“พระพยอม” ชี้ “พระพายัพ” มีได้สิทธิรับตำแหน่งพระครูปลัดฯ หากข่าวเคยสร้างโบสถ์เป็นเรื่องจริง โอดแทนปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ พร้อมแนะเลิกยึดติดกับเงื่อนเวลาได้แล้ว อ้างพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา แต่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนาก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.พ.) สำนักข่าวอิศรา ได้จับประเด็นกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พระพายัพ (นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง “พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์” หลังเพิ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าอาจมีความไม่เหมาะสมนั้น
พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า การแต่งตั้งพระฐานานุกรม มีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 2 ข้อ คือ 1. ต้องอุปสมบทมาหลายพรรษา และ 2. ต้องมีผลงานการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา ซึ่งก่อนจะให้สัมภาษณ์ อาตมาเห็นข่าวว่าพระพายัพมีผลงานในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาหลายประการ เช่น การสร้างโบสถ์ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง พระพายัพก็มีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมได้
“การแต่งตั้งพระฐานานุกรมเป็นสิทธิของผู้ให้ เมื่อผู้ให้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้รับมีสิทธิที่จะได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และที่สำคัญ พระพายัพ ก็บวชไม่นาน พระคู่แข่งในตำแหน่งนี้ก็ไม่น่าจะมีความวิตกกังวลอะไร"
พระพยอมกล่าวย้ำว่า “ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายของคนชื่อทักษิณ”
เมื่อถามว่า แต่หลักการกำหนดให้พระที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น พระฐานานุกรม ต้องบวชหลายพรรษา พระพยอมระบุว่า “อาตมาเห็นว่าเราไม่ควรจะไปยึดเรื่องพรรษากันได้แล้ว เพราะพระบางรูปบวชมานานหลายพรรษา แต่ไม่เคยทำคุณงามความดี หรืออะไรที่เป็นประโยชน์แก่พระศาสนาก็ไม่ควรเลื่อนตำแหน่งอะไรให้เลย”
ข้อมูลจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า ฐานานุกรม คือ ชื่อเรียกลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย ซึ่งภิกษุผู้มีตำแหน่งทางการปกครอง หรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่งมีสิทธิตั้งพระรูปอื่นให้เป็นฐานานุกรมได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น พระสงฆ์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญ ตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง
ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก “พระครู” นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง พระในตำแหน่งเหล่านี้บางทีเรียกประทวนสัญญาบัตรบ้าง ฐานาประทวนบ้าง และเนื่องจากสมณศักดิ์เหล่านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้พระราชทานเอง ดังนั้น เมื่อพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่ได้ตั้งฐานานุกรมไว้มรณภาพ ตำแหน่งฐานานุกรมต่างๆ ก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดไปด้วย เรียกกันในภาษาปากว่า พระครูม่าย หรือฐานาม่าย จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมใหม่