เรื่อง “เผา” ที่เหมือนกัน..แต่ไม่เหมือนกัน เกิดขึ้นในประเทศไทยนี่เอง!
ส.ส.แดงบางคนของรัฐบาล “ปูเอ๋อ” พูดพล่อยๆ ว่า การเผาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 กับ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น..เหมือนกันว่ะ..
แถมแสดงสันดานเอาแต่ได้ว่า เมื่อ “เผา” เหมือนกันก็ต้อง “นิรโทษกรรม”เหมือนกัน จะได้ไม่เป็น 2 มาตรฐาน!
เหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เกิดขึ้นช่วง “ประเทศไทยมีประชาธิปไตย” จึงชุมนุมการเมืองอย่างสันติได้เต็มที่ แต่ “เหลี่ยม” กลับเกณฑ์แก๊งแดงรับจ้างและแดงหลงคำลวง ให้ออกมาโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม มีการเข่นฆ่าทหารกับผู้คนและเผาบ้านเผาเมือง เพื่อให้คน “ดูไบ” ยึดอำนาจรัฐอีกครั้ง โดยใช้ข้ออ้างประชาธิปไตยจอมปลอมบังหน้า
“ไอ้เหลี่ยม” ข่มขู่ผ่านวิดีโอลิงก์ว่า หากรัฐบาลปราบแก๊งแดงป่วนชาติ มีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นเมื่อไหร่ “ไอ้เหลี่ยม” โกหกหน้าตาเฉยว่า จะเดินทางเข้าชาติไทยนำกองทัพแดงสู้รบกับรัฐบาลทันที แถมบอกแก๊งแดงทุกคนให้ไปหน้าศาลากลางทุกจังหวัดเลย
ส่วน “ขี้ข้าเต้น” ก็เป็นขุนพลอยพยักประกาศบนเวทีแก๊งแดงว่า
หากอภิสิทธิ์ปราบแก๊งแดงเมื่อไหร่ พ่อแม่พี่น้องแก๊งแดงเผา-เผา-เผาแม่งเลย ถ้าใครจะเอาผิด..ก็มาเอาผิดที่ผม..ผมรับผิดชอบคนเดียวเอง!
ทุกวันนี้ “ขี้ข้าเต้น” รับผิดชอบด้วยการเป็น “อำมาตย์แดง” เอง ส่วนแก๊งแดงตัวเล็กตัวน้อยที่ทำผิดกฎหมาย ยังติดคุกหัวโตอยู่เลยครับ!
“ไอ้ขี้ข้าอมฮอลล์” ก็เหิมเกริมสุดๆ ประกาศให้แก๊งแดงทุกคนเอาขวดแก้วใส่น้ำมันมาที่ชุมนุม หากอภิสิทธิ์ปราบแก๊งแดงเมื่อไหร่ ชาติไทยทุกหนแห่งต้องลุกเป็นเปลวเพลิง รวมทั้ง “บ้าน” (วังสวนจิตรฯ) ที่ถนนราชวิถี และโรงพยาบาลศิริราชจะต้องไหม้เป็นจุณไปด้วย..
เมื่อการชุมนุมของแก๊งแดงมีการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง และสะสมอาวุธสงครามกันโจ๋งครึ่ม โดยตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติและคนไทย รัฐบาลอภิสิทธิ์จึงต้องใช้ทหารสลายการชุมนุม โดยให้ทหารถือเพียงโล่และกระบองติดตัวเท่านั้น
กองกำลังแก๊งแดงจึงใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหาร จนบาดเจ็บล้มตายกว่า 3 ร้อยคน ผู้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็พลอยตายตามไปด้วย
การใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ นอกจากทหารและผู้คนบาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีการเผาศาลากลางของรัฐไทยหลายแห่ง และเผาธนาคาร ศูนย์การค้าเอกชนที่มิใช่สัญลักษณ์ของรัฐแต่ประการใดด้วย
ผลงานชั่วโทนโท่เป็นภาพข่าวแพร่ไปทั้งโลกขนาดนี้ แต่ “ไอ้เหลี่ยม” กับรัฐบาล “ปูเอ๋อ” และแกนนำแก๊งแดงทั้งหลายยังหน้าด้านบิดเบือนว่า พวกแก๊งอันธพาลแดงต่อสู้อย่างสันติอหิงสา และให้ร้ายทหารหาญเป็นฆาตกรฆ่าคนเสื้อแดง!
แต่ความจริงของภาพและข่าว-ก็คือความจริง ที่ใครจะปกปิดบิดเบือนประวัติศาสตร์การเมืองของชาติไทยในครั้งนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน
ก็มันชัดเจนแล้วนี่นาว่า “ไอ้เหลี่ยม” ทั้งจ้างทั้งหลอกลวงแก๊งแดงให้ใช้ความรุนแรง-ให้ออกมาต่อสู้-ให้ออกมาตาย เพื่อโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ และให้เครือข่าย “ไอ้เหลี่ยม” เข้ายึดอำนาจรัฐไทยอีกครั้ง โดยอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยบังหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนทำเพื่อ “ไอ้เหลี่ยม” จะได้โกงชาติบ้านเมืองต่อไงล่ะครับ
ส่วนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นั้น ชาติไทยอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหารถนอม-ประภาส ซึ่งไร้ประชาธิปไตยและเต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา-ประชาชนทนไม่ไหว จึงออกมาขับไล่รัฐบาลเผด็จการอย่างสันติกว่า 5 แสนคน
นั่นเป็นความกล้าหาญของผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ที่ไม่ต้องการคนโกงชาติ และไม่ต้องการเผด็จการทุกรูปแบบครองเมือง ที่สำคัญ..สู้อย่างสันติและไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ตัวเองครับ!
รัฐบาลเผด็จการยุคนั้นได้ส่งกองกำลังทหารออกมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่มีเพียงสองมือเปล่าอย่างโหดเหี้ยม จึงเกิดการต่อสู้จนมีการเผาสถานที่ราชการที่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐหลายแห่ง ทั้งโรงพัก-กองสลาก-โดยเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ที่รับใช้อำนาจรัฐอันชั่วช้าสารเลว ด้วยการออกข่าวให้ร้ายป้ายสีการต่อสู้ของปวงชนชาวไทยอย่างสามานย์อยู่ตลอดเวลา
หลังรัฐบาลเผด็จการทหารพ่ายแพ้ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา-ประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อชาติด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ ไม่มีใครหน้าไหนได้รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลชั่วคราวของนายกฯ “สัญญา ธรรมศักดิ์” เลย
14 ตุลาคม 2516 จึงเป็นการต่อสู้เพื่อชาติและประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระเมตตาจัดให้มีการพระราชทานเพลิงศพ เพื่อเป็นเกียรติแก่วีรชนประชาธิปไตย ที่ได้เสียสละชีวิตอย่างกล้าหาญที่กลางท้องสนามหลวง!
การเผาในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 กับ 19 พฤษภาฯ 2553 จึงเป็นการเผาที่ไม่เหมือนกัน คนดีจำใจต้อง-เผาเพื่อชาติ แต่คนชั่วจงใจเผาบ้านเมือง-เพื่อคนชั่วเพียงคนเดียว เนื้อหาสาระจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อใช้ธรรมพิเคราะห์ก็จะได้ข้อสรุปว่า
คนไทยต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ต้องการรัฐบาลเผด็จทหาร และเผด็จการรัฐสภาที่โกงชาติและขายชาติ ทางเดียวที่ชาติไทยจะไร้ความรุนแรงและจะสงบศานติอย่างถาวร คือ
คนดีต้องได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด และกีดกันทุกวิถีทางมิให้คนชั่วมีอำนาจ..จริงไหม?
ส.ส.แดงบางคนของรัฐบาล “ปูเอ๋อ” พูดพล่อยๆ ว่า การเผาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 กับ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น..เหมือนกันว่ะ..
แถมแสดงสันดานเอาแต่ได้ว่า เมื่อ “เผา” เหมือนกันก็ต้อง “นิรโทษกรรม”เหมือนกัน จะได้ไม่เป็น 2 มาตรฐาน!
เหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เกิดขึ้นช่วง “ประเทศไทยมีประชาธิปไตย” จึงชุมนุมการเมืองอย่างสันติได้เต็มที่ แต่ “เหลี่ยม” กลับเกณฑ์แก๊งแดงรับจ้างและแดงหลงคำลวง ให้ออกมาโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม มีการเข่นฆ่าทหารกับผู้คนและเผาบ้านเผาเมือง เพื่อให้คน “ดูไบ” ยึดอำนาจรัฐอีกครั้ง โดยใช้ข้ออ้างประชาธิปไตยจอมปลอมบังหน้า
“ไอ้เหลี่ยม” ข่มขู่ผ่านวิดีโอลิงก์ว่า หากรัฐบาลปราบแก๊งแดงป่วนชาติ มีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นเมื่อไหร่ “ไอ้เหลี่ยม” โกหกหน้าตาเฉยว่า จะเดินทางเข้าชาติไทยนำกองทัพแดงสู้รบกับรัฐบาลทันที แถมบอกแก๊งแดงทุกคนให้ไปหน้าศาลากลางทุกจังหวัดเลย
ส่วน “ขี้ข้าเต้น” ก็เป็นขุนพลอยพยักประกาศบนเวทีแก๊งแดงว่า
หากอภิสิทธิ์ปราบแก๊งแดงเมื่อไหร่ พ่อแม่พี่น้องแก๊งแดงเผา-เผา-เผาแม่งเลย ถ้าใครจะเอาผิด..ก็มาเอาผิดที่ผม..ผมรับผิดชอบคนเดียวเอง!
ทุกวันนี้ “ขี้ข้าเต้น” รับผิดชอบด้วยการเป็น “อำมาตย์แดง” เอง ส่วนแก๊งแดงตัวเล็กตัวน้อยที่ทำผิดกฎหมาย ยังติดคุกหัวโตอยู่เลยครับ!
“ไอ้ขี้ข้าอมฮอลล์” ก็เหิมเกริมสุดๆ ประกาศให้แก๊งแดงทุกคนเอาขวดแก้วใส่น้ำมันมาที่ชุมนุม หากอภิสิทธิ์ปราบแก๊งแดงเมื่อไหร่ ชาติไทยทุกหนแห่งต้องลุกเป็นเปลวเพลิง รวมทั้ง “บ้าน” (วังสวนจิตรฯ) ที่ถนนราชวิถี และโรงพยาบาลศิริราชจะต้องไหม้เป็นจุณไปด้วย..
เมื่อการชุมนุมของแก๊งแดงมีการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง และสะสมอาวุธสงครามกันโจ๋งครึ่ม โดยตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติและคนไทย รัฐบาลอภิสิทธิ์จึงต้องใช้ทหารสลายการชุมนุม โดยให้ทหารถือเพียงโล่และกระบองติดตัวเท่านั้น
กองกำลังแก๊งแดงจึงใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหาร จนบาดเจ็บล้มตายกว่า 3 ร้อยคน ผู้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็พลอยตายตามไปด้วย
การใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ นอกจากทหารและผู้คนบาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีการเผาศาลากลางของรัฐไทยหลายแห่ง และเผาธนาคาร ศูนย์การค้าเอกชนที่มิใช่สัญลักษณ์ของรัฐแต่ประการใดด้วย
ผลงานชั่วโทนโท่เป็นภาพข่าวแพร่ไปทั้งโลกขนาดนี้ แต่ “ไอ้เหลี่ยม” กับรัฐบาล “ปูเอ๋อ” และแกนนำแก๊งแดงทั้งหลายยังหน้าด้านบิดเบือนว่า พวกแก๊งอันธพาลแดงต่อสู้อย่างสันติอหิงสา และให้ร้ายทหารหาญเป็นฆาตกรฆ่าคนเสื้อแดง!
แต่ความจริงของภาพและข่าว-ก็คือความจริง ที่ใครจะปกปิดบิดเบือนประวัติศาสตร์การเมืองของชาติไทยในครั้งนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน
ก็มันชัดเจนแล้วนี่นาว่า “ไอ้เหลี่ยม” ทั้งจ้างทั้งหลอกลวงแก๊งแดงให้ใช้ความรุนแรง-ให้ออกมาต่อสู้-ให้ออกมาตาย เพื่อโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ และให้เครือข่าย “ไอ้เหลี่ยม” เข้ายึดอำนาจรัฐไทยอีกครั้ง โดยอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยบังหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนทำเพื่อ “ไอ้เหลี่ยม” จะได้โกงชาติบ้านเมืองต่อไงล่ะครับ
ส่วนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นั้น ชาติไทยอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหารถนอม-ประภาส ซึ่งไร้ประชาธิปไตยและเต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา-ประชาชนทนไม่ไหว จึงออกมาขับไล่รัฐบาลเผด็จการอย่างสันติกว่า 5 แสนคน
นั่นเป็นความกล้าหาญของผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ที่ไม่ต้องการคนโกงชาติ และไม่ต้องการเผด็จการทุกรูปแบบครองเมือง ที่สำคัญ..สู้อย่างสันติและไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ตัวเองครับ!
รัฐบาลเผด็จการยุคนั้นได้ส่งกองกำลังทหารออกมาเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่มีเพียงสองมือเปล่าอย่างโหดเหี้ยม จึงเกิดการต่อสู้จนมีการเผาสถานที่ราชการที่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐหลายแห่ง ทั้งโรงพัก-กองสลาก-โดยเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ที่รับใช้อำนาจรัฐอันชั่วช้าสารเลว ด้วยการออกข่าวให้ร้ายป้ายสีการต่อสู้ของปวงชนชาวไทยอย่างสามานย์อยู่ตลอดเวลา
หลังรัฐบาลเผด็จการทหารพ่ายแพ้ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา-ประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อชาติด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ ไม่มีใครหน้าไหนได้รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลชั่วคราวของนายกฯ “สัญญา ธรรมศักดิ์” เลย
14 ตุลาคม 2516 จึงเป็นการต่อสู้เพื่อชาติและประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระเมตตาจัดให้มีการพระราชทานเพลิงศพ เพื่อเป็นเกียรติแก่วีรชนประชาธิปไตย ที่ได้เสียสละชีวิตอย่างกล้าหาญที่กลางท้องสนามหลวง!
การเผาในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 กับ 19 พฤษภาฯ 2553 จึงเป็นการเผาที่ไม่เหมือนกัน คนดีจำใจต้อง-เผาเพื่อชาติ แต่คนชั่วจงใจเผาบ้านเมือง-เพื่อคนชั่วเพียงคนเดียว เนื้อหาสาระจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อใช้ธรรมพิเคราะห์ก็จะได้ข้อสรุปว่า
คนไทยต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ต้องการรัฐบาลเผด็จทหาร และเผด็จการรัฐสภาที่โกงชาติและขายชาติ ทางเดียวที่ชาติไทยจะไร้ความรุนแรงและจะสงบศานติอย่างถาวร คือ
คนดีต้องได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด และกีดกันทุกวิถีทางมิให้คนชั่วมีอำนาจ..จริงไหม?