ในอดีตคณะสงฆ์ต่อสู้เพื่อให้พระพุทธศาสนาประดิษฐ์มั่นคงในภูมิภาคนี้ ปัจจุบันพระสงฆ์ต่อสู้เพื่อให้พระพิฆเณศวร์ยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า วันนี้พระพุทธศาสนาฝากไว้กับใคร
เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้ามีโอกาสเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาด้วยรถส่วนตัว โดยผ่านเข้าด้านจังหวัดสระแก้ว คือ ด่านคลองลึก ปอยเปต เป้าหมายในการท่องเที่ยวในครั้งนี้คือ นครวัด-นครธม ซึ่งอยู่ในเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อได้ไปท่องเที่ยวบริเวณแห่งนี้ ทำให้เห็นปราสาทหินของประเทศนี้หลายสิบปราสาท และทำให้รู้ว่าปราสาทเหล่านี้ เริ่มสร้างตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย ต่อมาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พร้อมกับคณะสงฆ์ในสมัยนั้นต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงเทวสถานต่าง ๆ ให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เพราะเห็นว่า ศาสนาเดิมทำให้ประชาชนหลงงมงายอยู่กับการบูชา และผลประโยชน์ต่าง ๆ ตกแก่เจ้าสำนัก ประชาชนไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา และการต่อสู้ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กับคณะสงฆ์ในสมัยนั้น ทำให้พระพุทธศาสนาประดิษฐานดำรงมั่นคงในภูมิภาคนี้ตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพเจ้าเห็นแล้วอดที่จะปลื้มใจไม่ได้ ขอขอบคุณคณะสงฆ์ในอดีตที่ต่อสู้จนทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในเขตภูมิภาคนี้ และสำหรับประเทศไทย ประชาชนได้มีโอกาสได้นับถือพระพุทธศาสนา ณ ปัจจุบันนี้นับได้ประมาณ 95% ของประชากรทั้งหมด
เมื่อตอนกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา เห็นป้ายโฆษณาติดไว้ที่ข้างถนนเขียนว่า ขอเชิญชาวพุทธขอพรกับพระพิฆเณศวร์ที่วัดสมานรัตนาราม เพื่อเป็นศิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ เมื่อเห็นแล้วจิตก็นึกอยากรู้เหมือนกันว่า เป็นศิริมงคลอย่างไรกันแน่ จึงแวะเข้าไปยังวัดดังกล่าว แต่พอเข้าไปถึงในวัดที่เขียนถึงนี้ ข้าพเจ้าถึงรู้สึกตกใจ เพราะบริเวณวัดที่ดังกล่าว มีรูปปั้นพระพิฆเณศวร์องค์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณวัด และยังมีรูปปั้นของพระราหูองค์ขนาดใหญ่อีก ข้าพเจ้าเห็นแล้วไม่แน่ใจว่า วัดแห่งนี้จะเป็นวัดในศาสนาพุทธหรือเทวสถานกันแน่ ข้าพเจ้าได้แต่ตั้งคำถามขึ้นในใจว่า วัดนี้เป็นของพระพุทธศาสนา ทำไมเจ้าอาวาสวัดถึงได้สร้างพระพิฆเณศวร์ซึ่งเป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ใหญ่กว่าพระพุทธรูป หากเป็นเทวสถาน ทำไมเจ้าสำนักจึงเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ในขณะเดียวกันก็มีโฆษกโฆษณาชวนเชื่อว่า ให้ชาวพุทธไปขอโชคขอลาภกับพระพิฆเณศวร์และพระราหู ประชาชนที่ยังไม่เข้าใจในหลักคำสั่งสอนทางของพระพุทธศาสนาได้นำเงินไปบริจาคเป็นจำนวนมาก ทราบภายหลังว่า รายได้จากการบริจาคของชาวพุทธมีประมาณ 3 แสน ถึง 5 แสนต่อวัน เงินบางส่วนมีการนำไปโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อโฆษณาอื่น ๆ เพื่อให้คนมากราบไหว้บูชาอีกหลายสิบล้านบาท ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่งเห็นแล้วอดที่จะหดหู่ใจมิได้
คิดย้อนหลังกลับไปในประเทศกัมพูชา ที่นครวัด-นครธม พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และคณะสงฆ์จำนวนหนึ่ง ต่อสู้กับศาสนาพราหมณ์จนเลือดตาแทบกระเด็น เพื่อให้พระพุทธศาสนาประดิษฐาน มั่นคง ดำรงอยู่ในภูมิภาคนี้ และให้ประชาชนเลิกหลงงมงายกับที่มิใช่แก่นแท้ของชีวิต แต่ทำไมวัดแห่งนี้จึงต้องสร้างรูปพระพิฆเณศวร์อย่างใหญ่โตมโหฬาร เหมือนกับว่ามีเจตนารมณ์ที่จะกู้ศักดิ์ศรีแห่งศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเสื่อมถอยจากภูมิภาคนี้ไปแล้วเกือบพันปี หากคิดถึงความยุติธรรมคงจะไม่ยุติธรรมมากนักที่เจ้าสำนักของวัดนี้นำเงินของชาวพุทธที่นำมาบริจาคด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไปสร้างรูปปั้นของพระพิฆเณศวร์ ซึ่งเป็นรูปเคารพของศาสนาอื่น ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เป็นมงคลสำหรับชาวพุทธที่สมควรจะก่อสร้างยังมีอีกมาก เช่น พระพุทธรูป พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร และพระสิวลี เป็นต้น ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น ด้วยความดีความชอบของเจ้าสำนักผู้ก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ในวัดของชาวพุทธ ผู้นำด้านศาสนาได้ถวายสมณะศักดิ์ให้เป็นพระครูเสียอีก ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่า พระสงฆ์ที่กระทำการอย่างนี้ คือ ผู้ทรยศต่อพระพุทธศาสนา
แต่อย่างไรก็ตามคณะสงฆ์บางกลุ่มมีความเห็นว่า สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่สำหรับพระพุทธศาสนาในขณะนี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำด้านศาสนาอ่อนแอ ปล่อยปะละเลย มองหาสมณะศักดิ์ และลาภสักการะมากกว่าที่จะรักพระพุทธศาสนา เห็นได้จากการส่งเสริมให้มีการก่อสร้างวัตถุมงคล มากกว่าจะส่งเสริมให้พระภิกษุ-สามเณรและชาวพุทธให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ท่านเหล่านี้ เมื่อมีหน้าที่ในการดูแลพระพุทธศาสนา กลับไม่ใช้หน้าที่นั้นให้เป็นประโยชน์แด่พระพุทธศาสนาเลย เป็นผู้ทำลายมากกว่าจะเป็นผู้รักษา และคณะสงฆ์ยังมีความคิดเห็นต่ออีกว่า การกระทำอย่างนี้ไม่ใช่มีเพียงแต่วัดนี้เท่านั้น อย่างน้อยที่สุดก็มีการก่อสร้างที่จังหวัดนครนายกโดยพระราชาคณะระดับ พระราช อีกวัดหนึ่งที่ก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ คือ วัดเขาเข้ จังหวัดกาญจนบุรี สร้างพระพิฆเณศวร์บนภูเขาสูง เด่นตระหง่านใหญ่กว่าพระพุทธรูป เทวรูปเหล่านี้เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว เจ้าคณะผู้ปกครองจะมีคำสั่งให้ทุบก็เป็นเรื่องยาก และคาดว่า ภายใน 3 ปีนี้ จะมีการก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ภายในวัดพระพุทธศาสนาไม่ต่ำกว่า 50 วัด การก่อสร้างในลักษณะนี้ เข้าใจว่า เจ้าคณะผู้ปกครองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะปล่อยให้มีการก่อสร้างจนเสร็จ ไม่แน่ใจว่า พัดยศบังหน้า หรือปัจจัยบังใจ ชาวพุทธหลาย ๆ ท่านก็มองว่า วันนี้พระพุทธศาสนาจะฝากไว้กับใคร เพราะคณะสงฆ์เป็นผู้กระทำเสียเอง
ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำทางด้านพระพุทธศาสนาควรหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อความเป็นธรรมกับพระพุทธศาสนาและชาวพุทธ โดยพระเถระผู้ใหญ่ระดับมหาเถระสมาคมประชุมปรึกษาหารือ และออกกฎระเบียบ แล้วมีคำสั่งให้กับวัดทุกวัดอย่างชัดเจนว่า วัดทุกวัดไม่ควรสร้างรูปเคารพในศาสนาอื่นใหญ่โตกว่าพระพุทธรูป หากวัดใดมีการฝ่าฝืนควรมีบทกำหนดโทษกับเจ้าสำนักอย่างเด็ดขาด ในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองในเขตภูมิภาคนั้น เช่น เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ควรรับผิดชอบด้วย แต่สำหรับวันนี้ขอฝากว่า เจ้าสำนักของแต่ละวัดดังกล่าวควรแสดงความรับผิดชอบต่อพระพุทธศาสนา อย่าทำลายพระพุทธศาสนาในลักษณะนี้เลย ควรลาออกจากตำแหน่งของสงฆ์ แล้วไปสร้างเทวรูปในสถานที่ของตัวเองจะดีกว่า อย่าถึงกับให้ชาวพุทธต้องลุกฮือขึ้นขับไล่เลย วันนั้นแหละปัญหาต่าง ๆ จะตามมาอีกแยะ เวรกรรมมันมีจริง ?
เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้ามีโอกาสเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาด้วยรถส่วนตัว โดยผ่านเข้าด้านจังหวัดสระแก้ว คือ ด่านคลองลึก ปอยเปต เป้าหมายในการท่องเที่ยวในครั้งนี้คือ นครวัด-นครธม ซึ่งอยู่ในเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อได้ไปท่องเที่ยวบริเวณแห่งนี้ ทำให้เห็นปราสาทหินของประเทศนี้หลายสิบปราสาท และทำให้รู้ว่าปราสาทเหล่านี้ เริ่มสร้างตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย ต่อมาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พร้อมกับคณะสงฆ์ในสมัยนั้นต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงเทวสถานต่าง ๆ ให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เพราะเห็นว่า ศาสนาเดิมทำให้ประชาชนหลงงมงายอยู่กับการบูชา และผลประโยชน์ต่าง ๆ ตกแก่เจ้าสำนัก ประชาชนไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา และการต่อสู้ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กับคณะสงฆ์ในสมัยนั้น ทำให้พระพุทธศาสนาประดิษฐานดำรงมั่นคงในภูมิภาคนี้ตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพเจ้าเห็นแล้วอดที่จะปลื้มใจไม่ได้ ขอขอบคุณคณะสงฆ์ในอดีตที่ต่อสู้จนทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในเขตภูมิภาคนี้ และสำหรับประเทศไทย ประชาชนได้มีโอกาสได้นับถือพระพุทธศาสนา ณ ปัจจุบันนี้นับได้ประมาณ 95% ของประชากรทั้งหมด
เมื่อตอนกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา เห็นป้ายโฆษณาติดไว้ที่ข้างถนนเขียนว่า ขอเชิญชาวพุทธขอพรกับพระพิฆเณศวร์ที่วัดสมานรัตนาราม เพื่อเป็นศิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ เมื่อเห็นแล้วจิตก็นึกอยากรู้เหมือนกันว่า เป็นศิริมงคลอย่างไรกันแน่ จึงแวะเข้าไปยังวัดดังกล่าว แต่พอเข้าไปถึงในวัดที่เขียนถึงนี้ ข้าพเจ้าถึงรู้สึกตกใจ เพราะบริเวณวัดที่ดังกล่าว มีรูปปั้นพระพิฆเณศวร์องค์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณวัด และยังมีรูปปั้นของพระราหูองค์ขนาดใหญ่อีก ข้าพเจ้าเห็นแล้วไม่แน่ใจว่า วัดแห่งนี้จะเป็นวัดในศาสนาพุทธหรือเทวสถานกันแน่ ข้าพเจ้าได้แต่ตั้งคำถามขึ้นในใจว่า วัดนี้เป็นของพระพุทธศาสนา ทำไมเจ้าอาวาสวัดถึงได้สร้างพระพิฆเณศวร์ซึ่งเป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ใหญ่กว่าพระพุทธรูป หากเป็นเทวสถาน ทำไมเจ้าสำนักจึงเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ในขณะเดียวกันก็มีโฆษกโฆษณาชวนเชื่อว่า ให้ชาวพุทธไปขอโชคขอลาภกับพระพิฆเณศวร์และพระราหู ประชาชนที่ยังไม่เข้าใจในหลักคำสั่งสอนทางของพระพุทธศาสนาได้นำเงินไปบริจาคเป็นจำนวนมาก ทราบภายหลังว่า รายได้จากการบริจาคของชาวพุทธมีประมาณ 3 แสน ถึง 5 แสนต่อวัน เงินบางส่วนมีการนำไปโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อโฆษณาอื่น ๆ เพื่อให้คนมากราบไหว้บูชาอีกหลายสิบล้านบาท ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่งเห็นแล้วอดที่จะหดหู่ใจมิได้
คิดย้อนหลังกลับไปในประเทศกัมพูชา ที่นครวัด-นครธม พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และคณะสงฆ์จำนวนหนึ่ง ต่อสู้กับศาสนาพราหมณ์จนเลือดตาแทบกระเด็น เพื่อให้พระพุทธศาสนาประดิษฐาน มั่นคง ดำรงอยู่ในภูมิภาคนี้ และให้ประชาชนเลิกหลงงมงายกับที่มิใช่แก่นแท้ของชีวิต แต่ทำไมวัดแห่งนี้จึงต้องสร้างรูปพระพิฆเณศวร์อย่างใหญ่โตมโหฬาร เหมือนกับว่ามีเจตนารมณ์ที่จะกู้ศักดิ์ศรีแห่งศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเสื่อมถอยจากภูมิภาคนี้ไปแล้วเกือบพันปี หากคิดถึงความยุติธรรมคงจะไม่ยุติธรรมมากนักที่เจ้าสำนักของวัดนี้นำเงินของชาวพุทธที่นำมาบริจาคด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไปสร้างรูปปั้นของพระพิฆเณศวร์ ซึ่งเป็นรูปเคารพของศาสนาอื่น ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เป็นมงคลสำหรับชาวพุทธที่สมควรจะก่อสร้างยังมีอีกมาก เช่น พระพุทธรูป พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร และพระสิวลี เป็นต้น ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น ด้วยความดีความชอบของเจ้าสำนักผู้ก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ในวัดของชาวพุทธ ผู้นำด้านศาสนาได้ถวายสมณะศักดิ์ให้เป็นพระครูเสียอีก ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่า พระสงฆ์ที่กระทำการอย่างนี้ คือ ผู้ทรยศต่อพระพุทธศาสนา
แต่อย่างไรก็ตามคณะสงฆ์บางกลุ่มมีความเห็นว่า สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่สำหรับพระพุทธศาสนาในขณะนี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำด้านศาสนาอ่อนแอ ปล่อยปะละเลย มองหาสมณะศักดิ์ และลาภสักการะมากกว่าที่จะรักพระพุทธศาสนา เห็นได้จากการส่งเสริมให้มีการก่อสร้างวัตถุมงคล มากกว่าจะส่งเสริมให้พระภิกษุ-สามเณรและชาวพุทธให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ท่านเหล่านี้ เมื่อมีหน้าที่ในการดูแลพระพุทธศาสนา กลับไม่ใช้หน้าที่นั้นให้เป็นประโยชน์แด่พระพุทธศาสนาเลย เป็นผู้ทำลายมากกว่าจะเป็นผู้รักษา และคณะสงฆ์ยังมีความคิดเห็นต่ออีกว่า การกระทำอย่างนี้ไม่ใช่มีเพียงแต่วัดนี้เท่านั้น อย่างน้อยที่สุดก็มีการก่อสร้างที่จังหวัดนครนายกโดยพระราชาคณะระดับ พระราช อีกวัดหนึ่งที่ก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ คือ วัดเขาเข้ จังหวัดกาญจนบุรี สร้างพระพิฆเณศวร์บนภูเขาสูง เด่นตระหง่านใหญ่กว่าพระพุทธรูป เทวรูปเหล่านี้เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว เจ้าคณะผู้ปกครองจะมีคำสั่งให้ทุบก็เป็นเรื่องยาก และคาดว่า ภายใน 3 ปีนี้ จะมีการก่อสร้างพระพิฆเณศวร์ภายในวัดพระพุทธศาสนาไม่ต่ำกว่า 50 วัด การก่อสร้างในลักษณะนี้ เข้าใจว่า เจ้าคณะผู้ปกครองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะปล่อยให้มีการก่อสร้างจนเสร็จ ไม่แน่ใจว่า พัดยศบังหน้า หรือปัจจัยบังใจ ชาวพุทธหลาย ๆ ท่านก็มองว่า วันนี้พระพุทธศาสนาจะฝากไว้กับใคร เพราะคณะสงฆ์เป็นผู้กระทำเสียเอง
ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำทางด้านพระพุทธศาสนาควรหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อความเป็นธรรมกับพระพุทธศาสนาและชาวพุทธ โดยพระเถระผู้ใหญ่ระดับมหาเถระสมาคมประชุมปรึกษาหารือ และออกกฎระเบียบ แล้วมีคำสั่งให้กับวัดทุกวัดอย่างชัดเจนว่า วัดทุกวัดไม่ควรสร้างรูปเคารพในศาสนาอื่นใหญ่โตกว่าพระพุทธรูป หากวัดใดมีการฝ่าฝืนควรมีบทกำหนดโทษกับเจ้าสำนักอย่างเด็ดขาด ในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองในเขตภูมิภาคนั้น เช่น เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ควรรับผิดชอบด้วย แต่สำหรับวันนี้ขอฝากว่า เจ้าสำนักของแต่ละวัดดังกล่าวควรแสดงความรับผิดชอบต่อพระพุทธศาสนา อย่าทำลายพระพุทธศาสนาในลักษณะนี้เลย ควรลาออกจากตำแหน่งของสงฆ์ แล้วไปสร้างเทวรูปในสถานที่ของตัวเองจะดีกว่า อย่าถึงกับให้ชาวพุทธต้องลุกฮือขึ้นขับไล่เลย วันนั้นแหละปัญหาต่าง ๆ จะตามมาอีกแยะ เวรกรรมมันมีจริง ?