังสูงขึ้น เนื่องจากแม่น้ำตันหยงมัส ที่รับน้ำป่าและน้ำจากเขตเทศบาลไหลลงสู่ที่ราบลุ่ม ซึ่งโรงเรียนกอแนะเหนือ ตั้งอยู่หน้าแหล่งน้ำซึ่งเป็นแก้มลิงรองรับปริมาณน้ำที่ท่วมขังจากเขตเทศบาล

จ.ปัตตานี นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นที่ลุ่ม และผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปัตตานี เพราะมีน้ำตอนบนจำนวนมาก ขอให้ติดตามการเตือนภัยตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่อำเภอชายทะเล ได้แก่ อ.ยะหริ่ง อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และอ.ไม้แก่น ส่วนใหญ่ เรือประมงพื้นบ้านกว่า 1,000 ลำ ต้องหยุดออกหาปลา และนำเรือมาจอดลอยลำในคลอง โดยเฉพาะต.รูสะมีแล อ.เมือง เรือประมงพื้นบ้าน 2 ลำถูกคลื่นลมซัดจนจม เครื่องมือประมงและยนต์เสียหาย ชาวประมง 4 คนปลอดภัย

จ.สตูล ที่ต.ตันหยงโป ต.ตำมะลัง เกาะสาหร่าย เกาะยาว เกาะปูยู อ.เมือง จ.สตูล ชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถนำเรือออกจับสัตว์น้ำได้ เนื่องจากมีฝนตกทั้งคืน โดยนายหร้อโสหู หนูพริ้ม อายุ 41 ปี ผู้รับซื้ออาหารทะเลที่เกาะสาหร่าย กล่าวว่า ไม่ได้ออกไปซื้ออาหารทะเล เพราะไม่มีชาวประมงออกหาปลา โดยชาวประมงแจ้งว่าไม่กล้าเสี่ยง เนื่องจากท้องทะเลมืดครึ้ม มีลมกระโชกแรง

นายอนุสร ตันโชติกุล นายอำเภอมะนัง จ.สตูล ประกาศเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม เพราะฝนตกติดต่อกัน 3-4 วันแล้ว ดินอาจชุ่มน้ำได้และสไลด์ลงมาได้ ส่วนปัญหาภัยแล้งนั้น ถือว่าโชคดีแล้วที่มีฝนตกลง ทำให้พืชสวนเกษตรที่กำลังจะแห้งตายกลับฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางอำเภอยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานพื้นที่น้ำล้นตลิ่ง

สำหรับจ.สตูล มีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม 4 อำเภอ คือ อ.ควนโดน อ.มะนัง อ.ควนกาหลง และอ.ละงู

นายสำเริง วงศ์มุณีวรณ์ หัวหน้าสำนักงานปภ.จังหวัดสตูล กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วง คือ สถานที่ล่องแก่งวังสายทอง อ.มะนัง ที่น้ำไหลลงมาจากเทือกเขาบรรทัด เสี่ยงเกิดน้ำป่าได้ หากเป็นไปได้ให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ช่วยบอกผู้ประกอบการท่องเที่ยว หยุดพานักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำหรือล่องเรือในช่วงนี้ก่อน เพราะเสี่ยงเกิดอันตรายได้ เนื่องจากน้ำป่าอาจไหลลงมาได้ตลอดเวลา

ด้านหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบรรทัด จ.ตรัง ได้ประกาศงดลงเล่นน้ำชั่วคราวในน้ำตก 6 แห่งประกอบด้วย น้ำตกกะช่อง น้ำตกโตนปลิว อ.นาโยง น้ำตกสายรุ้ง อ.ย่านตาขาว น้ำตกโต๊ะเต๊ะ น้ำตกโตนตก และน้ำตกลำปลอก อ.ปะเหลียน เนื่องจากฝนตกหนักมาหลายวัน ส่งผลให้ลำคลองหลายสายมีน้ำสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำตกกะช่อง และน้ำตกสายรุ้ง น้ำเริ่มเปลี่ยนสีและไหลแรงขึ้น เจ้าหน้าที่จึงนำสัญญาณเตือนภัยชนิดมือหมุนมาทดสอบระดับเสียงเพื่อเตรียมใช้งาน เนื่องจากปี 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าฉับพลัน มีผู้เสียชีวิตถึง 38 คน นอกจากนี้ยังจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังน้ำป่าตลอดเวลา และดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำ

ขณะเดียวกันที่จ.จันทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงชายฝั่งทะเลอ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี พากันนำเรือกลับเข้าฝั่ง เนื่องจากมีพายุและคลื่นลมแรง มีฝนตกบางพื้นที่ โดยเฉพาะอ.ท่าใหม่ อ.เเหลมสิงห์ อ.ขลุง และอ.นายายอาม คลื่นลมแรงสูง 2-3 เมตร ทั้งนี้มีประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า วันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกเรือได้ ส่วนเรือประมงขนาดใหญ่ ก็เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากคลื่นลมแรง จึงนำเรือประมงจอดเทียบท่า รอให้คลื่นลมในทะเลสงบก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น