ผบ.ตร.อ้าแขนรับ “พงศพัศ” สอบตกผู้ว่าฯ กทม.กลับเข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้ โดยต้องยื่นความประสงค์ภายใน 30 วัน ยัน รธน.ให้สิทธิไปสมัครรับเลือกตั้งได้ทั้งระดับชาติและท้องถิ่นตามระบอบประชาธิปไตย
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงขั้นตอนการกลับเข้ารับราชการของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตรอง ผบ.ตร.ที่ลาออกลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และมติคณะรัฐมนตรี ให้ข้าราชการประจำทุกระดับใช้สิทธิลาออกเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งได้ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่นเพื่อเป็นการสนับสนุนประชาธิปไตย โดยจะสงวนตำแหน่งไว้ก่อน ซึ่งหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนก็ดำเนินการเหมือนกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีระเบียบในเรื่องนี้
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการกลับเข้ารับราชการนั้น หาก พล.ต.อ.พงศพัศประสงค์จะขอกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิม หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลให้ยื่นความประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดภายใน 30 วัน นับจากวันที่ กกต.รับรองผลอย่างเป็นทางการ ผบ.ตร.อนุมัติ ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ก.ตร.ลงมติเห็นชอบให้กลับเข้ารับราชการ จากนั้นก็นำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ก็สามารถกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิมได้ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นตำแหน่งที่อนุมัติโดยมติคณะรัฐมนตรี คนละส่วนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้า พล.ต.อ.อดุลย์ได้สั่งให้ผู้เกี่ยวข้องกับการกลับเข้ารับราชการของ พล.ต.อ.พงศพัศ อย่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (สง.ก.ตร.) สำนักงานกำลังพล เตรียมรับเรื่องการขอกลับเข้ารับราชการ และสั่งให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน หาก พล.ต.อ.พงศพัศยื่นความประสงค์ขอกลับเข้ารับราชการ อย่างไรก็ตาม ข้าราชการตำรวจทุกคนมีความยินดีที่ พล.ต.อ.พงศพัศจะกลับเข้ามาเป็นรับราชการตำรวจ