ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแก่อสัญกรรมที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น นายชุมพล มีอาการวูบ เนื่องจากโรคหัวใจกำเริบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล จนทำให้นายบรรหาร ศิลปอาชา พี่ชายของนายชุมพล ออกมาตำหนิจุดบกพร่องของทำเนียบรัฐบาล ที่ไม่มีห้องพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลนายชุมพลเป็นการเบื้องต้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลมีการจัดเตรียมห้องพยาบาลชั่วคราวขึ้น ที่ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่ในวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตึกบัญชาการ 1 เป็นตึกที่มีข้าราชการการเมืองระดับ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งทำงาน รวมทั้งตึกที่เชื่อมต่อกันคือ ตึกบัญชาการ 2 ซึ่งมีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยและเลขานุการรัฐมนตรี และคณะทำงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รวมทั้งข้าราชการประจำนั่งทำงานอยู่
ส่วนห้องที่จะถูกใช้เป็นห้องพยาบาลนั้น อยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก ฝั่งขวาของตึกบัญชาการ 1 ติดกับโรงอาหาร ซึ่งเป็นจุดเดียวที่มีทางลาดที่สามารถเข็นรถเข็นขึ้น-ลงได้ โดยไม่ต้องการก่อสร้างเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน( 24 ม.ค. ) พบว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลช่วยกันขนย้ายสิ่งของที่อยู่ในห้องดังกล่าวออกไป และมีการเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องดังกล่าวมีการวางแปลนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้เป็นทั้งห้องพยาบาล และห้องรับรองในกรณีฉุกเฉิน จะมีเครื่องมือที่ทันสมัย และมีหน่วยแพทย์-รถพยาบาล มาประจำทุกวันทำการของทำเนียบฯ ส่วนจะเป็นหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลไหนเข้ามาประจำนั้น จะมีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่าจะใช้เวลาในการปรับปรุงห้อง และติดตั้งอุปกรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นอกจากนี้ยังจะมีอีกห้อง อยู่ที่ห้องโดมของตึกนารีสโมสรด้วยอีกห้อง ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค. โดยห้องพยาบาลที่ตึกนารีสโมสร จะเป็นห้องพยาบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งทุกคนที่เจ็บป่วยในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลสามารถใช้บริการได้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลมีการจัดเตรียมห้องพยาบาลชั่วคราวขึ้น ที่ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่ในวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตึกบัญชาการ 1 เป็นตึกที่มีข้าราชการการเมืองระดับ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งทำงาน รวมทั้งตึกที่เชื่อมต่อกันคือ ตึกบัญชาการ 2 ซึ่งมีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยและเลขานุการรัฐมนตรี และคณะทำงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รวมทั้งข้าราชการประจำนั่งทำงานอยู่
ส่วนห้องที่จะถูกใช้เป็นห้องพยาบาลนั้น อยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก ฝั่งขวาของตึกบัญชาการ 1 ติดกับโรงอาหาร ซึ่งเป็นจุดเดียวที่มีทางลาดที่สามารถเข็นรถเข็นขึ้น-ลงได้ โดยไม่ต้องการก่อสร้างเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน( 24 ม.ค. ) พบว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลช่วยกันขนย้ายสิ่งของที่อยู่ในห้องดังกล่าวออกไป และมีการเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องดังกล่าวมีการวางแปลนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้เป็นทั้งห้องพยาบาล และห้องรับรองในกรณีฉุกเฉิน จะมีเครื่องมือที่ทันสมัย และมีหน่วยแพทย์-รถพยาบาล มาประจำทุกวันทำการของทำเนียบฯ ส่วนจะเป็นหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลไหนเข้ามาประจำนั้น จะมีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่าจะใช้เวลาในการปรับปรุงห้อง และติดตั้งอุปกรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นอกจากนี้ยังจะมีอีกห้อง อยู่ที่ห้องโดมของตึกนารีสโมสรด้วยอีกห้อง ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค. โดยห้องพยาบาลที่ตึกนารีสโมสร จะเป็นห้องพยาบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งทุกคนที่เจ็บป่วยในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลสามารถใช้บริการได้