วานนี้ ( 27 ธ.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่เกี่ยวกับโครงบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน รวม 4 คดี เป็นกรณีที่ นายพรชัย ดิสกุล นายสมมาตร์ ดลมินทร์ นายชวณัฐ โฉมจังหวัด นายไพศาล กาญจนประพันธ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตนายช่างรังวัด พนักงานกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ฟ้อง นายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมที่ดิน กรณี ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สั่งลงโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ กรณีออกโฉนดทับที่สงวนหวงห้ามในพื้นที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สุมทรปราการ ให้แก่บริษัทปาล์มบีช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และนายวัฒนา อัศวเหม จนเป็นที่มาของการทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เนื่องจากเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้สั่งให้กลับเข้ารับราชการ และคืนสิทธิเงินเดือน เงินบำเหน็จบำนาญที่ควรได้รับกับผู้ฟ้องคดี
โดยเหตุที่ศาลยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการไต่สวน และการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. จนนำมาสู่การมีมติของคณะกรรมการป.ป.ช.นั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นการที่นายกรัฐมตรี ยกคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่อุทธรณ์มติป.ป.ช. จึงชอบแล้ว
ขณะเดียวกันก็เห็นว่าพฤติการณ์กระทำของผู้ฟ้องคดี ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่จงใจให้ราชการเกิดความเสียหายจริง จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง
โดยเหตุที่ศาลยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการไต่สวน และการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. จนนำมาสู่การมีมติของคณะกรรมการป.ป.ช.นั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นการที่นายกรัฐมตรี ยกคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่อุทธรณ์มติป.ป.ช. จึงชอบแล้ว
ขณะเดียวกันก็เห็นว่าพฤติการณ์กระทำของผู้ฟ้องคดี ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่จงใจให้ราชการเกิดความเสียหายจริง จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง