วานนี้ (22 ม.ค.) กลุ่มเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย แนวร่วมของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแกนนำ กลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 20 คนเดินทางมาชุมนุมหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยขับไล่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมขอให้พรรคปลดออกจากทุกตำแหน่งรวมถึงตำแหน่งโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องกรณีที่ออกมาคัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้พยายามไกล่เกลี่ย อย่างไรก็หลังยื่นหนังสือกับนายธวัชชัย นามพิทักษ์ หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการพรรคเพื่อไทยแล้วเสร็จได้เดินทางกลับพร้อมระบุว่าจะเดินทางไปยังรัฐสภา ในวันที่ 23 ม.ค.เพื่อขับไล่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุผลเดียวกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น มีการสร้างเวปเพจ เพื่อร่วมลงนามยื่นหนังสือถอดถอนนายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาฯ ออกจากตำแหน่ง โดยในเวปเพจ ระบุว่า เนื่องด้วยหนึ่งในพันธกิจหลักของพรรคเพื่อไทยต่อคนเสื้อแดง คือภารกิจ"คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"ที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารและเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง
หลังจากที่ประชาชนหลายภาคส่วนได้ร่วมเสนอแนวทางการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองในหลายรูปแบบ ในนามนปช. และคณะนิติราษฎร์ เพื่อผลักดันให้พรรคเพื่อไทยได้เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความอยุติธรรม
แต่กลับมีบุคคลบางคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้แย้งด้วยข้ออ้างที่ไร้เหตุผล เพื่อหลีกเลี่ยงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง ด้วยการปฏิเสธการนิรโทษกรรมประชาชนทุกรูปแบบ โดยขัดกับพันธกิจที่พรรคเพื่อไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน และออกมาแสดงทัษนะคติอันเป็นผลลบต่อพรรคเพื่อไทยเอง โดยที่หาใช่แนวคิด มติ หรือข้อสรุปของพรรคไม่
ท่านนั้นคือ ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร์ และยังเป็นผู้สมัครแบบแบ่งเขต ในเขตบางนา-พระโขนงที่แพ้การเลือกตั้งมา(สอบตก)
ดังนั้นการที่ ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ แสดงออกซึ่งท่าทีอันรังเกียจการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองเช่นนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งมีแนวคิดทรยศต่อประชาชน และบิดเบือนแนวทางคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนของพรรคเพื่อไทย สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียต่อมวลชนที่ไว้วางใจการแก้ปัญหาด้านความอยุติธรรมที่เป็นพันธกิจของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก หากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ผ่านเลยไป เกรงว่าจะสร้างความเกลียดชังของมวลชนเสื้อแดงต่อพรรคเพื่อไทยมากเข้าไปอีก และเป็นปัญหาเรื้อรังเรื่องฐานคะแนนเสียงของพรรคในอนาคต
ทางกลุ่มเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย และมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง รวมถึงประชาชนคนทั่วไปจำนวนหนึ่งที่ได้ไว้วางใจ ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะต้องยื่นถอดถอน ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ ออกจากตำแหน่งโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และจากผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ในเขตพระโขนง-บางนา โดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่การแสดงออกซึ่งทัศนคติเป็นลบต่อการช่วยเหลือประชาชนเช่นนี้อีก และมิให้พรรคเพื่อไทยที่พวกเราลงคะแนนเสียงเลือกเข้าไปต้องเสียภาพลักษณ์ไปมากกว่านี้ จากการกระทำที่ไม่ฉลาดของคนเพียงไม่กี่คน
ในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 เวลา 10.30 น. ขอเชิญพี่น้องประชาชนที่สนใจและเห็นพ้องต้องกันในกรณีนี้ ร่วมยื่นหนังสือถอดถอนนายวัฒนา ต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในวันและเวลาดังกล่าว จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันและขอเชิญเพื่อนพ้องชาวโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเรา ร่วมลงนามแนบท้ายหนังสือเปิดผนึกที่จะยื่นต่อพรรคเพื่อไทย ในอีเว้นท์กิจกรรมนี้ครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น ในเวปไซด์คนเสื้อแดง RedNewsUp2Date เคยเขียนจดหมายอิเลล็คทรอนิก ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อ้างว่า เป็นคนเสื้อ แดงที่ กด LIKE กระทู้นี้มีความเห็น ตรงกันอย่างเอกฉันท์ว่า เห็นสมควรที่จะ ไล่นาย วัฒนา เซ่งไพเราะ ออกจากพรรคเพื่อไทย โดยตั้งกระทู้คำหยาบคาย โดยเฉพาะความหมายสัตว์เลื้อยคลานอย่างตัวเงินตัวทอง
**“ไพจิต”จี้รัฐแสดงจุดยืนนิรโทษกรรม
ที่พรรคเพื่อไทย นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยและในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวขับไล่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยเหตุผลที่คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า เรื่องดังกล่าวต้องฟังเหตุผลของทุกฝ่าย ผู้ที่เป็นแกนนำเสื้อแดงก็ต้องเจรจาทำความเข้าใจเพราะเป็นเรื่องภายในพรรค
ส่วนนายวัฒนา ในฐานะโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยสถานะเป็นข้าราชการเมือง การจะแถลงเรื่องใดต้องมีฐานความคิด และต้องคิดเสมอการพูดในตำแหน่งไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว
สำหรับกฎหมายนิรโทษกรรมที่ล่าสุดแกนนำคนเสื้อแดงพยายามผลักดันให้ออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นั้น การพ.ร.ก.เป็นอำนาจของรัฐบาลซึ่งยอมรับว่ารัฐบาลเองก็ต้องมีท่าทีให้ชัดเจนต่อกฎหมายนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างพรรคและผู้สนับสนุน แต่อยากให้ทุกฝ่ายได้ใช้เหตุผลและให้เกียรตินายกรัฐมนตรี เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุและผลแล้วสุดท้ายผลออกมาอย่างไรก็ต้องทำใจยอมรับและเคารพการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี..
**ปชป.” ยืนกรานค้านนิรโทษจี้นายกฯแจง4ข้อ
เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปค้าน) แถลงว่า กรณีที่มีรัฐมนตรีบางบุคคลเสนอแนวคิดออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม โดยระบุว่าเตรียมจะเสนอต่อนายกฯโดยเร็วที่สุดนั้น ทางวิปค้านเห็นว่าเป็นเป้าหมายเพื่อนิรโทษความผิดอาญา ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 1 ม.ค. 50 – 31 ธ.ค. 54 ให้พ้นผิดโดยสิ้นเชิงมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้หากนายกฯจะเห็นด้วยกับการออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมจริง ต้องตอบคำถาม 4 ข้อ ให้ได้ก่อนว่า 1.จะเป็นการเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่า การจะออกเป็นพระราชกำหนดได้ต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยประเทศและสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ หรือ ต้องเป็นกรณีจำเป็น ฉุกเฉิน เร่งด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้เท่านั้น 2.การกำหนดช่วงเวลานิรโทษกรรมดังกล่าวเท่ากับเลือกปฏิบัติ เพื่อช่วยเฉพาะคดีเผาศาลากลาง คดีวัดพระแก้ว และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนเจตนาไม่ให้รวมคดีที่มีการชุมนุมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในปี 2555 ด้วยหรือไม่ 3.จะเป็นจุดเริ่มต้นการนิรโทษกรรมคดีทุจริตด้วยใช่หรือไม่ และ 4.มีวัตถุประสงค์นำไปสู่การแก้ปัญหาประเทศหรือแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลให้พ้นจากข้อหาได้เป็นอำมาตย์แล้วลืมพวกหรือไม่
** “อภิสิทธิ์” ยืนกรานขวางแน่นอน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเร่งรัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผลักดันพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ว่า นายกรัฐมนตรีควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า จะเอาอย่างไร เห็นด้วยกับกฎหมาย และควรทำเป็นพ.ร.ก.หรือไม่ แต่จนบัดนี้ ทั้งนายกฯ และครม.ยังไม่มีท่าที ทั้งที่การออกพ.ร.ก.เป็นเรื่องของรัฐบาลโดยตรง ไม่ใช่เรื่องของส.ส.และสภาฯ แต่หากนายกฯ มีจุดยืนที่ชัดเจน ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมากังวลกัน เพราะจะเป็นอีกความขัดแย้งหนึ่ง และมีส.ว.บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นนายกฯ จะต้องเลือกว่า จะยึดประโยชน์ของส่วนรวมหรือส่วนตัว แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว..
อภิสิทธิ์ส่งทนายฟ้องธาริตผิดม.157รวมม.200ศาลอาญา24มค.
**ทีมกม.ปชป.ได้ฤกษ์ฟ้องธาริต24ม.ค.
นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความประจำพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย ถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ จะฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวม 4 ราย ว่าขณะนี้หลักฐานพร้อมแล้ว ตนจะเดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเช้าวันที่ 24 มกราคมนี้
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และพวกอีก 3 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบ ต่อศาลอาญา โดยขณะนี้ ร่างสำนวนการฟ้องได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังขาดเอกสารแนบท้ายที่จะยืนฟ้องอีกเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนตัวมั่นใจในหลักฐานว่า จะสามารถเอาผิด นายธาริต ได้อย่างแน่นอน เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความหนักใจในข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอแจ้ง โดยยังคงทำงานอยู่ปกติ เนื่องจากไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
**เลื่อนสืบพยาน“ตู่” หมิ่นมาร์คสั่งฆ่า
ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกคดีหมายเลขดำ อ.4176/2552 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)และจำเลยคดีก่อการร้ายเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค. และ17 ต.ค. 2552 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้กล่าวปราศรัยให้ประชาชนทั่วไปที่ฟังและชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พีเพิล แชนเนล เข้าใจว่าโจทก์เป็นอาชญากรสั่งฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น สร้างสถานการณ์ ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร และหน้าทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328, 332 โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ได้นำพ.ต.ต. เสงี่ยม สำราญรัตน์แกนนำ นปช. ขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล้มการประชุมอาเซียนที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสืบพยานแทนนายจตุพร เนื่องจากนายจตุพร ที่ติดภารกิจที่ภาคเหนือ ไม่สามารถเดินทางมาสืบพยานจำเลยได้
อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าได้นัดสืบพยานจำเลยเป็นนัดแรก จำเลยควรมาเบิกความ เปิดคดีด้วยตนเองมากกว่า จึงให้เลื่อนการนัดสืบพยานจำเลย เป็นวันที่ 24 ม.ค.นี้ เวลา 09.00น.
โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้พยายามไกล่เกลี่ย อย่างไรก็หลังยื่นหนังสือกับนายธวัชชัย นามพิทักษ์ หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการพรรคเพื่อไทยแล้วเสร็จได้เดินทางกลับพร้อมระบุว่าจะเดินทางไปยังรัฐสภา ในวันที่ 23 ม.ค.เพื่อขับไล่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุผลเดียวกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น มีการสร้างเวปเพจ เพื่อร่วมลงนามยื่นหนังสือถอดถอนนายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาฯ ออกจากตำแหน่ง โดยในเวปเพจ ระบุว่า เนื่องด้วยหนึ่งในพันธกิจหลักของพรรคเพื่อไทยต่อคนเสื้อแดง คือภารกิจ"คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"ที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารและเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง
หลังจากที่ประชาชนหลายภาคส่วนได้ร่วมเสนอแนวทางการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองในหลายรูปแบบ ในนามนปช. และคณะนิติราษฎร์ เพื่อผลักดันให้พรรคเพื่อไทยได้เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความอยุติธรรม
แต่กลับมีบุคคลบางคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้แย้งด้วยข้ออ้างที่ไร้เหตุผล เพื่อหลีกเลี่ยงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง ด้วยการปฏิเสธการนิรโทษกรรมประชาชนทุกรูปแบบ โดยขัดกับพันธกิจที่พรรคเพื่อไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน และออกมาแสดงทัษนะคติอันเป็นผลลบต่อพรรคเพื่อไทยเอง โดยที่หาใช่แนวคิด มติ หรือข้อสรุปของพรรคไม่
ท่านนั้นคือ ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร์ และยังเป็นผู้สมัครแบบแบ่งเขต ในเขตบางนา-พระโขนงที่แพ้การเลือกตั้งมา(สอบตก)
ดังนั้นการที่ ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ แสดงออกซึ่งท่าทีอันรังเกียจการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองเช่นนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งมีแนวคิดทรยศต่อประชาชน และบิดเบือนแนวทางคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนของพรรคเพื่อไทย สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียต่อมวลชนที่ไว้วางใจการแก้ปัญหาด้านความอยุติธรรมที่เป็นพันธกิจของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก หากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ผ่านเลยไป เกรงว่าจะสร้างความเกลียดชังของมวลชนเสื้อแดงต่อพรรคเพื่อไทยมากเข้าไปอีก และเป็นปัญหาเรื้อรังเรื่องฐานคะแนนเสียงของพรรคในอนาคต
ทางกลุ่มเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย และมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง รวมถึงประชาชนคนทั่วไปจำนวนหนึ่งที่ได้ไว้วางใจ ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะต้องยื่นถอดถอน ส.ส.วัฒนา เซ่งไพเราะ ออกจากตำแหน่งโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และจากผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ในเขตพระโขนง-บางนา โดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่การแสดงออกซึ่งทัศนคติเป็นลบต่อการช่วยเหลือประชาชนเช่นนี้อีก และมิให้พรรคเพื่อไทยที่พวกเราลงคะแนนเสียงเลือกเข้าไปต้องเสียภาพลักษณ์ไปมากกว่านี้ จากการกระทำที่ไม่ฉลาดของคนเพียงไม่กี่คน
ในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2556 เวลา 10.30 น. ขอเชิญพี่น้องประชาชนที่สนใจและเห็นพ้องต้องกันในกรณีนี้ ร่วมยื่นหนังสือถอดถอนนายวัฒนา ต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในวันและเวลาดังกล่าว จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันและขอเชิญเพื่อนพ้องชาวโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเรา ร่วมลงนามแนบท้ายหนังสือเปิดผนึกที่จะยื่นต่อพรรคเพื่อไทย ในอีเว้นท์กิจกรรมนี้ครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น ในเวปไซด์คนเสื้อแดง RedNewsUp2Date เคยเขียนจดหมายอิเลล็คทรอนิก ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อ้างว่า เป็นคนเสื้อ แดงที่ กด LIKE กระทู้นี้มีความเห็น ตรงกันอย่างเอกฉันท์ว่า เห็นสมควรที่จะ ไล่นาย วัฒนา เซ่งไพเราะ ออกจากพรรคเพื่อไทย โดยตั้งกระทู้คำหยาบคาย โดยเฉพาะความหมายสัตว์เลื้อยคลานอย่างตัวเงินตัวทอง
**“ไพจิต”จี้รัฐแสดงจุดยืนนิรโทษกรรม
ที่พรรคเพื่อไทย นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยและในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวขับไล่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยเหตุผลที่คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า เรื่องดังกล่าวต้องฟังเหตุผลของทุกฝ่าย ผู้ที่เป็นแกนนำเสื้อแดงก็ต้องเจรจาทำความเข้าใจเพราะเป็นเรื่องภายในพรรค
ส่วนนายวัฒนา ในฐานะโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยสถานะเป็นข้าราชการเมือง การจะแถลงเรื่องใดต้องมีฐานความคิด และต้องคิดเสมอการพูดในตำแหน่งไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว
สำหรับกฎหมายนิรโทษกรรมที่ล่าสุดแกนนำคนเสื้อแดงพยายามผลักดันให้ออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นั้น การพ.ร.ก.เป็นอำนาจของรัฐบาลซึ่งยอมรับว่ารัฐบาลเองก็ต้องมีท่าทีให้ชัดเจนต่อกฎหมายนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างพรรคและผู้สนับสนุน แต่อยากให้ทุกฝ่ายได้ใช้เหตุผลและให้เกียรตินายกรัฐมนตรี เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุและผลแล้วสุดท้ายผลออกมาอย่างไรก็ต้องทำใจยอมรับและเคารพการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี..
**ปชป.” ยืนกรานค้านนิรโทษจี้นายกฯแจง4ข้อ
เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปค้าน) แถลงว่า กรณีที่มีรัฐมนตรีบางบุคคลเสนอแนวคิดออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม โดยระบุว่าเตรียมจะเสนอต่อนายกฯโดยเร็วที่สุดนั้น ทางวิปค้านเห็นว่าเป็นเป้าหมายเพื่อนิรโทษความผิดอาญา ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 1 ม.ค. 50 – 31 ธ.ค. 54 ให้พ้นผิดโดยสิ้นเชิงมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้หากนายกฯจะเห็นด้วยกับการออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมจริง ต้องตอบคำถาม 4 ข้อ ให้ได้ก่อนว่า 1.จะเป็นการเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่า การจะออกเป็นพระราชกำหนดได้ต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยประเทศและสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ หรือ ต้องเป็นกรณีจำเป็น ฉุกเฉิน เร่งด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้เท่านั้น 2.การกำหนดช่วงเวลานิรโทษกรรมดังกล่าวเท่ากับเลือกปฏิบัติ เพื่อช่วยเฉพาะคดีเผาศาลากลาง คดีวัดพระแก้ว และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนเจตนาไม่ให้รวมคดีที่มีการชุมนุมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในปี 2555 ด้วยหรือไม่ 3.จะเป็นจุดเริ่มต้นการนิรโทษกรรมคดีทุจริตด้วยใช่หรือไม่ และ 4.มีวัตถุประสงค์นำไปสู่การแก้ปัญหาประเทศหรือแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลให้พ้นจากข้อหาได้เป็นอำมาตย์แล้วลืมพวกหรือไม่
** “อภิสิทธิ์” ยืนกรานขวางแน่นอน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเร่งรัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผลักดันพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ว่า นายกรัฐมนตรีควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า จะเอาอย่างไร เห็นด้วยกับกฎหมาย และควรทำเป็นพ.ร.ก.หรือไม่ แต่จนบัดนี้ ทั้งนายกฯ และครม.ยังไม่มีท่าที ทั้งที่การออกพ.ร.ก.เป็นเรื่องของรัฐบาลโดยตรง ไม่ใช่เรื่องของส.ส.และสภาฯ แต่หากนายกฯ มีจุดยืนที่ชัดเจน ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมากังวลกัน เพราะจะเป็นอีกความขัดแย้งหนึ่ง และมีส.ว.บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นนายกฯ จะต้องเลือกว่า จะยึดประโยชน์ของส่วนรวมหรือส่วนตัว แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว..
อภิสิทธิ์ส่งทนายฟ้องธาริตผิดม.157รวมม.200ศาลอาญา24มค.
**ทีมกม.ปชป.ได้ฤกษ์ฟ้องธาริต24ม.ค.
นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความประจำพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย ถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ จะฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวม 4 ราย ว่าขณะนี้หลักฐานพร้อมแล้ว ตนจะเดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเช้าวันที่ 24 มกราคมนี้
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และพวกอีก 3 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบ ต่อศาลอาญา โดยขณะนี้ ร่างสำนวนการฟ้องได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังขาดเอกสารแนบท้ายที่จะยืนฟ้องอีกเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนตัวมั่นใจในหลักฐานว่า จะสามารถเอาผิด นายธาริต ได้อย่างแน่นอน เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความหนักใจในข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอแจ้ง โดยยังคงทำงานอยู่ปกติ เนื่องจากไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
**เลื่อนสืบพยาน“ตู่” หมิ่นมาร์คสั่งฆ่า
ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกคดีหมายเลขดำ อ.4176/2552 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)และจำเลยคดีก่อการร้ายเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ต.ค. และ17 ต.ค. 2552 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้กล่าวปราศรัยให้ประชาชนทั่วไปที่ฟังและชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พีเพิล แชนเนล เข้าใจว่าโจทก์เป็นอาชญากรสั่งฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น สร้างสถานการณ์ ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร และหน้าทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328, 332 โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ได้นำพ.ต.ต. เสงี่ยม สำราญรัตน์แกนนำ นปช. ขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล้มการประชุมอาเซียนที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสืบพยานแทนนายจตุพร เนื่องจากนายจตุพร ที่ติดภารกิจที่ภาคเหนือ ไม่สามารถเดินทางมาสืบพยานจำเลยได้
อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าได้นัดสืบพยานจำเลยเป็นนัดแรก จำเลยควรมาเบิกความ เปิดคดีด้วยตนเองมากกว่า จึงให้เลื่อนการนัดสืบพยานจำเลย เป็นวันที่ 24 ม.ค.นี้ เวลา 09.00น.