ASTVผู้จัดการรายวัน- เกิดเหตุรถเบนซ์ติดแก๊สระเบิด ขณะเข้าใช้บริการอู่ซ่อม บจก.พีอาร์ ซุปเปอร์แก๊ส ปากซอยบรมราชชนนี 28 เกิดไฟลุกท่วมไหม้รถเก๋งเสียหายไปอีก 3 คัน ช่างซ่อมเจ็บ 3 คนเจ้าของรถถูกไฟลวกแต่วิ่งหนีขึ้นแท็กซี่หลบหนีไป เจ้าของอู่คาดเจ้าของรถเบ็นซ์จุดบุหรี่สูบ
วานนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.ท.เอกพจน์ บุญล้อม พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ บจก.พีอาร์ ซุปเปอร์แก๊ส เลขที่ 49/4-6 ปากซอยบรมราชชนนี 28 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.ท.พิสิษฐ์ เทียนเงิน สวป.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สมศักดิ์ ใหม่บุญมี สว.จร.สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 5 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกันจำนวน 3 คูหา ชั้นล่างเปิดให้บริการเป็นศูนย์ติดตั้งและซ่อมแซมอุปกรณ์แก๊สแอลพีจีสำหรับรถยนต์ เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากรถเก๋งต้นเพลิงยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C 220 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พห-4297 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดรอซ่อมอยู่ด้านหน้าอาคาร นอกจากนั้นเพลิงยังได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่ปฏิบัติงานบริเวณชั้นล่างจนได้รับความเสียหายทั้งหมด และยังลุกลามไปติดรถลูกค้าที่จอดอยู่ใกล้เคียงกันอีก 3 คัน ประกอบด้วยรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 525 สีเขียว ทะเบียน 6 ฮ-9834 กรุงเทพมหานคร, รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7 ฐ-5131 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาร์ช สีทอง-ชมพู ทะเบียน ญค-416 กรุงเทพมหานคร จนวอดวายเสียหายหมดทั้ง 4 คัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้หัวฉีดน้ำทำการสกัดกั้นประมาณ 30 นาทีจนสามารถควบคุมเพลิงได้
จากการสอบสวนนางสรัณรัตน์ เรืองณรงค์เดช อายุ 46 ปี เจ้าของกิจการให้การว่า ก่อนเกิดเหตุชายเจ้าของรถเบนซ์คันต้นเพลิงซึ่งเป็นขาจรไม่ใช่ลูกค้าของศูนย์แห่งนี้ได้ขับรถเข้ามาแจ้งว่าระบบแก๊สไม่ทำงานหลังไปทำการอัดเติมแก๊สที่ปั๊มมาจนเต็ม ซึ่งตนเข้าใจสาเหตุเกิดจากลูกลอยในถังทำงานผิดปกติ ระบบจึงตัดเพราะรถคันดังกล่าวเติมแก๊สมากเกินไป จึงบอกให้เจ้าของรถรอสักครู่ เนื่องจากช่างประจำศูนย์ที่มีอยู่ 6 คนยังไม่มีใครว่าง จากนั้นตนไม่ทราบว่าชายคนนั้นเกิดหงุดหงิดหรือรอไม่ได้เพราะเหตุใด เขากลับเปิดกระโปรงหลังรถตัวเองขึ้นมาแล้วก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างกับถังแก๊ส สักพักก็เกิดแก๊สรั่วออกมา ตามมาด้วยเสียงระเบิดพร้อมประกายไฟลูกใหญ่ทำให้ทั้งเจ้าของรถเองและช่างประจำอู่ของตนจำนวน 3 คนถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บ แต่แทนที่หลังเกิดเหตุจะแสดงความรับผิดชอบ เจ้าของรถต้นเพลิงกลับวิ่งหนีออกไปโบกรถแท็กซี่หลบหนีไปทันที
นางสรัณรัตน์กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าของรถเบนซ์ก็น่าจะต้องไปโรงพยาบาลเช่นกัน เพราะขนาดลูกน้องตน 3 คนอยู่ไกลจากรถยังได้รับบาดเจ็บ สำหรับรายชื่อช่างทั้ง 3 คน ตนจำได้แค่ชื่อเล่นคือ ช่างรูญ ช่างอิฐ และช่างนนท์ หลังจากนี้จะพยายามสอบถามตำรวจว่าช่างแต่ละคนถูกนำส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลใดบ้าง รวมถึงจะขอร้องให้ตำรวจช่วยติดตามชายเจ้าของรถเบนซ์มาดำเนินคดีและรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปด้วย ซึ่งตนมั่นใจว่าเจ้าของรถเบนซ์น่าจะสูบบุหรี่ระหว่างเปิดฝากระโปรงท้ายรถดูถังแก๊สหรือเปล่า เนื่องจากความเสียหายเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้น่าจะเกิดจากไอแก๊สพุ่งออกมาจากถังแล้วปะทุกับไฟ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า หลังจากเดินทางมาดูที่เกิดเหตุได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไรกันแน่ ส่วนเจ้าของรถต้นเพลิงคาดว่าจะติดตามตัวมาสอบสวนไม่ยาก เนื่องจากรถทั้งคันได้รับความเสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเจ้าของรถน่าจะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใดสักแห่งเพราะเจ้าของศูนย์ฯ มั่นใจว่าต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน เมื่อติดตามเจ้าของรถและติดตามไปสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนได้แล้วก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
วานนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.ท.เอกพจน์ บุญล้อม พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ บจก.พีอาร์ ซุปเปอร์แก๊ส เลขที่ 49/4-6 ปากซอยบรมราชชนนี 28 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.ท.พิสิษฐ์ เทียนเงิน สวป.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สมศักดิ์ ใหม่บุญมี สว.จร.สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 5 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกันจำนวน 3 คูหา ชั้นล่างเปิดให้บริการเป็นศูนย์ติดตั้งและซ่อมแซมอุปกรณ์แก๊สแอลพีจีสำหรับรถยนต์ เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากรถเก๋งต้นเพลิงยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C 220 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พห-4297 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดรอซ่อมอยู่ด้านหน้าอาคาร นอกจากนั้นเพลิงยังได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่ปฏิบัติงานบริเวณชั้นล่างจนได้รับความเสียหายทั้งหมด และยังลุกลามไปติดรถลูกค้าที่จอดอยู่ใกล้เคียงกันอีก 3 คัน ประกอบด้วยรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 525 สีเขียว ทะเบียน 6 ฮ-9834 กรุงเทพมหานคร, รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7 ฐ-5131 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาร์ช สีทอง-ชมพู ทะเบียน ญค-416 กรุงเทพมหานคร จนวอดวายเสียหายหมดทั้ง 4 คัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้หัวฉีดน้ำทำการสกัดกั้นประมาณ 30 นาทีจนสามารถควบคุมเพลิงได้
จากการสอบสวนนางสรัณรัตน์ เรืองณรงค์เดช อายุ 46 ปี เจ้าของกิจการให้การว่า ก่อนเกิดเหตุชายเจ้าของรถเบนซ์คันต้นเพลิงซึ่งเป็นขาจรไม่ใช่ลูกค้าของศูนย์แห่งนี้ได้ขับรถเข้ามาแจ้งว่าระบบแก๊สไม่ทำงานหลังไปทำการอัดเติมแก๊สที่ปั๊มมาจนเต็ม ซึ่งตนเข้าใจสาเหตุเกิดจากลูกลอยในถังทำงานผิดปกติ ระบบจึงตัดเพราะรถคันดังกล่าวเติมแก๊สมากเกินไป จึงบอกให้เจ้าของรถรอสักครู่ เนื่องจากช่างประจำศูนย์ที่มีอยู่ 6 คนยังไม่มีใครว่าง จากนั้นตนไม่ทราบว่าชายคนนั้นเกิดหงุดหงิดหรือรอไม่ได้เพราะเหตุใด เขากลับเปิดกระโปรงหลังรถตัวเองขึ้นมาแล้วก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างกับถังแก๊ส สักพักก็เกิดแก๊สรั่วออกมา ตามมาด้วยเสียงระเบิดพร้อมประกายไฟลูกใหญ่ทำให้ทั้งเจ้าของรถเองและช่างประจำอู่ของตนจำนวน 3 คนถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บ แต่แทนที่หลังเกิดเหตุจะแสดงความรับผิดชอบ เจ้าของรถต้นเพลิงกลับวิ่งหนีออกไปโบกรถแท็กซี่หลบหนีไปทันที
นางสรัณรัตน์กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าของรถเบนซ์ก็น่าจะต้องไปโรงพยาบาลเช่นกัน เพราะขนาดลูกน้องตน 3 คนอยู่ไกลจากรถยังได้รับบาดเจ็บ สำหรับรายชื่อช่างทั้ง 3 คน ตนจำได้แค่ชื่อเล่นคือ ช่างรูญ ช่างอิฐ และช่างนนท์ หลังจากนี้จะพยายามสอบถามตำรวจว่าช่างแต่ละคนถูกนำส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลใดบ้าง รวมถึงจะขอร้องให้ตำรวจช่วยติดตามชายเจ้าของรถเบนซ์มาดำเนินคดีและรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปด้วย ซึ่งตนมั่นใจว่าเจ้าของรถเบนซ์น่าจะสูบบุหรี่ระหว่างเปิดฝากระโปรงท้ายรถดูถังแก๊สหรือเปล่า เนื่องจากความเสียหายเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้น่าจะเกิดจากไอแก๊สพุ่งออกมาจากถังแล้วปะทุกับไฟ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า หลังจากเดินทางมาดูที่เกิดเหตุได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไรกันแน่ ส่วนเจ้าของรถต้นเพลิงคาดว่าจะติดตามตัวมาสอบสวนไม่ยาก เนื่องจากรถทั้งคันได้รับความเสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเจ้าของรถน่าจะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใดสักแห่งเพราะเจ้าของศูนย์ฯ มั่นใจว่าต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน เมื่อติดตามเจ้าของรถและติดตามไปสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนได้แล้วก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป