ASTVผู้จัดการรายวัน- “บอร์ดบีโอไอ” ขยายเวลาให้ธุรกิจที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนฯ 101 รายใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือไปจนถึง 31 ธ.ค. 2557 แต่มีเงื่อนไขให้ทยอยปรับการใช้ลดลง 25% ทุก 6 เดือนเป็นขั้นบันได รวมถึงขยายเวลาส่งเสริมฯบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และMAI อีก 1 ปี
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้ขยายมาตรการผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจำนวน 101 รายต่อไปอีก 2 ปีหรือจนถึง 31 ธ.ค. 2557 หลังจากที่มาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 55 อย่างไรก็ตามมีเงื่อนไขที่เอกชนจะต้องทยอยปรับลดการใช้แรงงานทุกๆ 6 เดือน ลง 25% โดยเริ่ม 1 ม.ค.-ก.ค. 56 จนครบ 100% ใน 6 เดือนสุดท้ายคือ(ก.ค.-ธ.ค.57)
“ เนื่องจากขณะนี้ยังเห็นว่ามีการขาดแคลนแรงงานอยู่จึงได้ขยายแต่มีเงื่อนไขที่บริษัทจะต้องเสนอแผนการลดการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือแบบขั้นบันไดภายใน 28 ก.พ. 56 ดังนั้นภายใน 1 ม.ค. 58 จะไม่มีการใช้แรงงานไร้ฝีมือต่างด้าวอีกต่อไป ” นายประเสริฐกล่าว
นอกจากนี้ ยังขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI)ต่อไปอีก 1 ปีจากสิ้นสุด 31 ธ.ค. 55 เป็น 31 ธ.ค.56 ขณะเดียวกันยังได้ขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 2 ปี โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 และขยายพื้นที่ในการให้ส่งเสริม
จากเดิมครอบคลุมการลงทุนในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ครอบคลุมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดสตูล และพื้นที่ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาด้วย ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา รวมถึงการขยายเวลายกเว้นอากรขาเข้าแม่พิมพ์ซึ่งจะสิ้นสุด 31 ธ.ค.55 ไปอีก 1 ปี
สำหรับมาตรการด้านภาษีอาการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยและมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัยให้ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหายไม่ขยายเวลาต่อให้เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอรับจำนวนมากและมีการฟื้นตัวในระดับที่น่าพอใจแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้การส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 21 บริษัท รวม 32 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น107,738 ล้านบาท ส่งผลให้การส่งเสริมการลงทุนฯตลอดปี 2555 อยู่ที่ระดับ 1,127,981 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยกลุ่มกิจการที่มีมูลค่าลงทุนสูงสุดเป็นกิจการขนส่งทางอากาศ รวมมูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาทได้แก่ โครงการบมจ.การบินไทย โดยการเช่าเครื่องบินใหม่ Air bus A330-343 2 ลำ,380-800 จำนวน 3 ลำ และ Airbus A 320-200 จำนวน 2 ลำ รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท และเป็นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ โดยเช่าเครื่องบินใหม่ จำนวน 13 ลำ ลงทุนทั้งสิ้น 14,191 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มกิจการที่มีการลงทุนเป็นอันดับ 2 ได้แก่ กิจการพลังงานทดแทนโดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ลมและชีวมวลจำนวน 14 โครงการรวมมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท เช่น การลงทุนของบริษัทโซลาร์ โก จำกัด ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ 6 โครงการ กำลังผลิตรวม 57 เมกะวัตต์ ลงทุนรวม 6,600 ล้านบาท การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของบ. บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี(ปราจีนบุรี) 2 โครงการ รวม 16 เมกะวัตต์ ลงทุน 1,800 ล้านบาท เป็นต้น
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้ขยายมาตรการผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจำนวน 101 รายต่อไปอีก 2 ปีหรือจนถึง 31 ธ.ค. 2557 หลังจากที่มาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 55 อย่างไรก็ตามมีเงื่อนไขที่เอกชนจะต้องทยอยปรับลดการใช้แรงงานทุกๆ 6 เดือน ลง 25% โดยเริ่ม 1 ม.ค.-ก.ค. 56 จนครบ 100% ใน 6 เดือนสุดท้ายคือ(ก.ค.-ธ.ค.57)
“ เนื่องจากขณะนี้ยังเห็นว่ามีการขาดแคลนแรงงานอยู่จึงได้ขยายแต่มีเงื่อนไขที่บริษัทจะต้องเสนอแผนการลดการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือแบบขั้นบันไดภายใน 28 ก.พ. 56 ดังนั้นภายใน 1 ม.ค. 58 จะไม่มีการใช้แรงงานไร้ฝีมือต่างด้าวอีกต่อไป ” นายประเสริฐกล่าว
นอกจากนี้ ยังขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI)ต่อไปอีก 1 ปีจากสิ้นสุด 31 ธ.ค. 55 เป็น 31 ธ.ค.56 ขณะเดียวกันยังได้ขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 2 ปี โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 และขยายพื้นที่ในการให้ส่งเสริม
จากเดิมครอบคลุมการลงทุนในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ครอบคลุมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดสตูล และพื้นที่ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาด้วย ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา รวมถึงการขยายเวลายกเว้นอากรขาเข้าแม่พิมพ์ซึ่งจะสิ้นสุด 31 ธ.ค.55 ไปอีก 1 ปี
สำหรับมาตรการด้านภาษีอาการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยและมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัยให้ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหายไม่ขยายเวลาต่อให้เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอรับจำนวนมากและมีการฟื้นตัวในระดับที่น่าพอใจแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้การส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 21 บริษัท รวม 32 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น107,738 ล้านบาท ส่งผลให้การส่งเสริมการลงทุนฯตลอดปี 2555 อยู่ที่ระดับ 1,127,981 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยกลุ่มกิจการที่มีมูลค่าลงทุนสูงสุดเป็นกิจการขนส่งทางอากาศ รวมมูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาทได้แก่ โครงการบมจ.การบินไทย โดยการเช่าเครื่องบินใหม่ Air bus A330-343 2 ลำ,380-800 จำนวน 3 ลำ และ Airbus A 320-200 จำนวน 2 ลำ รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท และเป็นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ โดยเช่าเครื่องบินใหม่ จำนวน 13 ลำ ลงทุนทั้งสิ้น 14,191 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มกิจการที่มีการลงทุนเป็นอันดับ 2 ได้แก่ กิจการพลังงานทดแทนโดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ลมและชีวมวลจำนวน 14 โครงการรวมมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท เช่น การลงทุนของบริษัทโซลาร์ โก จำกัด ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ 6 โครงการ กำลังผลิตรวม 57 เมกะวัตต์ ลงทุนรวม 6,600 ล้านบาท การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของบ. บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี(ปราจีนบุรี) 2 โครงการ รวม 16 เมกะวัตต์ ลงทุน 1,800 ล้านบาท เป็นต้น
