ASTV ผู้จัดการรายวัน - ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ยอมรับความจริง ตามภาพรวมตลาดรถไทยปีนี้ คาดจะร่วงอยู่ที่ 1.2 ล้านคัน ต้องประกาศลดเป้าขายเหลือ 5 แสนคัน ขณะที่คู่แข่งสวนทางปรับเพิ่มยอดขายเกือบหมด จนต้องอัดแคมเปญสู้ตั้งแต่หัวปี เผยปัจจัยเสี่ยงอุตฯ รถยนต์ไทย จับตา! ปัญหาเงินแข็งค่า และเศรษฐกิจโลกยังไม่คลี่คลาย
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สรุปยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยประจำปี 2555 สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนกว่า 1.436 ล้านคัน สูงสุดในประวัติศาสตร์ยอดขายรถยนต์ไทย ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของตลาดในประเทศที่สูงขึ้นมาก จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่กระตุ้นการบริโภคภายใน รวมถึงนโยบายโครงการรถยนต์คันแรก และปริมาณความต้องการสะสม อันเนื่องมาจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติในปี 2554 ประกอบกับกำลังการผลิตรถในประเทศที่สูงขึ้นสามารถรองรับได้ด้วย
“แม้เศรษฐกิจปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่กำลังซื้อส่วนหนึ่งถูกดึงไปจากโครงการรถคันแรก ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดขายลดลง 10% หรือมีจำนวน 1.2 ล้านคัน ซึ่งเป็นยอดค้างจองจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการรถคันแรกประมาณ 3 แสนคัน ขณะที่ความต้องการของตลาดจริงๆ ในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 ล้านคัน และโตโยต้าได้ตั้งเป้าหมายการขายปีนี้ไว้ที่ 5 แสนคัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 5.16 แสนคัน แต่ยังมีส่วนแบ่งการตลาดหรือแชร์สูงสุด 40% จากเดิมเพียง 36%”
ในส่วนของการส่งออกยังคงมีขยายตัวดี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าในปีนี้โตโยต้าจะส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปประมาณ 4.12 แสนคัน คิดเป็นมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 2.38 แสนล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาที่ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 4.05 แสนคัน และมีมูลค่าส่งออกรวมชิ้นส่วนทั้งสิ้น 2.42 แสนล้านบาท
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่น่ากังวลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย คงจะเป็นเรื่องของเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ในฐานะที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ส่งออกขนาดใหญ่ของโลก และเรื่องเศรษฐกิจโลกที่สหรัฐอเมริกายังไม่คลี่คลาย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจยุโรปคงจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักในการฟื้นตัว
สำหรับเรื่องของการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อโตโยต้ามากนัก และได้ลดระยะเวลาการผลิตรถยนต์ต่อคันให้เร็วขึ้นทดแทน แต่ซัพพลายเออร์คงได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งโตโยต้าได้พยายามช่วยเหลือ และสนับสนุนให้เพิ่มประสิทธิเป็นการทดแทน ขณะที่โครงสร้างภาษีสรรถสามิตใหม่ เห็นด้วยในหลักการที่ใช้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) มากำหนด แต่รับทราบหลายค่ายรถอยากจะให้เพิ่มช่วงระยะเวลา ประกาศใช้ใน 3 ปีข้างหน้า เพิ่มเป็น 4-5 ปีแทน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์การผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายในปีนี้ นอกจากการการเปิดตัวรถยนต์โตโยต้า วีออส ใหม่ และช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะเริ่มการผลิตอีโคคาร์ในโรงงานแห่งใหม่เกตุเวย์ 2 มูลค่าการลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ที่นับเป็นก้าวแรกการฉลองปีที่ 50 ของโตโยต้าในประเทศไทยแล้ว ยังมีแผนงานที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับลูกค้าและสังคมไทยด้วย
โดยล่าสุดโตโยต้าได้มอบของขวัญแทนคำขอบคุณ ให้กับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์นั่ง หรือเก๋งโตโยต้า 10 รุ่น ตั้งแต่วันนี้จนถึง 7 เมษายน 2556 ด้วยการมอบ Samsung GALAXY Tab 2 ขนาด 7.0 นิ้ว และสิทธิ์ในการใช้บริการ TOYOTA Smart G-BOOK เวอร์ชั่นใหม่ พร้อมแผนที่ 3 มิติ เป็นระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้จากการประกาศเป้าหมายการขายของโตโยต้า แม้ทุกค่ายจะเห็นสอดคล้องกันภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจะลดลงเหลือ 1.2 ล้านคัน แต่โตโยต้าเป็นค่ายรถที่ได้ประเมินยอดขายลดลงจากปีที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าตั้งเป้าการขายไม่ต่ำกว่า 2 แสนคัน จากปีที่ผ่านมา 1.71 แสนคัน เช่นเดียวกับมาสด้าที่เพิ่มเป็น 8 หมื่นคัน จากปีที่แล้ว 7.4 หมื่นคัน และเชฟโรเลตที่ปรับเป้าปีนี้เป็น 1 แสนคัน จากปีที่แล้วทำได้กว่า 7.5 หมื่นคัน
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สรุปยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยประจำปี 2555 สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนกว่า 1.436 ล้านคัน สูงสุดในประวัติศาสตร์ยอดขายรถยนต์ไทย ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของตลาดในประเทศที่สูงขึ้นมาก จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่กระตุ้นการบริโภคภายใน รวมถึงนโยบายโครงการรถยนต์คันแรก และปริมาณความต้องการสะสม อันเนื่องมาจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติในปี 2554 ประกอบกับกำลังการผลิตรถในประเทศที่สูงขึ้นสามารถรองรับได้ด้วย
“แม้เศรษฐกิจปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่กำลังซื้อส่วนหนึ่งถูกดึงไปจากโครงการรถคันแรก ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดขายลดลง 10% หรือมีจำนวน 1.2 ล้านคัน ซึ่งเป็นยอดค้างจองจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการรถคันแรกประมาณ 3 แสนคัน ขณะที่ความต้องการของตลาดจริงๆ ในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 ล้านคัน และโตโยต้าได้ตั้งเป้าหมายการขายปีนี้ไว้ที่ 5 แสนคัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 5.16 แสนคัน แต่ยังมีส่วนแบ่งการตลาดหรือแชร์สูงสุด 40% จากเดิมเพียง 36%”
ในส่วนของการส่งออกยังคงมีขยายตัวดี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าในปีนี้โตโยต้าจะส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปประมาณ 4.12 แสนคัน คิดเป็นมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 2.38 แสนล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาที่ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 4.05 แสนคัน และมีมูลค่าส่งออกรวมชิ้นส่วนทั้งสิ้น 2.42 แสนล้านบาท
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่น่ากังวลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย คงจะเป็นเรื่องของเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ในฐานะที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ส่งออกขนาดใหญ่ของโลก และเรื่องเศรษฐกิจโลกที่สหรัฐอเมริกายังไม่คลี่คลาย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจยุโรปคงจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักในการฟื้นตัว
สำหรับเรื่องของการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อโตโยต้ามากนัก และได้ลดระยะเวลาการผลิตรถยนต์ต่อคันให้เร็วขึ้นทดแทน แต่ซัพพลายเออร์คงได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งโตโยต้าได้พยายามช่วยเหลือ และสนับสนุนให้เพิ่มประสิทธิเป็นการทดแทน ขณะที่โครงสร้างภาษีสรรถสามิตใหม่ เห็นด้วยในหลักการที่ใช้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) มากำหนด แต่รับทราบหลายค่ายรถอยากจะให้เพิ่มช่วงระยะเวลา ประกาศใช้ใน 3 ปีข้างหน้า เพิ่มเป็น 4-5 ปีแทน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์การผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายในปีนี้ นอกจากการการเปิดตัวรถยนต์โตโยต้า วีออส ใหม่ และช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะเริ่มการผลิตอีโคคาร์ในโรงงานแห่งใหม่เกตุเวย์ 2 มูลค่าการลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ที่นับเป็นก้าวแรกการฉลองปีที่ 50 ของโตโยต้าในประเทศไทยแล้ว ยังมีแผนงานที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับลูกค้าและสังคมไทยด้วย
โดยล่าสุดโตโยต้าได้มอบของขวัญแทนคำขอบคุณ ให้กับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์นั่ง หรือเก๋งโตโยต้า 10 รุ่น ตั้งแต่วันนี้จนถึง 7 เมษายน 2556 ด้วยการมอบ Samsung GALAXY Tab 2 ขนาด 7.0 นิ้ว และสิทธิ์ในการใช้บริการ TOYOTA Smart G-BOOK เวอร์ชั่นใหม่ พร้อมแผนที่ 3 มิติ เป็นระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้จากการประกาศเป้าหมายการขายของโตโยต้า แม้ทุกค่ายจะเห็นสอดคล้องกันภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจะลดลงเหลือ 1.2 ล้านคัน แต่โตโยต้าเป็นค่ายรถที่ได้ประเมินยอดขายลดลงจากปีที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าตั้งเป้าการขายไม่ต่ำกว่า 2 แสนคัน จากปีที่ผ่านมา 1.71 แสนคัน เช่นเดียวกับมาสด้าที่เพิ่มเป็น 8 หมื่นคัน จากปีที่แล้ว 7.4 หมื่นคัน และเชฟโรเลตที่ปรับเป้าปีนี้เป็น 1 แสนคัน จากปีที่แล้วทำได้กว่า 7.5 หมื่นคัน
