xs
xsm
sm
md
lg

กสทช.บีบค่ายมือถือ 18 ม.ค.พรีเพดห้ามหมดอายุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กสทช.บีบค่ายมือถือ 18 ม.ค. ห้ามระบุวันหมดอายุบัตรเติมเงิน บริการพรีเพด พร้อมต้องลงทะเบียน เลขที่บัตรประชาชน 13 หลักผู้ใช้บริการ สั่งเอไอเอส ดีแทค ปรับค่าบริการแพกเกจใหม่ ให้ต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์ตามประกาศกสทช.

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กล่าวว่าเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ได้หารือเชิงบังคับกับผู้ให้บริการการโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือเอไอเอส ,บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือดีแทค และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด เพื่อหาทางออกข้อสรุปปัญหาโทรศัพท์มือถือประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าใน 3 เรื่อง คือ 1. เรื่องการกำหนดระยะเวลาการใช้งาน 2. การดำเนินจัดเก็บข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือประเภทเรียกเก็บเงินล่วงหน้าตามข้อ 38 และข้อ 96 ของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรร และบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. 2551 และ3.การกำหนดให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือเรียกเก็บอัตราค่าบริการโทรศัพท์มือถือประเภทเสียงภายในประเทศได้ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์

โดยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการ ได้มีข้อสรุปตรงกันว่าในวันที่ 18 ม.ค. 56 จะมีผลบังคับใช้ใน 2 เรื่องแรกคือเรื่องการกำหนดวันหมดอายุนั้นผู้ประกอบการจะต้องห้ามกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินทุกมูลค่าของบัตร พร้อมทั้งผู้ประกอบการจะต้องส่งข้อมูลเงื่อนไขกำหนดวันหมดอายุที่เหมาะสมเพื่อนำมาเสนอบอร์ดกทค.ต่อไป เนื่องจากหากจะไม่กำหนดวันหมดอายุเลยนั้นผู้ประกอบการอ้างว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะเอกชนมีต้นทุนในการผลิตบัตรเติมเงิน ดังนั้นกสทช.จึงต้องการข้อมูลจากผู้ประกอบการในการเอามาพิจารณาเพื่อออกเป็นเงื่อนไขในอนาคตต่อไป

'ในช่วงที่ผู้ประกอบการยังไม่มีการส่งข้อมูลเงื่อนไขวันหมดอายุมาเราก็จะบังคับให้ผู้ประกอบการทุกรายห้ามกำหนดวันหมดอายุ โดยเบื้องต้นกสทช.มองว่าบัตรเติมเงินทุกมูลค่าจะต้องมีการกำหนดเวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน แต่ทั้งนี้คงต้องรอข้อมูลจากเอกชนก่อนเข้าบอร์ดกทค.จึงจะสามารถประกาศเป็นเงื่อนไขได้'

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งนั้นคือการลงทะเบียน โดยผู้ประกอบการจะต้องกรอกข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยประชาชนไม่จำเป็นต้องนำบัตรประชาชนตัวจริง หรือสำเนาบัตรประชาชนไปแสดงต่อร้านค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ขณะที่ซิมการ์ดเก่าที่ขายออกไปจากผู้ประกอบการแล้วนั้นทางกสทช. และผู้ประกอบการเห็นว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย เนื่องจากออกจากตลาดไปแล้ว

ส่วนกรณีการปรับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3 ค่ายที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกสทช.ที่ผ่านมาเรื่องการลงทะเบียนผู้ใช้บัตรเติมเงินล่วงหน้านั้นกสทช.สั่งปรับวันละ 80,000 บาท โดยมีคำสั่งปรับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.2555 ไปจนกว่าทั้ง 3 รายจะชำระค่าปรับตามคำสั่งกสทช. และ กรณีการกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน ซึ่งถือว่าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกสทช. เช่นเดียวกันจึงได้มีคำสั่งปรับวันละ 100,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.2555 ไปจนกว่าทั้ง 3 ค่ายมือถือชำระค่าปรับดังกล่าว

'ถึงแม้เอกชนจะยื่นขออุทธรณ์ในกรณีดังกล่าวก็ตาม แต่ตราบใดที่ศาลไม่มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินเอกชนก็ต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับตามคำสั่งที่เราออกไปอยู่ดี'

ส่วนการกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงสำหรับบริการด้านเสียง (วอยซ์) ตามประกาศของกสทช.ที่นาทีละ 99 สตางค์นั้น ได้สิ้นสุดตามบทเฉพาะกาลที่อนุโลมตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. ดังนั้น เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ จึงต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งทรูมูฟได้เสนออัตราค่าบริการในลักษณะแพกเกจแล้ว ซึ่งทุกโปรโมชั่นไม่ถึงนาทีละ 99 สตางค์ แต่เอไอเอส กับดีแทคยังเกินอัตราที่กำหนดอยู่จึงได้สั่งให้ทั้ง 2 รายกลับไปปรับโครงสร้างอัตราค่าบริการ และโปรโมชั่นทุกแพกเกจที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับประกาศของกสทช.

นอกจากนี้สำนักงานกสทช.ยังจะพยายามกำหนดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(ค่าไอซี)ที่ผู้ประกอบทั้ง5รายต้องยึดค่าไอซีกลางดังกล่าวโดยคาดว่าจะเสนอบอร์ดกสทช.ปลายเดือนม.ค.นี้ โดยค่าไอซีอัตราใหม่นี้ กทค. จะออกประกาศบังคับใช้กับผู้ให้บริการทุกราย ซึ่งเบื้องต้นการใช้ค่าไอซีมีเพียงผู้ประกอบการบางรายที่ใช้โดยอาศัยข้อตกลงระหว่างกันในอัตรานาทีละ 1.07 บาท เนื่องจากประกาศค่าไอซีฉบับเดิมกำหนดให้เอกชนเจรจากำหนดค่าไอซีกันเอง จึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและบางกรณีก็ไม่สามารถตกลงกันได้โดยค่าไอซีใหม่ที่จะบังคับใช้จะต่ำกว่านาทีละ 45 สตางค์ ในปีแรกและใน 3ปี จะต้องปรับลดลงอีก 40% ตามรายงานของที่ปรึกษา ซึ่งหลังจากที่บอร์ดกสทช.มีมติกำหนดราคากลางไอซีแล้ว จะจัดให้มีการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้การกำหนดอัตราค่าไอซีกลาง ให้ต่ำกว่าอัตราเดิมที่เอกชนใช้อยู่ 1.07 บาทต่อนาที เพื่อจะได้สอดคล้องกับการปรับลดราคาค่าบริการโทรศัพท์มือถือที่กสทช.มีเจตนารมณ์ว่าการให้บริการบนใบอนุญาต 3G จะต้องถูกลง 15-20% และราคาค่าโทร.ต่อนาทีจะต้องไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาทีตามประกาศของกสทช.

นอกจากนี้ นายฐากร ยังเปิดเผยข้อมูลเรื่องร้องเรียนด้านกิจการโทรคมนาคมในปี2555 ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนรวม 2,265 เรื่องเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีเรื่องร้องเรียน 2,014 เรื่อง โดยเป็นเรื่องร้องเรียนโทรศัพท์มือถือมากที่สุด 1,709 เรื่องที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 1,000 เรื่อง รองลงมาเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐานซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน ส่วนการร้องเรียนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เอไอเอสถูกร้องเรียนมากที่สุด รองลงมาเป็นดีแทค ทรู ทรูมูฟเอช ทีโอทีและฮัทช์
กำลังโหลดความคิดเห็น