xs
xsm
sm
md
lg

คนฮือ! แห่5วัดดัง สวดโลกแตก-นักวิทย์ จี้อย่าตื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(10 ธ.ค.55) นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดังเจ้าของฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” กล่าวว่าในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ราหูจะย้ายเข้าราศีตุลย์มาอยู่ร่วมกับดาวเสาร์ เล็งลัคนาดวงเมืองในราศีเมษ ทำให้ดวงเมืองแตกแบบสองแรงบวก จะเป็นจุดเริ่มต้นในความวุ่นวายทางการเมือง เศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ ต่อเนื่องนานกว่า 1 ปี ส่วนดวงบุคคล อาจส่งผลดีกับคนเกิดราศีเมษและราศีตุลย์ ในเรื่องงานหรือเงินทอง
การที่คนเกิดในสองราศีนี้ จะไปทำพิธีไหว้บูชาราหูตามวัดต่างๆ ทำบุญให้พระราหู หรือไหว้ด้วยของดำ อาจจะช่วยส่งผลดี โดยเฉพาะกำลังใจ ในขณะที่ วัดวาอารามต่างๆ หลายแห่งเตรียมทำพิธีสวดบูชาราหูย้ายราศี หวังเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี โดยเชื่อว่าราหูย้ายไปตำแหน่งราชาโชค จะช่วยเสริมโชคลาภ อำนาจบารมี หน้าที่การงาน ความสำเร็จ
อาทิ วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม ต้นตำรับราหูเริ่มสวดบูชาเทวดานพเคราะห์เวลา 17.09 น. วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี ในเวลา 18.09 น. จะเริ่มพิธีบวงสรวงเทพยดาขอพรเทพพระราหูทรงครุฑ โดยนายลักษณ์ เรขานิเทศ หมอดูชื่อดัง วัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร มีพิธีสวดนพเคราะห์บูชาราหู เวลา 19.00 น. ส่วนที่กรุงเทพมหานคร วัดไตรมิตรวิทยาราม เริ่มพิธีสวดบูชาเทวดานพเคราะห์ เวลา 18.18 น. และวัดภาษี ทำพิธีบวงสรวงเทพราหู เวลา 20.19 น.

****นักวิทย์ แนะประชาชนอย่าตื่น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก 21 ธันวาคมนี้ ว่า ปฏิทินมายาเป็นเอกสารบันทึกที่จัดทำขึ้นและถูกค้นพบโดยมีวันสิ้นสุดของปฏิทินในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 จึงเกิดเป็นกระแสข่าวและสันนิษฐานว่าเป็นวันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งอาจเป็นปกติที่จะไม่มีการบันทึกปฏิทินต่อไป
ส่วนความเชื่อที่เชื่อมโยงกับการเกิดภัยพิบัติรุนแรงหลายอย่างในปี 2012 เช่น พายุสุริยะที่มีความรุนแรงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นวงรอบของพายุซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดาวเทียม ส่วนแผ่นดินไหว พายุ ก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นตามภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไม่เกี่ยวข้องกับปฏิทินมายาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุการณ์หรือภัยพิบัติใด ๆ จะเกิดขึ้นหรือไม่ การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือและรับฟังข้อมูลจากทุกด้าน เป็นสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมอย่างมีสติและไม่ตื่นตระหนกจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และยืนยันว่า ขณะนี้ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด

**สดร.ชี้อย่าเชื่อคำลือ'วันสิ้นโลก'
รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันดาราศาสตร์ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า เกิดความเชื่อจากปฏิทินมายาของชนเผ่ามายา ซึ่งทำปฏิทินเอาไว้เมื่อประมาณ 5 พันปีก่อน โดยชนเผ่ามายาได้ทำปฏิทินทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 พันปี และปฏิทินมาสิ้นสุดในวันที่ 21 ธันวาคม ปี ค.ศ.2012 พอดี จึงกลายเป็นที่มาของความกลัวที่ว่าวันดังกล่าวจะเป็นวันสิ้นโลก หรือวันโลกแตก ซึ่งหลายคนก็คัดค้านความเชื่อนี้ว่าน่าจะเป็นเหมือนวันสิ้นปีของชนเผ่ามายามากกว่าวันสิ้นโลก
ทั้งนี้เรื่องความหวาดกลัวทั้งหมด เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่พูดต่อๆ กันมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2555 และเมื่อใกล้วันตามคำเล่าลือจึงเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แต่นักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ให้น้ำหนักกับข้ออ้างข้อใดเลยที่จะทำให้โลกแตก ซึ่งเวลานี้มีคนอยู่ 3 กลุ่มที่คิดเห็นต่อเรื่องเหล่านี้ คือ 1.กลุ่มที่เชื่อและเป็นกังวล ถึงขั้นเตรียมการต่างๆ ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างประเทศ 2.กลุ่มที่ไม่เชื่อและมองแบบขำๆ และเอาเรื่องนี้มาพูดคุยต่อกันแบบสนุกๆ และ 3.กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีใครเชื่อถือเรื่องเหล่านี้เลย
รศ.บุญรักษา กล่าวถึงประเด็นหนึ่ง ที่พูดกันว่าเป็นสาเหตุของโลกแตก คือ ดาวเคราะห์เรียงตัวกันทำให้เกิดการดึงดูดกันเองจนชนกันและโลกจะแตก ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยและในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ นักดาราศาสตร์ก็ยืนยันแล้วว่า จะไม่มีปรากฏ การณ์ดาวเรียงตัวแต่อย่างใดและเรื่องสุดท้ายคือ ระบบสุริยจักรวาลจะมีหลุมดำขนาดใหญ่อยู่ที่ใจกลาง โดยในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ หลุมดำจะดูดโลกเข้าไปและโลกจะแตก ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีเหตุผลใดๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่จะมาอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้เลย
“ยังไม่มีการยืนยันจากหลักการทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ว่า จะเกิดวันสิ้นโลก หรือภัยพิบัติร้ายแรงต่อโลก ทั้งการคาดเดาดาวหางจะพุ่งชนโลก ซึ่งหากจะเกิดขึ้นจริงองค์การนาซ่าต้องออกมาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ส่วนพายุสุริยะที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิจนทำลายล้างโลกนั้น พายุสุริยะจะเกิดขึ้นได้จริงตามธรรมชาติทุก ๆ 11 ปี แต่จะไม่เกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ และไม่ส่งผลกระทบหรืออันรายต่อมนุษย์ และการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 21 ธันวาคมนี้”
รศ.บุญรักษา กล่าวว่า ส่วนกรณีดาวเคราะห์เรียงตัวในแนวเดียวกับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ยืนยันว่า ไม่สามารถทำให้เกิดแรงดึงดูดต่อโลกจนโลกแตกได้ และหลุมดำที่อยู่ศูนย์กลางกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติต่อโลก ยืนยันว่า โลกอยู่ห่างจากหลุมดำจนไม่สามารถส่งผลกระทบใด ๆ ต่อโลกได้ ด้วยหลักฐานและข้อมูลจากทางวิทยาศาสตร์ จึงยืนยันได้ว่า ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ไม่เป็นวันสิ้นโลกและไม่เกิดความรุนแรงใด ๆ ต่อโลก ประชาชนไม่ควรวิตกกังวลไปกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงและไม่มีข้อมูลชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น