บช.น.แถลงผลจับกุมตัวคนร้ายก่อเหตุทุบกระจกรถเบ็นซ์อดีตนางสาวไทยและนักแสดงชื่อดัง ก่อนฉกทรัพย์สินไปได้มูลค่ากว่า 2 แสน พร้อมล่า"ไอ้น๊อต"หัวหน้าแก๊ง สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และนำเงินที่ได้มาไปเสพยาฯ ประวัติติดตัวหลายคดี
วานนี้ (10 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมดัวยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แถลงจับกุมตัว นายหนึ่ง หรือแจ๊ค สิทธิ์น้อย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทุบรถน.ส.สุจิรา หรือนุ้ย อรุณพิพัฒน์ อดีตนางสาวไทย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 128/2556 ลงวันที่ 7 ก.พ.56 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าถือแบบหญิง สีดำยี่ห้อชาแนล รุ่น GST CAVALAR SHW จำนวน 1 ใบ หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีขาว กระจกสีชมพู ยี่ห้ออินเด็กซ์ จำนวน 1 ใบ และเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีแดง ยี่ห้อ GILDAN ที่ใช้ในวันก่อเหตุ สามารถจับกุมได้บริเวณโกลด์อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทอง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 12.20 น. นางสาวสุจิรา หรือนุ้ย ได้ขับรถยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ธ-9764 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านตัวเอง เลขที่ 60/9 ถนนเสนานิคมซอย 117 แยก 3 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
จากนั้นเวลาประมาณ 12.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายสองคน คือ นายหนึ่ง หรือแจ๊ค ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฟีโน่ สีม่วงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีนายธนาวุฒิ หรือน๊อต แชสังข์ ได้ลงจากรถ จยย. แล้วมาที่รถยนต์ของน.ส.สุจิรา ส่องหาทรัพย์สินภายในรถยนต์ เมื่อพบว่าผู้เสียหายได้วางกระเป๋าสะพายทิ้งไว้ที่เบาะด้านหลังรถ นายธนาวุฒิได้ใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ด้านหลังขวาคนขับ จากนั้นได้ล้วงเข้าไปเอาทรัพย์สินแล้วรีบขึ้นรถ จยย. หลบหนีไปใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10 วินาที ซึ่งนายธนาวุฒิ ทางศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติออกหมายจับที่ 139/2556 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวน นายหนึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้รู้จักกับนายธนาวุฒิ หรือน๊อต เพราะอยู่ชุมชนเดียวกัน และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้เพียง 3 เดือนพร้อมกับนายน๊อต แล้วก็มาลงมือก่อเหตุทุบรถอดีตนางสาวไทยโดยไม่ทราบมาก่อนด้วยซ้ำว่า เป็นรถของน.ส.สุจิรา ทีแรกเลือกจะก่อเหตุบ้านข้างหน้าเพราะวนรถมาดูก่อนแล้ว แต่เห็นมีรถมาจอดใหม่เมื่อส่องดูแล้วพบกระเป๋าในรถต้องมีทรัพย์สินแน่นอนจึงบอกนายน๊อตนำไขควงมางัด เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วรีบวนรถออกไปทันที ซึ่งเวลาก่อเหตุนั้นเลือกไม่ได้อยู่ที่เห็นของกลางจะลงมือทันที โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปเสพยา ยังรับอีกว่าตนได้ก่อเหตุและมีคดีติตตัวมา 5 ครั้ง ในคดีพกพาอาวุธปืน คดียาเสพติด คดีร่วมกันชิงทรพัย์ ท้องที่ สน.หัวหมาก สน.มักกะสัน และล่าสุด สน.โชคชัย
ด้าน น.ส.สุจิรา หรือนุ้ย กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินนั้นยังได้ไม่ครบยังขาด กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อชาแนล โทรศัพท์ไอโฟน 4 สมุดบัญชีธนาคาร แหวนเพชร และพระเครื่อง รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ซึ่งคิดว่าคนร้ายนำไปขายหมดแล้ว แต่ได้รับความดูแลอย่างดีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผกก.สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่ทำงานกันแบบไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งตนเองก็พอใจ ณ ตอนนี้ ที่ได้ของคืนมาบางส่วนเป็นกระเป๋าสะพายจำนวน 1 ใบ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ถ้าไม่ประมาทก็ไม่ตกเป็นเหยื่อค่ะ อยากฝากจากใจว่าอยากให้เยาวชนเหล่านี้กลับตัวกลับใจจะทำอย่างไรดีให้หมดไปจากสังคมเพราะถ้าเราไม่เจอแก๊งนี้ก็คิดว่าจะต้องเจอแก๊งอื่น เพราะจากที่ถามคนรู้จักมาคนโน้นก็โดนคนนี้ก็โดน ซึ่งเหตุเกิดรายวันเลย แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มแบบนี้อีกเยอะไม่อย่างนั้นเราอยู่บ้านเราก็ต้องระแวงอยู่เรื่อยๆ จะมีวิธีการอะไรบ้างที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว น.ส.สุจิรา ได้นำกระเช้าขนมมอบให้ทาง พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 เป็นการขอบคุณที่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้.
วานนี้ (10 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมดัวยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แถลงจับกุมตัว นายหนึ่ง หรือแจ๊ค สิทธิ์น้อย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทุบรถน.ส.สุจิรา หรือนุ้ย อรุณพิพัฒน์ อดีตนางสาวไทย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 128/2556 ลงวันที่ 7 ก.พ.56 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าถือแบบหญิง สีดำยี่ห้อชาแนล รุ่น GST CAVALAR SHW จำนวน 1 ใบ หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีขาว กระจกสีชมพู ยี่ห้ออินเด็กซ์ จำนวน 1 ใบ และเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีแดง ยี่ห้อ GILDAN ที่ใช้ในวันก่อเหตุ สามารถจับกุมได้บริเวณโกลด์อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทอง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 12.20 น. นางสาวสุจิรา หรือนุ้ย ได้ขับรถยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ธ-9764 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านตัวเอง เลขที่ 60/9 ถนนเสนานิคมซอย 117 แยก 3 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
จากนั้นเวลาประมาณ 12.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายสองคน คือ นายหนึ่ง หรือแจ๊ค ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฟีโน่ สีม่วงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีนายธนาวุฒิ หรือน๊อต แชสังข์ ได้ลงจากรถ จยย. แล้วมาที่รถยนต์ของน.ส.สุจิรา ส่องหาทรัพย์สินภายในรถยนต์ เมื่อพบว่าผู้เสียหายได้วางกระเป๋าสะพายทิ้งไว้ที่เบาะด้านหลังรถ นายธนาวุฒิได้ใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ด้านหลังขวาคนขับ จากนั้นได้ล้วงเข้าไปเอาทรัพย์สินแล้วรีบขึ้นรถ จยย. หลบหนีไปใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10 วินาที ซึ่งนายธนาวุฒิ ทางศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติออกหมายจับที่ 139/2556 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวน นายหนึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้รู้จักกับนายธนาวุฒิ หรือน๊อต เพราะอยู่ชุมชนเดียวกัน และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้เพียง 3 เดือนพร้อมกับนายน๊อต แล้วก็มาลงมือก่อเหตุทุบรถอดีตนางสาวไทยโดยไม่ทราบมาก่อนด้วยซ้ำว่า เป็นรถของน.ส.สุจิรา ทีแรกเลือกจะก่อเหตุบ้านข้างหน้าเพราะวนรถมาดูก่อนแล้ว แต่เห็นมีรถมาจอดใหม่เมื่อส่องดูแล้วพบกระเป๋าในรถต้องมีทรัพย์สินแน่นอนจึงบอกนายน๊อตนำไขควงมางัด เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วรีบวนรถออกไปทันที ซึ่งเวลาก่อเหตุนั้นเลือกไม่ได้อยู่ที่เห็นของกลางจะลงมือทันที โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปเสพยา ยังรับอีกว่าตนได้ก่อเหตุและมีคดีติตตัวมา 5 ครั้ง ในคดีพกพาอาวุธปืน คดียาเสพติด คดีร่วมกันชิงทรพัย์ ท้องที่ สน.หัวหมาก สน.มักกะสัน และล่าสุด สน.โชคชัย
ด้าน น.ส.สุจิรา หรือนุ้ย กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินนั้นยังได้ไม่ครบยังขาด กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อชาแนล โทรศัพท์ไอโฟน 4 สมุดบัญชีธนาคาร แหวนเพชร และพระเครื่อง รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ซึ่งคิดว่าคนร้ายนำไปขายหมดแล้ว แต่ได้รับความดูแลอย่างดีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผกก.สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่ทำงานกันแบบไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งตนเองก็พอใจ ณ ตอนนี้ ที่ได้ของคืนมาบางส่วนเป็นกระเป๋าสะพายจำนวน 1 ใบ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ถ้าไม่ประมาทก็ไม่ตกเป็นเหยื่อค่ะ อยากฝากจากใจว่าอยากให้เยาวชนเหล่านี้กลับตัวกลับใจจะทำอย่างไรดีให้หมดไปจากสังคมเพราะถ้าเราไม่เจอแก๊งนี้ก็คิดว่าจะต้องเจอแก๊งอื่น เพราะจากที่ถามคนรู้จักมาคนโน้นก็โดนคนนี้ก็โดน ซึ่งเหตุเกิดรายวันเลย แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มแบบนี้อีกเยอะไม่อย่างนั้นเราอยู่บ้านเราก็ต้องระแวงอยู่เรื่อยๆ จะมีวิธีการอะไรบ้างที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว น.ส.สุจิรา ได้นำกระเช้าขนมมอบให้ทาง พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 เป็นการขอบคุณที่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้.