ASTVผู้จัดการายวัน-ป้ายแดงปลอมยังระบาด ลูกค้ารถคันแรกร้องถูกตำรวจจับโดยไม่รู้ “ชัชชาติ”ปัดไม่เกี่ยวนโยบายรถคันแรก ด้านกรมขนส่งฯ ชี้เป็นปัญหาการหมุนเวียนป้ายของบริษัทรถยนต์เอง เผยเซลล์ขายรถมีป้ายแดงปลอมในมือเฉลี่ยคนละ 5 คู่
รายงานข่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาป้ายแดงปลอมยังไม่หมดไปตามกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมายืนยัน เนื่องจากยังมีประชาชนถูกบริษัทผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ให้ป้ายแดงปลอมมาใช้ระหว่างรอป้ายทะเบียนดำ (แผ่นป้ายสีขาวตัวหนังสือสีดำ) จนถูกตำรวจจับ โดยล่าสุดได้มีเจ้าของรถป้ายแดงตามนโยบายรถคันแรกซึ่งได้ซื้อรถจาก บริษัท โตโยต้า ลิบรา จํากัด สาขาเกษตร-นวมินทร์ ร้องเรียนว่า ถูกตำรวจจับและยึดใบขับขี่ ข้อหาไม่ใช้แผ่นป้ายของทางราชการ (ป้ายแดงปลอม) โดยที่เจ้าของรถไม่ทราบว่าป้ายแดงที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ โตโยต้า ให้มานั้นเป็นของปลอม และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ขณะนี้มีรถที่ใช้แผ่นป้ายแดงปลอมเป็นจำนวนมาก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาป้ายแดงปลอมเพราะการหมุนเวียนไม่ทัน ซึ่ง กรมขนส่งฯได้แก้ปัญหาโดยผลิตเพิ่มแล้ว ซึ่งหลักการของป้ายแดงเป็นการใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ คือเพื่อรอป้ายทะเบียนดำหรือรถยนต์ที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมเท่านั้น ซึ่งบริษัทรถมีหน้าที่ต้องเร่งนำป้ายแดงไปคืนเพื่อเปลี่ยนเป็นป้ายดำปกติให้ผู้ซื้อรถ โดยจะให้กรมขนส่งฯไปตรวจสอบเรื่องนี้อีก เพราะการนำป้ายแดงปลอมมาใช้ถือว่าเป็นการกระทำผิด
“เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับ นโยบายรถคันแรก เพราะจะเป็นการจอง ส่วนรถจะทยอยออกมา ไม่ได้ออกมาพร้อมกัน และจำนวนป้ายที่กรมขนส่งฯผลิต เพียงพอ กับจำนวนรถที่จะจดทะเบียน ส่วนจำนวนป้ายแดงเป็นเรื่องการหมุนเวียนด้วยซึ่งบริษัทรถต้องรับผิดชอบลูกค้าด้วย”นายชัชชาติกล่าว
ด้านนายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การที่บริษัทรถยนต์ หรือ ดีลเลอร์ นำป้ายแดงปลอมมาให้บริการกับประชาชนนั้น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดเนื่องจากเป็นการปลอมเอกสารของทางราชการ โดยจะเป็นการกระทำความผิดซึ่งจะมีโทษทางอาญา ส่วนผู้ใช้ป้ายแดงปลอมนั้น หากมีการพิจารณาแล้วว่าไม่ได้มีการเจตานาในการใช้ก็ถือว่าไม่มีความผิด
การดำเนินการเอาผิดต่อดีลเลอร์รถนั้น ประชาชนสามารถร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ซึ่งกรณีความผิดดังกล่าวนั้นเป็นความผิดที่มีโทษทางกฎหมายอาญา ที่บริษัทขายรถต้องจะต้องรับผิดชอบ
ขณะนี้จำนวนป้ายแดงและป้ายดำมีเพียงพอต่อความต้องการแน่นอน และขอประชาชนรีบดำเนินการขอจดทะเบียน โดยนำเอกสารที่ถูกต้องมายื่นจดทะเบียนที่กรมขนส่งเพื่อประโยชน์ของเจ้าขอรถเอง โดยป้ายแดงนั้นบริษัทรถยนต์จะมาซื้อจากกรมขนส่งฯเพื่อนำไปให้บริการกับลูกค้า มีต้นทุนแผ่นป้ายละ 100 บาทพร้อมคู่มือ ส่วนปัญหาป้ายแดงปลอมนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการหมุนเวียนป้ายไม่ทัน หากเป็นป้ายแดงจริงจะมีตัวอักษร”ขส”ปั๊มนูนบริเวณมุมล่างด้านขวา ส่วนป้ายปลอมจะไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว
ปัจจุบัน จำนวนรถจดทะเบียนที่ขนส่งฯทั่วประเทศเฉลี่ย 15,000 คันต่อวัน โดยเป็นรถจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,000 คัน ซึ่งลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2555 ที่มีรถจดทะเบียนทั่วประเทศมากถึง 1 7,000 คันต่อวัน
ก่อนหน้านี้ กรมขนส่งฯได้ประมูลคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาผลิตแผ่นป้ายทะเบียนแล้ว โดยจะผลิตป้ายทะเบียนใหม่รวม 7.14 ล้านแผ่น ประกอบด้วย แผ่นป้ายแดง 1.4 แสนแผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 4 ล้านแผ่น และแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 3 ล้านแผ่น ซึ่งจะแก้ปัญหาทั้งป้ายแดงขาดแคลน ป้ายแตกลายงาที่รอการเปลี่ยนใหม่ แบบเบ็ดเสร็จ โดยจะทยอยส่งมอบมาใช้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 โดยป้ายทะเบียนทั้ง 7.14 ล้านแผ่นจะสามารถรองรับการจดทะเบียนรถใหม่ได้ไปถึงปี 2556
พนักงานขายรถยนต์รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า โดยปกติป้ายแดงที่ให้ลูกค้าใช้ระหว่างรอแผ่นป้ายดำนั้นจะมีคู่มือและเก็บค่ามัดจำป้ายแดงกับลูกค้าจำนวน 3,000 บาท โดยลูกค้าจะได้ค่ามัดจำคืนเมื่อจดทะเบียนเป็นป้ายดำและนำป้ายแดงมาคืน ซึ่งปัญหาป้ายแดงปลอมนั้นเกิดขึ้นเพราะจำนวนป้ายแดงที่บริษัทรถยนต์สต๊อกไว้ไม่สอดคล้องกับปริมาณยอดขาย
ทำให้การหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงรวมถึงกรณีที่ลูกค้าจดทะเบียนป้ายดำล่าช้าใช้เวลานานกว่าปกติ เช่น รอล็อคเลขทะเบียน เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ เซลล์ขายรถแต่ละคนจะมีแผ่นป้ายแดงปลอมในมือประมาณ 5 คู่
รายงานข่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาป้ายแดงปลอมยังไม่หมดไปตามกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมายืนยัน เนื่องจากยังมีประชาชนถูกบริษัทผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ให้ป้ายแดงปลอมมาใช้ระหว่างรอป้ายทะเบียนดำ (แผ่นป้ายสีขาวตัวหนังสือสีดำ) จนถูกตำรวจจับ โดยล่าสุดได้มีเจ้าของรถป้ายแดงตามนโยบายรถคันแรกซึ่งได้ซื้อรถจาก บริษัท โตโยต้า ลิบรา จํากัด สาขาเกษตร-นวมินทร์ ร้องเรียนว่า ถูกตำรวจจับและยึดใบขับขี่ ข้อหาไม่ใช้แผ่นป้ายของทางราชการ (ป้ายแดงปลอม) โดยที่เจ้าของรถไม่ทราบว่าป้ายแดงที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ โตโยต้า ให้มานั้นเป็นของปลอม และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ขณะนี้มีรถที่ใช้แผ่นป้ายแดงปลอมเป็นจำนวนมาก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาป้ายแดงปลอมเพราะการหมุนเวียนไม่ทัน ซึ่ง กรมขนส่งฯได้แก้ปัญหาโดยผลิตเพิ่มแล้ว ซึ่งหลักการของป้ายแดงเป็นการใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ คือเพื่อรอป้ายทะเบียนดำหรือรถยนต์ที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมเท่านั้น ซึ่งบริษัทรถมีหน้าที่ต้องเร่งนำป้ายแดงไปคืนเพื่อเปลี่ยนเป็นป้ายดำปกติให้ผู้ซื้อรถ โดยจะให้กรมขนส่งฯไปตรวจสอบเรื่องนี้อีก เพราะการนำป้ายแดงปลอมมาใช้ถือว่าเป็นการกระทำผิด
“เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับ นโยบายรถคันแรก เพราะจะเป็นการจอง ส่วนรถจะทยอยออกมา ไม่ได้ออกมาพร้อมกัน และจำนวนป้ายที่กรมขนส่งฯผลิต เพียงพอ กับจำนวนรถที่จะจดทะเบียน ส่วนจำนวนป้ายแดงเป็นเรื่องการหมุนเวียนด้วยซึ่งบริษัทรถต้องรับผิดชอบลูกค้าด้วย”นายชัชชาติกล่าว
ด้านนายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การที่บริษัทรถยนต์ หรือ ดีลเลอร์ นำป้ายแดงปลอมมาให้บริการกับประชาชนนั้น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดเนื่องจากเป็นการปลอมเอกสารของทางราชการ โดยจะเป็นการกระทำความผิดซึ่งจะมีโทษทางอาญา ส่วนผู้ใช้ป้ายแดงปลอมนั้น หากมีการพิจารณาแล้วว่าไม่ได้มีการเจตานาในการใช้ก็ถือว่าไม่มีความผิด
การดำเนินการเอาผิดต่อดีลเลอร์รถนั้น ประชาชนสามารถร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ซึ่งกรณีความผิดดังกล่าวนั้นเป็นความผิดที่มีโทษทางกฎหมายอาญา ที่บริษัทขายรถต้องจะต้องรับผิดชอบ
ขณะนี้จำนวนป้ายแดงและป้ายดำมีเพียงพอต่อความต้องการแน่นอน และขอประชาชนรีบดำเนินการขอจดทะเบียน โดยนำเอกสารที่ถูกต้องมายื่นจดทะเบียนที่กรมขนส่งเพื่อประโยชน์ของเจ้าขอรถเอง โดยป้ายแดงนั้นบริษัทรถยนต์จะมาซื้อจากกรมขนส่งฯเพื่อนำไปให้บริการกับลูกค้า มีต้นทุนแผ่นป้ายละ 100 บาทพร้อมคู่มือ ส่วนปัญหาป้ายแดงปลอมนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการหมุนเวียนป้ายไม่ทัน หากเป็นป้ายแดงจริงจะมีตัวอักษร”ขส”ปั๊มนูนบริเวณมุมล่างด้านขวา ส่วนป้ายปลอมจะไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว
ปัจจุบัน จำนวนรถจดทะเบียนที่ขนส่งฯทั่วประเทศเฉลี่ย 15,000 คันต่อวัน โดยเป็นรถจดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,000 คัน ซึ่งลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2555 ที่มีรถจดทะเบียนทั่วประเทศมากถึง 1 7,000 คันต่อวัน
ก่อนหน้านี้ กรมขนส่งฯได้ประมูลคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาผลิตแผ่นป้ายทะเบียนแล้ว โดยจะผลิตป้ายทะเบียนใหม่รวม 7.14 ล้านแผ่น ประกอบด้วย แผ่นป้ายแดง 1.4 แสนแผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 4 ล้านแผ่น และแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 3 ล้านแผ่น ซึ่งจะแก้ปัญหาทั้งป้ายแดงขาดแคลน ป้ายแตกลายงาที่รอการเปลี่ยนใหม่ แบบเบ็ดเสร็จ โดยจะทยอยส่งมอบมาใช้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 โดยป้ายทะเบียนทั้ง 7.14 ล้านแผ่นจะสามารถรองรับการจดทะเบียนรถใหม่ได้ไปถึงปี 2556
พนักงานขายรถยนต์รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า โดยปกติป้ายแดงที่ให้ลูกค้าใช้ระหว่างรอแผ่นป้ายดำนั้นจะมีคู่มือและเก็บค่ามัดจำป้ายแดงกับลูกค้าจำนวน 3,000 บาท โดยลูกค้าจะได้ค่ามัดจำคืนเมื่อจดทะเบียนเป็นป้ายดำและนำป้ายแดงมาคืน ซึ่งปัญหาป้ายแดงปลอมนั้นเกิดขึ้นเพราะจำนวนป้ายแดงที่บริษัทรถยนต์สต๊อกไว้ไม่สอดคล้องกับปริมาณยอดขาย
ทำให้การหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงรวมถึงกรณีที่ลูกค้าจดทะเบียนป้ายดำล่าช้าใช้เวลานานกว่าปกติ เช่น รอล็อคเลขทะเบียน เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ เซลล์ขายรถแต่ละคนจะมีแผ่นป้ายแดงปลอมในมือประมาณ 5 คู่