สวนอุคสาหกรรมโรจนะฯเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 24 เมกะวัตต์ที่อยุธยา มูลค่า 2.4 พันล้านบาท คาดทยอยแล้วเสร็จปลายปี 56 หลังดีเลย์เพราะน้ำท่วม ตั้งเป้าปีหน้าขายที่ดินไม่ต่ำกว่า 1.5 พันไร่ใกล้เคียงปีนี้ คาดปี56 สดใส รับรู้รายได้จากการขายคอนโดฯจีนอีก 3พันล้านบาท และโอนขายที่ดินในนิคมฯ
น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน)(ROJNA) เปิดเผยแผนการลงทุนในปี 2556ว่า บริษัทฯจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 24 เมกะวัตต์ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา ใช้เงินลงทุนรวม 2,400 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวจะดึงพันธมิตรเดิม คือ SUMIKIN BUSSAN CORPORATION เข้าร่วมทุนด้วย คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปลายปี 2556 ทำให้รับรู้รายได้ในปีถัดไป
เดิมบริษัทฯมีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมที่สวนอุตสาหกรรมฯอยุธยาเมื่อปี 2554 ทำให้โครงการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป โดยโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นี้มีสัญญาซื้อขายไฟโดยได้รับAdder 8 บาท/หน่วย ใช้พื้นที่ 500 ไร่ ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าเดิมในสวนอุตสาหกรรมฯได้ปิดซ่อมเนื่องจากน้ำท่วมด้วยทำให้ต้องซื้อไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ชั่วคราว คาดว่าโรงไฟฟ้าจะกลับมาจ่ายไฟอีกครั้งในต้นปี 2556
น.ส.อมรา กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทฯจะใช้เงินในการพัฒนาที่ที่ดินในสวนอุตสาหกรรมทั้ง 2แห่งที่จ.ปราจีนและอ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยมีเป้าหมายขายที่ดินไม่ต่ำกว่า 1,500 ไร่ ใกล้เคียงปีนี้ที่มียอดขายที่ดินประมาณ 1,500 ไร่ ขณะที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ที่อยุธยา ยังมีพื้นที่รอการจำหน่ายอีกมาก รองรับการลงทุนที่จะกลับมา เนื่องจากทำเลเหมาะสมโดยเฉพาะด้านลอจิสติกหลังจากปีนี้สวนอุตสาหกรรมฯไม่มีปัญหาน้ำท่วม และได้มีการสร้างกำแพงรอบสวนอุตสาหกรรมฯเพื่อป้องกันน้ำท่วมไว้ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ปี 2556 บริษัทฯจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอีกปี เนื่องจากรับรู้รายได้จากการโอนขายที่ดินในปีนี้ รวมทั้งรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เฟส 2 ในจีนประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเริ่มดีขึ้น ส่วนความคืบหน้าการเจรจาขายขายโรงแรมในจีนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุป 2556
น.ส.อมรา กล่าวถึงแผนการขยายการทำนิคมฯในอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ว่า บริษัทฯยังเน้นทำนิคมฯในไทย เนื่องจากเห็นว่าสายตานักลงทุนต่างชาติไทยยังมีศักยภาพในการรองรับการลงทุนได้อีกมาก ส่วนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม และเมียนมาร์นั้น บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในช่วงนี้ เพราะต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่เมียนมาร์ แม้ว่าจะสนใจทำนิคมฯในทวายก็ตาม
น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน)(ROJNA) เปิดเผยแผนการลงทุนในปี 2556ว่า บริษัทฯจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 24 เมกะวัตต์ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา ใช้เงินลงทุนรวม 2,400 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวจะดึงพันธมิตรเดิม คือ SUMIKIN BUSSAN CORPORATION เข้าร่วมทุนด้วย คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปลายปี 2556 ทำให้รับรู้รายได้ในปีถัดไป
เดิมบริษัทฯมีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมที่สวนอุตสาหกรรมฯอยุธยาเมื่อปี 2554 ทำให้โครงการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป โดยโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นี้มีสัญญาซื้อขายไฟโดยได้รับAdder 8 บาท/หน่วย ใช้พื้นที่ 500 ไร่ ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าเดิมในสวนอุตสาหกรรมฯได้ปิดซ่อมเนื่องจากน้ำท่วมด้วยทำให้ต้องซื้อไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ชั่วคราว คาดว่าโรงไฟฟ้าจะกลับมาจ่ายไฟอีกครั้งในต้นปี 2556
น.ส.อมรา กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทฯจะใช้เงินในการพัฒนาที่ที่ดินในสวนอุตสาหกรรมทั้ง 2แห่งที่จ.ปราจีนและอ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยมีเป้าหมายขายที่ดินไม่ต่ำกว่า 1,500 ไร่ ใกล้เคียงปีนี้ที่มียอดขายที่ดินประมาณ 1,500 ไร่ ขณะที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ที่อยุธยา ยังมีพื้นที่รอการจำหน่ายอีกมาก รองรับการลงทุนที่จะกลับมา เนื่องจากทำเลเหมาะสมโดยเฉพาะด้านลอจิสติกหลังจากปีนี้สวนอุตสาหกรรมฯไม่มีปัญหาน้ำท่วม และได้มีการสร้างกำแพงรอบสวนอุตสาหกรรมฯเพื่อป้องกันน้ำท่วมไว้ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ปี 2556 บริษัทฯจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอีกปี เนื่องจากรับรู้รายได้จากการโอนขายที่ดินในปีนี้ รวมทั้งรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เฟส 2 ในจีนประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเริ่มดีขึ้น ส่วนความคืบหน้าการเจรจาขายขายโรงแรมในจีนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุป 2556
น.ส.อมรา กล่าวถึงแผนการขยายการทำนิคมฯในอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ว่า บริษัทฯยังเน้นทำนิคมฯในไทย เนื่องจากเห็นว่าสายตานักลงทุนต่างชาติไทยยังมีศักยภาพในการรองรับการลงทุนได้อีกมาก ส่วนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม และเมียนมาร์นั้น บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในช่วงนี้ เพราะต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่เมียนมาร์ แม้ว่าจะสนใจทำนิคมฯในทวายก็ตาม