“รัฐมนตรีเด็กแม้วสายพระ” อ้างสมเด็จวัดเทพฯ มีเหตุผลแต่งตั้ง น้องแม้ว เทียบขั้น “พระครูปลัด” แฉ!มือมืดจัดให้ สั่งเคเบิลทีวี “ DDTV ” ที่ครบรอบ 3 ปี นิมนต์ "พระพายัพ" ขึ้นเวทีเคลียร์ที่มาบวช 7 วันเทียบชั้นสงฆ์ ด้านส.ส.เพื่อไทย ทำไปได้! วอน“ให้ท่านบวชอย่างสงบ อย่ายุ่งกับท่านเลย” ด้านผอ.พศ.ยันไม่จำเป็นนำเข้าที่ประชุม เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมเด็จฯ ขณะที่"พระพยอม"ยันไม่ควรยึดเรื่องพรรษา
วานนี้ (19 )นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีแต่งตั้งพระพายัพ เขมะคุโณ เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์นั้น เป็นสิทธิและอำนาจสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสไม่เกี่ยวกับพศ.
ถามว่าต่อว่า ขณะนี้ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติของพระพายัพ ในฐานะกำกับดูแล พศ.จะสอบถามข้อเท็จจริงจากสมเด็จพระธีรญาณมุนีหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตนเชื่อว่าท่านคงมีเหตุผลของท่าน เพราะที่ผ่านมาท่านก็เคยแต่งตั้งพระรูปอื่นเป็นพระฐานานุกรม เพื่อทำหน้าที่เป็นคณะทำงาน แต่ไม่มีใครสนใจ แต่การแต่งตั้งครั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า พระพายัพ นามสกุล ชินวัตร เลยถูกจับตามองจากสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีโทรทัศน์ DDTV (เคเบิลทีวี) ได้เผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์ระบุว่า ขอเรียนเชิญ พุทธศาสนิกชนคนไทยทุกๆ คนร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายวิทยุกระจายเสียงพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีของสถานีโทรทัศน์ธรรมาธิปไตยของคณะสงฆ์ DDTV ที่อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต วันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีการปาฐกถากำหนดทิศทางของสังคมไทยงานเริ่มตั้งแต่ 8.00 น. ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พระพายัพจะมาร่วมเสวนาด้วย
ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามไปยัง DDTV โดยทางเจ้าหน้าที่ DDTV แจ้งว่า ปีนี้จัดงานครบรอบ 3 ปี จึงจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก โดยมีการออกบูธจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับศาสนาของวัดต่างๆ พร้อมกันนี้มีกิจกรรมเสวนา รวมถึงได้นิมนต์พระพายัพ รวมถึงพระเถรผู้ใหญ่อีกหลายรูปมาร่วมเวทีเสวนาวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ แต่ทาง DDTV ยังไม่ได้กำหนดหัวข้ออย่างชัดเจนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเหตุผลที่นิมนต์พระพายัพ เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านชี้แจงทุกข้อคำถามที่สังคมข้องใจสงสัยทุกเเรื่องด้วย
ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า การแต่งตั้งพระพายัพ เป็นอำนาจของสมเด็จพระธีรญาณมุนี ส่วนเรื่องเหตุผลนั้นตนไม่ทราบคงต้องไปสอบถามจากสมเด็จพระธีรญาณมุนี แต่ก็เชื่อว่าท่านคงมีเหตุผลในการแต่งตั้ง เมื่อถามว่าจะต้องนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส) วันที่ 20 กุมภาพันธ์ หรือไม่ ตนคิดว่าคงไม่จำเป็นนำเข้าที่ประชุม เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมเด็จพระธีรญาณมุนี มส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า การแต่งตั้งพระครูในฐานานุกรมของสมเด็จพระราชาคณะนั้นเป็นสิทธิของพระสงฆ์รูปนั้นๆ เพราะพระสงฆ์ซึ่งมีสมณศักดิ์ ตั้งแต่พระราชาคณะขึ้นไปสามารถแต่งตั้งพระในฐานานุกรมได้ทันที
โดยหลักฐานสำคัญที่จะระบุว่า การแต่งตั้งพระพายัพ ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ คือ ใบตราตั้งที่จะต้องออกโดยสมเด็จพระธีรญาณมุนี โดยปกติแล้วในการแต่งตั้งจะต้องพิจารณาจากความเหมาะสมโดยเบื้องต้นจะมีการพิจารณาว่ามีพรรษาครบ 10 พรรษาหรือไม่ ถ้ายังบวชไม่ครบก็จะพิจารณาว่ามีการทำงานสนองงานพระพุทธศาสนาหรือไม่ มากน้อยเพียงใด
นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบมาก่อนว่าพระพายัพ (นายพายัพ ชินวัตร) จะบวช แต่พระพายัพเป็นคนธรรมะธรรมโมชอบทำบุญเข้าวัดมานานแล้ว เป็นโยมอุปัฎฐากหลักของวัดหลายแห่งในจ.ศรีสะเกษ ส่วนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีพระพายัพได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" เนื่องจากบวชได้ไม่นานนั้น เท่าที่ทราบ ตำแหน่งบางตำแหน่งพระสังฆาธิการ พระชั้นผู้ใหญ่สามารถตั้งเองได้ ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นเพราะความเป็นคนในตระกูลชินวัตรหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้บวช อย่าได้ไปยุ่งกับท่านอีกเลย
ด้าน พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ
เมื่อถามว่า แต่หลักการกำหนดให้พระที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น พระฐานานุกรม ต้องบวชหลายพรรษา พระพยอมระบุว่า “อาตมาเห็นว่าเราไม่ควรจะไปยึดเรื่องพรรษากันได้แล้ว เพราะพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา แต่ไม่เคยทำคุณงามความดี หรืออะไรที่เป็นประโยชน์แก่พระศาสนาก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่งอะไรให้เลย”.
