ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องปัญหาการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว โดยได้นำกระสอบข้าวเสื่อมสภาพจากโกดังมาแสดงพร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลบอกว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล แล้วจะแถลงผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ที่รมว.พาณิชย์ แต่งตั้งขึ้น แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการแถลงอะไร จึงอยากถามว่ารัฐบาลยอมรับข้อกล่าวหา ว่ามีการทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี และพัวพันกับการฟอกเงินหรือไม่ กระสอบข้าวที่ตนนำมาแสดงนี้ ได้รับมาจากชาวนา จ.สุรินทร์ รายหนึ่ง เป็นกระสอบป่านใหม่ เย็บด้วยด้ายสีเหลือง มีการตีทะเบียนเป็นข้าวใหม่หอมมะลิ จากโกดังของโรงสีที่อยู่ในโครงการขององค์การคลังสินค้า (อคส.) รู้ว่ามาจากโรงสีไหน ซึ่งระหว่างที่พูดนพ.วรงค์ ได้ใช้เหล็กแหลมแทงไปที่กระสอบข้าว ซึ่งปรากฏว่า มีเมล็ดข้าวสีน้ำตาลไหลออกมา
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า วันนี้คนสุรินทร์ทนไม่ไหว จึงนำมาร้องเรียน แบบนี้มันข้าวเน่า เป็นการทุจริตแบบไร้รอยต่อจริงๆ โกงทุกขั้นตอน โคตรของโคตรโกง ทันทีที่ตั้งกระทู้เสร็จ ตนจะส่งมอบข้าวกระสอบนี้ ให้ประธานส่งต่อไปให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี และขอท้าไปยังนายกฯ ให้ลงพื้นที่ไปเจาะโกงดังข้าวกับตน เอาสื่อไปถ่ายทอดสด กล้าหรือไม่ ไปรื้อ หรือผ่าโกดังให้เห็นไปเลยว่า ข้าวซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยทั้งประเทศเป็นแบบนี้ ตนพร้อมเอาตำแหน่ง ส.ส. รับผิดชอบ นายกฯ รับคำท้าหรือไม่
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ได้ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และตรงไปตรงมา ในการรับจำนำข้าว ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต และฟอกเงินนั้น ฝ่ายตรวจสอบก็ต้องทำหน้าที่ไป โดยคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ส่งผลการตรวจสอบให้รมว.พาณิชย์ ตั้งแต่เดือนธ.ค.55แล้ว แต่ท่านพิจารณาข้อมูลเห็นว่า ยังมีบางประเด็นที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม จึงส่งเรื่องกลับไปให้คณะกรรมการฯตรวจสอบเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. มีกรอบเวลา 90 วัน น่าจะปรากฏผลเดือนมี.ค.นี้ และฝ่ายค้านเองก็ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขณะที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ไปยื่นให้ดีเอสไอ ตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาลชุดก่อน แต่ละส่วนกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง
ส่วนตัวอย่างข้าวที่นำมาแสดงนั้น ไม่แน่ใจว่านำมาจากโกดังไหน แต่หากจะพบแบบนี้บ้าง และถามว่าจะป้องกันได้ทั้ง 100%หรือไม่ ก็ตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลข้าวในโกดัง ซึ่งแน่นอนว่า มันมีข้าวเดิมที่เก็บไว้นานจากรัฐบาลชุดก่อน เราก็ต้องระบาย ส่วนข้าวใหม่ที่เข้าโครงการ ก็ต้องเก็บให้ดี
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องข้าวเน่านั้น รัฐบาลเข้าใจหัวอกชาวนา ไม่มีใครไม่เจ็บปวดถ้าเห็นข้าวหอมมะลิอยู่ในสภาพแบบนี้ และตนจะรับไปตรวจสอบ ขณะที่รับฟังกระทู้อยู่นี้ ได้ส่งสัญญาณถึงเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบว่าโกดังไหนมีข้าวแบบนี้ แต่สงสัยว่าข้าวอยู่ในโกดังรัฐบาล แล้วไปเอาออกมาได้อย่างไร แต่กระสอบแบบนี้ ตัวหนังสือแบบนี้ เอามาจากที่ไหนก็ได้ แต่แปลกใจว่าเอาข้าวในโกดังรัฐบาลมาแสดงได้อย่างไร ผ่านขั้นตอนไหน ตนจะต้องหาคำตอบต่อไป
ด้านนพ.วรงค์ ยืนยันว่าได้รับกระสอบข้าวนี้มาจากชาวนาสุรินทร์จริง แต่เขาไม่ยอมให้ข้อมูล ส่วนตัว จำเลยหลักคือนายกฯ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เชื่อว่าเมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสม พี่น้องต้องลงโทษคนพวกนี้ ที่ชอบอ้างว่ามาจากเสียงข้างมาก และตนขอประกาศว่า วันใดที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมา ชาวนาชาวไร่ จะดีขึ้น ยืนยันว่าโรงสีนี้เป็นเครือข่ายของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าไอ้พวกที่อ้างเสียงข้างมาก อ้างไร้รอยต่อ วันใดเข้าคูหากาบัตร ต้องถูกลงโทษ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวย้ำว่า บอกได้เลยว่า นายกฯคงไม่ไปด้วย เพราะ กลไกการตรวจสอบรัฐบาลมีอยู่ และไม่แน่ใจว่าที่เที่ยวท้าทายให้ไปตรวจ ไม่รู้ว่าเข้าไปในโกดังข้าวรัฐบาลแล้วกี่ครั้ง แต่ถ้าเอาข้าวในโกดังรัฐบาลจริงมาแสดง โดยไม่บอกที่มาที่ไป ตนก็ต้องให้กรมการค้าภายในไปตรวจสอบ เพราะถือว่าเอาทรัพย์สินของทางราชการออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้สั่งการเจ้าหน้าที่ อคส. มารับข้าวกระสอบนี้ เพื่อไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพนักงานสอบสวนเห็นว่า จำเป็น ก็ขอให้ท่านไปชี้แจงด้วย ซึ่งเชื่อว่าข้าวนี้เอาออกมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชัดๆไปเลยว่า หากได้กลับมาจะยกเลิกรับจำนำข้าวเปลือก 15,000 บาท จะได้รู้กันไป
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า วันนี้คนสุรินทร์ทนไม่ไหว จึงนำมาร้องเรียน แบบนี้มันข้าวเน่า เป็นการทุจริตแบบไร้รอยต่อจริงๆ โกงทุกขั้นตอน โคตรของโคตรโกง ทันทีที่ตั้งกระทู้เสร็จ ตนจะส่งมอบข้าวกระสอบนี้ ให้ประธานส่งต่อไปให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี และขอท้าไปยังนายกฯ ให้ลงพื้นที่ไปเจาะโกงดังข้าวกับตน เอาสื่อไปถ่ายทอดสด กล้าหรือไม่ ไปรื้อ หรือผ่าโกดังให้เห็นไปเลยว่า ข้าวซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยทั้งประเทศเป็นแบบนี้ ตนพร้อมเอาตำแหน่ง ส.ส. รับผิดชอบ นายกฯ รับคำท้าหรือไม่
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ได้ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และตรงไปตรงมา ในการรับจำนำข้าว ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต และฟอกเงินนั้น ฝ่ายตรวจสอบก็ต้องทำหน้าที่ไป โดยคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ส่งผลการตรวจสอบให้รมว.พาณิชย์ ตั้งแต่เดือนธ.ค.55แล้ว แต่ท่านพิจารณาข้อมูลเห็นว่า ยังมีบางประเด็นที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม จึงส่งเรื่องกลับไปให้คณะกรรมการฯตรวจสอบเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. มีกรอบเวลา 90 วัน น่าจะปรากฏผลเดือนมี.ค.นี้ และฝ่ายค้านเองก็ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขณะที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ไปยื่นให้ดีเอสไอ ตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาลชุดก่อน แต่ละส่วนกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง
ส่วนตัวอย่างข้าวที่นำมาแสดงนั้น ไม่แน่ใจว่านำมาจากโกดังไหน แต่หากจะพบแบบนี้บ้าง และถามว่าจะป้องกันได้ทั้ง 100%หรือไม่ ก็ตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลข้าวในโกดัง ซึ่งแน่นอนว่า มันมีข้าวเดิมที่เก็บไว้นานจากรัฐบาลชุดก่อน เราก็ต้องระบาย ส่วนข้าวใหม่ที่เข้าโครงการ ก็ต้องเก็บให้ดี
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องข้าวเน่านั้น รัฐบาลเข้าใจหัวอกชาวนา ไม่มีใครไม่เจ็บปวดถ้าเห็นข้าวหอมมะลิอยู่ในสภาพแบบนี้ และตนจะรับไปตรวจสอบ ขณะที่รับฟังกระทู้อยู่นี้ ได้ส่งสัญญาณถึงเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบว่าโกดังไหนมีข้าวแบบนี้ แต่สงสัยว่าข้าวอยู่ในโกดังรัฐบาล แล้วไปเอาออกมาได้อย่างไร แต่กระสอบแบบนี้ ตัวหนังสือแบบนี้ เอามาจากที่ไหนก็ได้ แต่แปลกใจว่าเอาข้าวในโกดังรัฐบาลมาแสดงได้อย่างไร ผ่านขั้นตอนไหน ตนจะต้องหาคำตอบต่อไป
ด้านนพ.วรงค์ ยืนยันว่าได้รับกระสอบข้าวนี้มาจากชาวนาสุรินทร์จริง แต่เขาไม่ยอมให้ข้อมูล ส่วนตัว จำเลยหลักคือนายกฯ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เชื่อว่าเมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสม พี่น้องต้องลงโทษคนพวกนี้ ที่ชอบอ้างว่ามาจากเสียงข้างมาก และตนขอประกาศว่า วันใดที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมา ชาวนาชาวไร่ จะดีขึ้น ยืนยันว่าโรงสีนี้เป็นเครือข่ายของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าไอ้พวกที่อ้างเสียงข้างมาก อ้างไร้รอยต่อ วันใดเข้าคูหากาบัตร ต้องถูกลงโทษ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวย้ำว่า บอกได้เลยว่า นายกฯคงไม่ไปด้วย เพราะ กลไกการตรวจสอบรัฐบาลมีอยู่ และไม่แน่ใจว่าที่เที่ยวท้าทายให้ไปตรวจ ไม่รู้ว่าเข้าไปในโกดังข้าวรัฐบาลแล้วกี่ครั้ง แต่ถ้าเอาข้าวในโกดังรัฐบาลจริงมาแสดง โดยไม่บอกที่มาที่ไป ตนก็ต้องให้กรมการค้าภายในไปตรวจสอบ เพราะถือว่าเอาทรัพย์สินของทางราชการออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้สั่งการเจ้าหน้าที่ อคส. มารับข้าวกระสอบนี้ เพื่อไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพนักงานสอบสวนเห็นว่า จำเป็น ก็ขอให้ท่านไปชี้แจงด้วย ซึ่งเชื่อว่าข้าวนี้เอาออกมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชัดๆไปเลยว่า หากได้กลับมาจะยกเลิกรับจำนำข้าวเปลือก 15,000 บาท จะได้รู้กันไป
