ASTVผู้จัดการรายวัน-"วรงค์"แฉแผลใหม่ บริษัทจีนที่ซื้อข้าวจีทูจีไทย ที่แท้เป็นบริษัทขายลูกบอล อุปกรณ์กีฬา เครื่องครัว ไม่ได้มีธุรกิจค้าข้าว ท้า "บุญทรง"ออกมาชี้แจงใน 7 วัน หยัน "เต้น" แค่คำคุย ไม่เห็นจะมีใครไปแจ้งความกรณีแฉข้าวสารเน่า ปูดอีกยังมีข่าวเน่าเกลื่อนคาโกดังอีกเพียบ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการขายข้าวในรูปรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีนของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มีการตรวจสอบและติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ได้พบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า บริษัท จีเอสเอสจี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีกับไทย เป็นบริษัทที่ขายลูกรักบี้ วอลเลย์บอล ซอฟบอล และอุปกรณ์ด้านกีฬายี่ห้อวิคตอรี่ โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิต และยังขายอุปกรณ์ในครัวเรือนด้วย แต่ไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวเคยทำธุรกิจค้าข้าว แต่บริษัทนี้กลับได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้ซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ ยังขอทวงถามผลการตรวจสอบการขายข้าวจีทูจีที่นายบุญทรง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าได้ข้อสรุปไปถึงไหน และขอให้นายบุญทรงชี้แจงใน 5 ประเด็น คือ 1.นำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ คือ รัฐบาลไทยกับจีนออกมาโชว์สื่อมวลชน 2.ถ้าเป็นสัญญาการซื้อขายแบบจีทูจี เงินต้องเป็นของรัฐบาลจีน ต้องเอาแอลซีจากรัฐบาลจีนมาแสดงต่อสื่อมวลชน 3.นำหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลประเทศจีนที่มอบอำนาจให้นายปาล์มมาแสดง 4.นำหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนให้บริษัท จีเอสเอสจี และ 5.หนังสือมอบอำนาจของบริษัท จีเอสเอสจี ที่ให้อำนาจกับนายปาล์มมาโชว์
นพ.วรงค์กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้นำข้าวสารเน่าไปแฉในสภา และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์บอกว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับตน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ มีเพียงการไปลงบันทึกประจำวันเท่านั้น และหลังจากที่ได้เปิดเผยเรื่องข้าวสารเน่าไปแล้ว ยังได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่ามีการปลอมปนข้าวหอมมะลิ โดยใช้ข้าวเน่าไปใส่แทน ซึ่งไม่ใช่โกดังสหพืชผล อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ตนนำมาแสดง และไม่ใช่ข้าวจาก อ.จอมพระ ตามที่ทางรัฐบาลอ้าง แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นสถานที่ใด เพราะจะทำให้เกิดความตื่นตัวจากคนที่ทำผิด
"ขอท้านายบุญทรง ให้ออกมาชี้แจง โดยขอให้นายบุญทรงให้คำตอบว่าจะรับคำท้าหรือไม่ภายใน 7 วัน หากไม่ให้คำตอบก็เท่ากับรัฐบาลยอมรับว่ามีการปลอมปนข้าว ซึ่งผมพร้อมที่จะเดินทางไปด้วย ไม่เกี่ยงวันเวลา จะรอหลังเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ได้ แต่ไม่ท้านายณัฐวุฒิ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว"
สำหรับประเด็นที่ต้องการท้าไปยังนายบุญทรงมี 4 ข้อ คือ นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบโกดังรัฐบาล นำเซอเวเยอร์ที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างมาตรฐานไปตรวจสอบ นำแล็ปที่ตรวจสอบดีเอ็นเอข้าวหอมมะลิไปด้วย เนื่องจากมีการปลอมปนจำนวนมาก และต้องมีการผ่ากอง
ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ยังได้นำคลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นบันทึกภาพการปลอมปนข้าวในโรงสีที่เข้าโครงการจำนำข้าว โดยนำข้าวเสื่อมสภาพไปเก็บปนกับข้าวดีมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนด้วย พร้อมกันนี้ ยังได้มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลประกาศขายข้าว 5.8 แสนตัน แต่ขายได้แค่ 6-7% คือ 5 หมื่นตัน สาเหตุที่ทำให้ข้าวขายไม่ออก เพราะมีการปลอมปนมากด้วย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการขายข้าวในรูปรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีนของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มีการตรวจสอบและติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ได้พบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า บริษัท จีเอสเอสจี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีกับไทย เป็นบริษัทที่ขายลูกรักบี้ วอลเลย์บอล ซอฟบอล และอุปกรณ์ด้านกีฬายี่ห้อวิคตอรี่ โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิต และยังขายอุปกรณ์ในครัวเรือนด้วย แต่ไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวเคยทำธุรกิจค้าข้าว แต่บริษัทนี้กลับได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้ซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ ยังขอทวงถามผลการตรวจสอบการขายข้าวจีทูจีที่นายบุญทรง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าได้ข้อสรุปไปถึงไหน และขอให้นายบุญทรงชี้แจงใน 5 ประเด็น คือ 1.นำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ คือ รัฐบาลไทยกับจีนออกมาโชว์สื่อมวลชน 2.ถ้าเป็นสัญญาการซื้อขายแบบจีทูจี เงินต้องเป็นของรัฐบาลจีน ต้องเอาแอลซีจากรัฐบาลจีนมาแสดงต่อสื่อมวลชน 3.นำหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลประเทศจีนที่มอบอำนาจให้นายปาล์มมาแสดง 4.นำหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนให้บริษัท จีเอสเอสจี และ 5.หนังสือมอบอำนาจของบริษัท จีเอสเอสจี ที่ให้อำนาจกับนายปาล์มมาโชว์
นพ.วรงค์กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้นำข้าวสารเน่าไปแฉในสภา และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์บอกว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับตน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ มีเพียงการไปลงบันทึกประจำวันเท่านั้น และหลังจากที่ได้เปิดเผยเรื่องข้าวสารเน่าไปแล้ว ยังได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่ามีการปลอมปนข้าวหอมมะลิ โดยใช้ข้าวเน่าไปใส่แทน ซึ่งไม่ใช่โกดังสหพืชผล อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ตนนำมาแสดง และไม่ใช่ข้าวจาก อ.จอมพระ ตามที่ทางรัฐบาลอ้าง แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นสถานที่ใด เพราะจะทำให้เกิดความตื่นตัวจากคนที่ทำผิด
"ขอท้านายบุญทรง ให้ออกมาชี้แจง โดยขอให้นายบุญทรงให้คำตอบว่าจะรับคำท้าหรือไม่ภายใน 7 วัน หากไม่ให้คำตอบก็เท่ากับรัฐบาลยอมรับว่ามีการปลอมปนข้าว ซึ่งผมพร้อมที่จะเดินทางไปด้วย ไม่เกี่ยงวันเวลา จะรอหลังเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ได้ แต่ไม่ท้านายณัฐวุฒิ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว"
สำหรับประเด็นที่ต้องการท้าไปยังนายบุญทรงมี 4 ข้อ คือ นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบโกดังรัฐบาล นำเซอเวเยอร์ที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างมาตรฐานไปตรวจสอบ นำแล็ปที่ตรวจสอบดีเอ็นเอข้าวหอมมะลิไปด้วย เนื่องจากมีการปลอมปนจำนวนมาก และต้องมีการผ่ากอง
ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ยังได้นำคลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นบันทึกภาพการปลอมปนข้าวในโรงสีที่เข้าโครงการจำนำข้าว โดยนำข้าวเสื่อมสภาพไปเก็บปนกับข้าวดีมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนด้วย พร้อมกันนี้ ยังได้มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลประกาศขายข้าว 5.8 แสนตัน แต่ขายได้แค่ 6-7% คือ 5 หมื่นตัน สาเหตุที่ทำให้ข้าวขายไม่ออก เพราะมีการปลอมปนมากด้วย
