พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.จว.ขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจ ภาค 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสังกัด ตำรวจภูธร ภาค 4 ได้สมัครเพื่อที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครบจำนวนตามโควต้าแล้ว จึงต้องมีการระงับการคัดเลือกโดยวิธีการจับสลาก ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ (3 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค 4 ซึ่งได้มีหนังสือเชิญพนักงานสอบสวนฯ ระดับสารวัตรและรองผู้กำกับจำนวน 462 คนไปก่อนหน้านี้ ซึ่ง ภาค 4 มีโควต้าทั้งหมด 23 นาย จึงได้จัดสรรให้กับจังหวัดโดยขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ มีกำลังอัตราพนักงานสอบสวนชำนาญการฯ มากกว่าจังหวัดอื่น ได้โควต้า 4 นาย ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะกระจายอัตราสัดส่วน 1-2 นาย ขณะที่การสมัครเข้ามามีเกินโควต้าแล้วบางจังหวัด โดยเฉพาะขอนแก่น มียื่นความประสงค์เข้ามา 5 นาย จนต้องขอให้งดรับคนที่เสนอข้ามาทีหลังไว้ก่อน ซึ่งมีผู้สมัครเข้ามาเต็มโควต้า ตั้งแต่วันแรกของปีใหม่แล้วด้วย
สำหรับพนักงานสอบสวนใน 12 จังหวัดในความรับผิดชอบตำรวจภาค 4 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,300 นาย จากทั้งหมด 248 สภ. เนื่องจากต้องการพนักงานฯ ที่มีคุณสมบัติชำนาญการและชำนาญการพิเศษ มีคุณสมบัติและประสบการณ์ จึงต้องกำหนดเกณฑ์เป็นระดับสารวัตร และรองผู้กำกับ ซึ่งมีจำนวน 462 คน แต่ในเมื่อมีการสมัครเข้ามาจนครบตามโควต้าแล้ว จึงไม่เป็นต้องจับสลาก หรือให้พนักงานสอบสวนทั้งหมดเข้ามาทำการคัดเลือกอีก แต่ก็คงจะมีการส่งรายชื่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 จะได้คอนเฟอร์เร้นท์เพื่อให้กำลังใจ ชื่นชมความเสียสละ และแสดงความยินดี รวมทั้งให้แนวนโยบายกับผู้ที่สมัครที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ในวันที่ 3 ม.ค.นี้ ด้วย
โฆษกตำรวจภาค 4 กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบวินัยผู้ที่ร้องเรียนคัดค้านการคัดเลือกก่อนหน้านี้นั้น คณะกรรมการก็ยังคงจะมีการดำเนินการต่อ ซึ่งจะผิดหรือไม่ ขึ้นกับผลการสอบของคณะกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ได้มีการสื่อสารกันได้เข้าใจ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย รวมทั้งความมั่นใจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะในรายที่เป็นคนอีสานโดยกำเนิด ที่กังวลเรื่องของการย้ายที่ทำงานต่างถิ่นต่างภาษา มากเป็นพิเศษ
แหล่งข่าวพนักงานสอบสวนภาค 4 รายหนึ่งเปิดเผยว่า ที่มีหนังสือร้องเรียนจนต้องอาจจะมีการสอบวินัยนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นการแสดงออกตามบทกฎหมาย และที่สำคัญเป็นการแสดงออกถึงการคัดค้านวิธีการสรรหา ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่คัดค้าน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะเป็นการวางกรอบ หรือทบทวนเพื่อแก้ปัญหาในอนาคต ที่จะต้องดีกว่านี้ มีวิธีการที่ดีเหมาะสมกว่านี้ เป็นทางออกที่จะให้มีการบริการจัดการเพื่อแก้ปัญหาหาภาคใต้ในระยะยาว เพราะขณะนี้ภาคใต้ต้องการการพัฒนา คนที่ไปจะต้องมีความมุ่งมั่น สมัครใจที่จะไปช่วยไปทำงาน ไม่ใช่ไปแล้วสร้างปัญหา เพราะจำใจไปมากกว่า
สำหรับพนักงานสอบสวนใน 12 จังหวัดในความรับผิดชอบตำรวจภาค 4 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,300 นาย จากทั้งหมด 248 สภ. เนื่องจากต้องการพนักงานฯ ที่มีคุณสมบัติชำนาญการและชำนาญการพิเศษ มีคุณสมบัติและประสบการณ์ จึงต้องกำหนดเกณฑ์เป็นระดับสารวัตร และรองผู้กำกับ ซึ่งมีจำนวน 462 คน แต่ในเมื่อมีการสมัครเข้ามาจนครบตามโควต้าแล้ว จึงไม่เป็นต้องจับสลาก หรือให้พนักงานสอบสวนทั้งหมดเข้ามาทำการคัดเลือกอีก แต่ก็คงจะมีการส่งรายชื่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 จะได้คอนเฟอร์เร้นท์เพื่อให้กำลังใจ ชื่นชมความเสียสละ และแสดงความยินดี รวมทั้งให้แนวนโยบายกับผู้ที่สมัครที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ในวันที่ 3 ม.ค.นี้ ด้วย
โฆษกตำรวจภาค 4 กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบวินัยผู้ที่ร้องเรียนคัดค้านการคัดเลือกก่อนหน้านี้นั้น คณะกรรมการก็ยังคงจะมีการดำเนินการต่อ ซึ่งจะผิดหรือไม่ ขึ้นกับผลการสอบของคณะกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ได้มีการสื่อสารกันได้เข้าใจ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย รวมทั้งความมั่นใจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะในรายที่เป็นคนอีสานโดยกำเนิด ที่กังวลเรื่องของการย้ายที่ทำงานต่างถิ่นต่างภาษา มากเป็นพิเศษ
แหล่งข่าวพนักงานสอบสวนภาค 4 รายหนึ่งเปิดเผยว่า ที่มีหนังสือร้องเรียนจนต้องอาจจะมีการสอบวินัยนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นการแสดงออกตามบทกฎหมาย และที่สำคัญเป็นการแสดงออกถึงการคัดค้านวิธีการสรรหา ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่คัดค้าน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะเป็นการวางกรอบ หรือทบทวนเพื่อแก้ปัญหาในอนาคต ที่จะต้องดีกว่านี้ มีวิธีการที่ดีเหมาะสมกว่านี้ เป็นทางออกที่จะให้มีการบริการจัดการเพื่อแก้ปัญหาหาภาคใต้ในระยะยาว เพราะขณะนี้ภาคใต้ต้องการการพัฒนา คนที่ไปจะต้องมีความมุ่งมั่น สมัครใจที่จะไปช่วยไปทำงาน ไม่ใช่ไปแล้วสร้างปัญหา เพราะจำใจไปมากกว่า