xs
xsm
sm
md
lg

จ่อฟันพีซีซี โกงโรงพักฉาว หวั่นโฮปเวลล์2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดีเอสไอ เผยมีผู้รับเหมาช่วงก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศจากบ.พีซีซี ฐานฉ้อโกงแล้ว 25 ราย มูลค่าความเสียหาย 50 ล้าน ขีดเส้นหากไม่นำเอกสารการมอบอำนาจจาก สตช.ให้ไปจ้างช่วงต่อมายืนยัน จะดำเนินคดีทันที ด้านกมธ.การยุติธรรมและตำรวจ วุฒิฯ ชี้ปมตั้งโต๊ะขายช่วงต่อ ส่อมหากาพย์คล้ายโครงการโฮปเวลล์ เหตุไม่รู้ว่าจะบังคับส่งมอบพื้นที่คืนอย่างไร

วานนี้ (25 ก.พ.) พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีฉ้อโกงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีดังกล่าวว่า ล่าสุดมีผู้รับเหมาช่วงการก่อสร้างจากบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีฉ้อโกงกับบริษัท พีซีซีฯแล้ว 25 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารชี้แจงของบริษัท พีซีซีฯ ซึ่งยังมีเอกสารสำคัญบางส่วนที่ยังไม่ส่งมอบให้ดีเอสไอ โดยเฉพาะเอกสารการมอบอำนาจจาก สตช.ให้ไปจ้างช่วงต่อได้หรือไม่ โดยดีเอสไอได้แจ้งให้บริษัท พีซีซีฯส่งเอกสารสำคัญฉบับดังกล่าวมายืนยันกับดีเอสไอภายในสัปดาห์นี้ หากไม่ส่งมอบแสดงว่าบริษัท พีซีซีฯไม่ได้รับมอบอำนาจให้ไปจ้างช่วงต่อ แต่ได้นำงานที่ไม่ได้รับอนุญาตไปว่าจ้างช่วงต่อเข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงชัดเจน ดังนั้นตนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงกับผู้บริหารและผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท พีซีซีฯทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกเข้าชี้แจงเพิ่มเติม แต่หากมีเอกสารยืนยันว่าได้รับอนุญาตให้จ้างช่วงต่อก็จะยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา

พ.ต.ท.ถวัล กล่าวต่อว่า ดีเอสไอยังไม่สามารถระบุถึงจำนวนผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดที่ทำสัญญาจ้างช่วงกับบริษัท พีซีซีฯได้ เนื่องจากบางรายเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินลงทุนคืนหรือไม่ได้งานจากบริษัท พีซีซีฯอีก อย่างไรก็ตาม แม้ผู้เสียหายจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ครบทุกรายแต่ข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผู้เสียหายบางส่วนที่เข้าร้องทุกข์นั้นเพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนการเข้าร้องทุกข์ของ สตช. ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ดีเอสไอไม่ก้าวก่าย สำหรับกรณีที่บริษัท พีซีซีฯอ้างประเด็นสำคัญที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าไม่แล้วเสร็จตามกำหนดนั้นมองว่าเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่มีการส่งมอบงานได้ทันทีก็ไม่สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จกัน การอ้างว่าส่งมอบพื้นที่ล่าช้าทำให้งานก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญาจึงไม่สามารถรับฟังได้

ด้านพล.ต.ท.สมยศ ดีมาก ส.ว.สรรหา เลขานุการคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา กล่าวว่าตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า บริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าข่ายมีเจตนาฉ้อโกง โครงการจัดสร้างสถานีตำรวจทดแทนและอาคารที่พักอาศัย (แฟลตตำรวจ) 396 แห่ง ว่า การตรวจสอบของคณะอนุกรรมาธิการพัฒนากิจการตำรวจไม่ได้ชี้ว่าใครผิดใครถูก แต่จากการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลมีความชัดเจนว่าการขายช่วงต่อเป็นการทำขัดสัญญากับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการตั้งโต๊ะขายช่วงต่อ อย่างโครงการโรงพักขนาดใหญ่ราคากลางอยู่ที่ 27 ล้านบาท แต่จ่ายให้บริษัทรับจ้างช่วงต่อ 20 ล้านบาท ขณะนี้โรงพักขนาดกลางและขนาดเล็กก็ลดหลั่นกันลงไป ซึ่งเรื่องนี้คงต่อสู้กันอีกนาน แต่ความเสียหายและเดือดร้อนได้เกิดขึ้นแล้วกับตำรวจทั่วประเทศ

พล.ต.ท.สมยศ กล่าวต่อว่า ตนหวั่นว่ากรณีนี้จะกลายเป็นมหากาพย์การโกงแบบโฮปเวลล์อีกกรณีหนึ่ง เพราะยังไม่แน่ใจว่าถึงจะยกเลิกโครงการไปแล้ว จะบังคับคดีให้เขาส่งมอบพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จได้อย่างไร เพราะจนถึงขณะนี้มี 118 แห่งที่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ขณะที่อีก 200 กว่าแห่งก็ยังสร้างไม่เสร็จ กรณีดังกล่าวถึงแม้จะพาดพิงไปถึงอดีต ผบ.ตร.หลายคน แต่คนที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงคือคนที่ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา ข้ออ้างที่ว่าช่วยประหยัดงบหลวงได้ 800 ล้านบาท มันฟังไม่ขึ้น เพราะถึงวันนี้ความเสียหายมันปรากฏชัดเจนแล้ว ซึ่งได้ข่าวว่าขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เริ่มขยับโดยเตรียมตั้งอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะกรณีดังกล่าวสร้างความเสียหายทั่วประเทศ.
กำลังโหลดความคิดเห็น