เนื่องจากวันที่ 17-24 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน หรือ เอทีเอฟ (ASEAN Tourism Forum 2013) ขึ้นที่ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เพื่อเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยในการเปิดเสรีการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในมิติความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง"ความพร้อมของประเทศไทยหากมีการเปิดเสรีอาเซียนในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ" ขึ้น โดยเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 11-13 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า
นักท่องเที่ยวต่างชาติระบุว่า จุดเด่นสำคัญที่ทำให้สนใจมาท่องเที่ยวประเทศไทย อันดับแรกคือ โบราณสถานและโบราณวัตถุ (ร้อยละ 28.1) รองลงมาคือ วัฒนธรรมประเพณี และศิลปะพื้นบ้าน (ร้อยละ 20.4) และชายหาด ทะเล
(ร้อยละ 14.3)
เมื่อถามต่อว่า เชื่อมั่นต่อการให้ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 97.6 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด มีเพียงร้อยละ 2.4 เท่านั้น ที่เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด
ส่วนความเห็นต่อปัจจัยที่อาจทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยแย่ลง อันดับแรกคือ การจราจรติดขัด (ร้อยละ 37.2) รองลงมาคือ การเอาเปรียบขึ้นค่าโดยสารของ แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก (ร้อยละ 23.2) และการโก่งราคาสินค้า ขายของแพง (ร้อยละ 20.7)
เมื่อสอบถามถึงความต้องการที่จะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกในครั้งถัดไป พบว่า ร้อยละ 85.0 จะกลับมาอีก ขณะที่ร้อยละ1.0 จะไม่กลับมาอีก และร้อยละ 14.0 ยังไม่แน่ใจ ทั้งนี้ เมื่อถามต่อว่ายินดีที่จะแนะนำหรือบอกต่อให้ผู้อื่นมาเที่ยวประเทศไทยหรือไม่ ร้อยละ 96.3 จะแนะนำ ขณะที่ร้อยละ 3.7 ยังไม่แน่ใจ
ด้านความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเปรียบเทียบระหว่างก่อนเดินทางมา กับเมื่อได้มาเที่ยวแล้วพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 60.5 รู้สึกดีกว่าที่คาดหวังไว้ และร้อยละ 37.6 รู้สึกพอๆ กับที่คาดหวังไว้ มีเพียงร้อยละ 1.9 รู้สึกแย่กว่าที่คาดหวังไว้
สำหรับความเห็น “หากมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยเพียงใด” ร้อยละ 83.9 เห็นว่าพร้อมค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 16.1 เห็นว่า พร้อมค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด
สุดท้ายเมื่อถามว่า “ประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในอาเซียนคือประเทศใด” พบว่าอันดับแรกคือ ประเทศไทย (ร้อยละ58.0) รองลงมาคือ เวียดนาม (ร้อยละ 34.1) กัมพูชา (ร้อยละ 30.6) ลาว (ร้อยละ 30.3) และสิงคโปร์ (ร้อยละ 26.1)
นักท่องเที่ยวต่างชาติระบุว่า จุดเด่นสำคัญที่ทำให้สนใจมาท่องเที่ยวประเทศไทย อันดับแรกคือ โบราณสถานและโบราณวัตถุ (ร้อยละ 28.1) รองลงมาคือ วัฒนธรรมประเพณี และศิลปะพื้นบ้าน (ร้อยละ 20.4) และชายหาด ทะเล
(ร้อยละ 14.3)
เมื่อถามต่อว่า เชื่อมั่นต่อการให้ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 97.6 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด มีเพียงร้อยละ 2.4 เท่านั้น ที่เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด
ส่วนความเห็นต่อปัจจัยที่อาจทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยแย่ลง อันดับแรกคือ การจราจรติดขัด (ร้อยละ 37.2) รองลงมาคือ การเอาเปรียบขึ้นค่าโดยสารของ แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก (ร้อยละ 23.2) และการโก่งราคาสินค้า ขายของแพง (ร้อยละ 20.7)
เมื่อสอบถามถึงความต้องการที่จะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกในครั้งถัดไป พบว่า ร้อยละ 85.0 จะกลับมาอีก ขณะที่ร้อยละ1.0 จะไม่กลับมาอีก และร้อยละ 14.0 ยังไม่แน่ใจ ทั้งนี้ เมื่อถามต่อว่ายินดีที่จะแนะนำหรือบอกต่อให้ผู้อื่นมาเที่ยวประเทศไทยหรือไม่ ร้อยละ 96.3 จะแนะนำ ขณะที่ร้อยละ 3.7 ยังไม่แน่ใจ
ด้านความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเปรียบเทียบระหว่างก่อนเดินทางมา กับเมื่อได้มาเที่ยวแล้วพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 60.5 รู้สึกดีกว่าที่คาดหวังไว้ และร้อยละ 37.6 รู้สึกพอๆ กับที่คาดหวังไว้ มีเพียงร้อยละ 1.9 รู้สึกแย่กว่าที่คาดหวังไว้
สำหรับความเห็น “หากมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยเพียงใด” ร้อยละ 83.9 เห็นว่าพร้อมค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 16.1 เห็นว่า พร้อมค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด
สุดท้ายเมื่อถามว่า “ประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในอาเซียนคือประเทศใด” พบว่าอันดับแรกคือ ประเทศไทย (ร้อยละ58.0) รองลงมาคือ เวียดนาม (ร้อยละ 34.1) กัมพูชา (ร้อยละ 30.6) ลาว (ร้อยละ 30.3) และสิงคโปร์ (ร้อยละ 26.1)