xs
xsm
sm
md
lg

ตร.รวบแก๊งทุบรถเซียนแขกฉกพระเครื่องมูลค่า 10 ล้านได้แล้ว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)ที่เกิดเหตุ
ผบช.น.แถลงข่าวผลงานตำรวจชุดสืบสวน สน.ประชาชื่น ติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายทุบรถเซียนแขก เซียนพระเครื่องฉกพระเครื่องพร้อมทรัพย์สินนับ 10 ล้าน ภายในรถฟอร์จูนเนอร์ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ได้แล้ว ผู้เสียหายสุดโชคดีได้พระเครื่องคืนครบหมด พร้อมกับมอบรางวัลนำจับให้ชุดสืบสวนเป็นขวัญกำลังใจ 2 แสนบาท

วันนี้ (15 ก.พ. ) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ปราศรัย จิตตสนธิ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ธนิศร บุญแม้น รอง ผกก. พ.ต.ท.สมใจ เมฆหมอก พ.ต.ท.มานะ พึ่งมี สว.สส.สน.ประชาชื่น แถลงผลการจับกุมตัวนายสุทธิสาร หรือ ต๊ะ นาคสีสุข อายุ 18 ปี และ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน สปว 950 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนสั้นยี่ห้อโคลต์ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ซัมซุงกาแล็กซี่แท็บ 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเครื่องเลี่ยมทอง 9 องค์ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่องเลี่ยมทอง 5 องค์ 1 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองจำนวน 4 องค์ สร้อยคอพิงค์โกลด์หนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่อง 2 องค์ กุมารทองเลี่ยมทองหนัก 6 บาท จำนวน 1 องค์ เงินสด 100,000 บาท ทรัพย์สินทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าชุมชนร่วมสามัคคี ซอยรามคำแหง 39 แยก 13 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.

พ.ต.อ.ปราศรัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 7 ก.พ.ตำรวจ สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเหตุทุบรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายทะเบียน ฎจ 5055 กรุงเทพมหานคร บริเวณซอยวงศ์สว่าง 23 แขวงและเขตบางซื่อ กทม.ซึ่งเป็นรถของ นายพิชย์พิเชษฐ์ หรือ เซียนแขก อังศุนาค อายุ 35 ปี เซียนพระเครื่องชื่อดังทางภาคใต้ โดยคนร้ายได้ลักเอากระเป๋าเป้ไป 1 ใบ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินอยู่จำนวนมาก ก่อนหลบหนีไป จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเชื่อมโยงกับแก๊งทุบรถย่านโชคชัย คือ “แก๊งแปดเซียน” และถูกตำรวจที่ สน.โชคชัย จับกุมไปก่อนหน้านี้ จึงสืบสวนหาเบาะแสจากแก๊งแปดเซียน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยมีหลักฐานสำคัญคือเสื้อยืดสีน้ำตาลที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อเหตุ เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก็ทราบว่า คนร้ายคือนายสุทธิสาร และ นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนได้แยกตัวออกมาตั้งชื่อแก๊งใหม่ว่า “แก๊งจ๊ากคู่ ต่อมาชุดสืบสวนพบตัวนายสุทธิสาร ที่บริเวณชุมชนร่วมสามัคคี และมีรูปพรรณตรงกับภาพของกล้องวงจรปิดที่ไว้ได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายสุทธิสาร ให้การรับสารภาพว่า ได้แยกตัวออกมาจากแก๊งแปดเซียน เพื่อก่อเหตุทุบรถดังกล่าว และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2555 ในวันเกิดเหตุทำหน้าที่ขับขี่รถ จยย.ส่วนนายเอ ทำหน้าที่เป็นคนงัดกระจกรถ สาเหตุที่ใช้ชื่อแก๊งจ๊ากคู่ ก็เพราะเวลานายเอที่ก่อเหตุเสร็จแล้ว จะส่งสัญญาณโดยการร้องจ๊าก เพื่อให้นายสุทธิสาร ขี่รถ จยย.มารับหนีไป นอกจากนี้ยังขยายผลยึดของกลางดังกล่าวได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ซอยรามคำแหง 53 พบของกลางจำนวนมาก แต่มีของกลางบางส่วนที่ผู้ต้องหานำไปขายบ้างแล้ว หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนเคยก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ ด้วยหรือไม่

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจรนำและตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายพิชญ์พิเชษญ์ ที่เดินทางมาดูของกลาง กล่าวว่า ตนเปิดร้านพระเครื่องชื่อร้านพระเครื่องมีตังค์ วันเกิดเหตุได้จอดรถไว้ใกล้กับร้านและถูกคนร้ายทุบกระจกรถลักทรัพย์ไป โดยพระเครื่อง และเครื่องรางนั้น ตำรวจสามารถติดตามคืนมาได้ทั้งหมด เช่น เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน หลวงปู่ทวด พิมพ์กลางชะลูดมีปีก เคยประกวดได้รางวัลที่ 1 หลายสิบครั้ง แต่สร้อยคอทองคำ และกรอบพระเลี่ยมทอง น้ำหนักรวมประมาณ10 บาท ผู้ต้องหานำไปขายหมดแล้ว แต่โชคดีที่ได้พระเครื่องคืนครบทุกชิ้น พร้อมมอบเงินรางวัลนำจับให้ชุดจับกุมจำนวน 200,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายและนำทรัพย์สินมาคืนได้เกือบทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น