xs
xsm
sm
md
lg

“ตักขี้”เผยใจ..ทำไมต้องล้ม “ในหลวง”!(ฉบับที่หนึ่ง)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ณ ประเทศ“สารขันฑ์”อันไกลโพ้น มีการค้นพบจดหมายฉบับหนึ่ง ที่เขียนความในใจไว้ว่า..

ผมเคยเป็นคนไทยชื่อ”ตักขี้” ผมเกลียดเดือน“ธันวาคม”ของทุกปีมากที่สุด ทั้งๆ ที่พ่อแม่ครูอาจารย์พร่ำสอนผมมาแต่เด็กว่า..

ในประเทศสารขันฑ์ แทบทุกบ้านจะมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของ “พระมหากษัตริย์”ไว้บูชากราบไหว้ เพราะ “ในหลวง”ของประเทศสารขันฑ์ ทรงเปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรมนั่นเอง

80 กว่าปี..ที่ผมและชนชาวสารขันฑ์ได้รู้ได้เห็นว่า “ในหลวง”ทรงรักและห่วงใยพสกนิกรทุกคน โดยพระองค์ต้องทรงตรากตรำพระวรกายโดยมิรู้เหนื่อย เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจละลายทุกข์บำรุงสุข ให้กับผองชนชาวสารขันฑ์อย่างต่อเนื่องยาวนาน..

ผมไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นผมจึงรู้ว่า ทุกหัวระแหงบนผืนแผ่นดินสารขันที่ทุรกันดาร “ในหลวง”ของชาวสารขันฑ์พระองค์นี้ ได้เสด็จไปเยี่ยมและช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์อยู่เสมอ ทำให้พสกนิกรชาวสารขันทั่วแผ่นดิน รักและเทิดทูน “ในหลวงฯ” ยิ่งกว่าชีวิตเสมอมา

นั่นเป็นเรื่องราวที่ผมรับรู้ และชนชาวสารขันฑ์ก็จดจำสิ่งดีงามล้ำค่านี้โดยมิรู้ลืมเช่นกัน!

ตอนผมรับราชการเป็นตำรวจ พร้อมๆไปกับการทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ธุรกิจของผมกับเมียแย่ครับ ผมเป็นหนี้เป็นสินมากมาย เช็คก็เด้งแล้วเด้งอีก โชคดีที่ผมมีญาติคนหนึ่งเป็นนักการเมือง จึงทำให้ผมได้รู้จักนักการเมืองใหญ่ๆ ทั้งระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคน ทำให้ผมวิ่งเต้นจนได้สัมปทานผูกขาดธุรกิจด้านโทรคมนาคมของชาติ ผมจึงร่ำรวยอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งของสารขันฑ์ปเลยครับ

ผมยอมรับครับว่า ธุรกิจผูกขาดที่ทำเงินได้มากมายมหาศาลเช่นนี้ ผมต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้รัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงไม่น้อย-แต่คุ้มครับ อ้อ..ผมไม่เคยคิดว่าผิดนะ เพราะการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติ ที่ทำกันมานานแล้วในประเทศสารขันฑ์นี้!

ผมรวยแล้ว-ผมเป็นมหาเศรษฐีแล้ว-ครอบครัวผมสบายแล้ว ใช้เงินอีกสิบชาติก็ไม่หมด ผมควรใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขใช่ไหมล่ะ? ทว่า..ผมอยู่กับนักการเมืองจนรู้ว่า ระบบเลือกตั้งในประเทศสาระขันธ์นั้น ใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งได้ อีกทั้งเงินงบประมาณแผ่นดินปีละนับ 2 ล้านล้านบาท ใครมีอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ก็ใช้กลไกรัฐโกงกินเงินงบประมาณได้อย่างสบายบรื๋อ..

ผมเลยบอกกับเมียว่า เงินงบประมาณแผ่นดินปีละ 2 ล้านล้านบาทนั้น เอ้อ..ถ้าพวกเราโกงแค่ 10 % ก็จะได้เงิน 2 แสนล้านบาทต่อปี เป็นรัฐบาล 4 ปี ก็จะได้เงิน 8 แสนล้านบาทเชียวนะ แต่ถ้าโกง 30 % ล่ะ ก็จะได้เงินปีละ 6 แสนล้านบาท เป็นรัฐบาล 4 ปี พวกเราก็จะได้เงินถึง 1.2 ล้านล้านบาท อุ๊ย-ดูสิ..แค่คิดเท่านั้น..เธอกับพี่ก็น้ำลายไหลไม่หยุดแล้วนะเนี่ย..

ผมกับเมียจึงควักเงินมาลงทุนในธุรกิจการเมือง โดยเอาขี้ข้าช่างคิดกลุ่มหนึ่ง ที่กินเงินเดือนในบริษัทของพวกเรามาทำงานทันที ผมตั้งพรรคการเมือง ผมทุ่มเงินซื้อตัวสส.เกรดเอเข้าพรรค เตรียมพร้อมในการใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง รวมทั้งใช้นโยบายประชานิยม ลด-แลก-แจก-แถม โฆษณาหาคะแนนเสียงกันอย่างเต็มที่

หลายคนถามผมว่า การเอาเงินมากมายมาทำนโยบายประชานิยม เศรษฐกิจของประเทศสารขันฑ์ต้องเกิดวิกฤติ และจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างแสนสาหัสด้วย งานนี้..พวกเรามิโดนด่าเจ็ดชั่วโคตรหรือครับนาย?

เฮ้อ..หากพวกลื้ออยากมีอำนาจและเงินทองมากกว่าคนอื่น ใจลื้อต้องโหดสุดๆอย่างอั้ว และอย่าเสียสมองนั่งห่วงชาติและประชาชนสารขันฑ์ให้เสียเวลา ตอนนี้หาคะแนนเสียงเป็นรัฐบาลให้ได้ก่อนสิว่ะ..

อ้อ..ถึงแม้ประเทศและประชาชนสารขันจะล่มจม เพราะการบริหารชาติเอาแต่ได้ของพวกเรา ครอบครัวอั้วกับลื้อก็โกยเงินอื้อซ่าไว้ในกระเป๋าแล้ว จึงไม่มีอะไรน่ากลัวเลยนี่นา หากอยู่ในประเทศสารขันฑ์ไม่ได้ พวกเราก็หนีไปอยู่อเมริกา-อังกฤษ-ฝรั่งเศส-มอนเตเนโกรได้นี่หว่า..จริงไหม?

ส่วนประเทศและชาวสารขันฑ์จะเป็นอย่างไรนั้น..ช่างหัวมันสิวะ..ฮ่าฮ่าฮ่า..!

โชคดีแฮะ..ช่วงนั้นผมมีเพื่อนเป็นรมว.คลังประเทศสารขันฑ์ ในรัฐบาลของ"จิ๋วหวานเจี๊ยบ"พอดี ไอ้เพื่อนคนนี้แอบส่งข่าวลับมาให้ผมรู้ว่า รัฐบาลกำลังจะลดค่าเงินของประเทศสารขันฑ์ลง ผมจึงรีบขายเงินของประเทศสารขันฑ์ หันไปกว้านซื้อเงินดอลลาร์ของ”ลุงแซม”ทันที ใครจะว่าผมอกตัญญูต่อแผ่นดินสารขันฑ์ หรือทำลายเศรษฐกิจประเทศบ้านเกิดก็ช่างหัวมัน เงินและกำไรสูงสุดต่างหากสำคัญที่สุด เพราะมันเป็นอุดมการณ์ของนายทุนนิยมสามานย์อย่างผมครับ

โอ..พระเจ้าจอร์จช่วยด้วย หลังผมแบ่งเงินกำไรให้เพื่อนคนนั้นแล้ว ผมยังรวยอู้ฟู่นับหมื่นล้านบาทสารขัน การเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์นี้ ผมแทบไม่ต้องควักเงินส่วนตัวเลยล่ะ..

จริงดังคาด..เงินซื้อแทบทุกอย่างในประเทศสารขันฑ์ได้จริงๆ ซื้อวัวควาย-ซื้อหมูหมา-ซื้อตัวเอี้ย-ซื้อผีให้โม่แป้งยังได้เลยนะคุณ

เงินทำให้พรรคผมได้ส.ส.เข้าสภาฯมากที่สุด ผมสั่งขี้ข้าในสภาให้ยกแต่มือไม่ต้องใช้สมอง ลงมติเลือกผมให้เป็นนายกฯประเทศสารขันทันที สส.ของผมทำตามคำสั่งไม่มีหือ-ไม่มีอือ เพราะขืนแข็งข้อ..ผมก็ไม่จ่ายเงินรายเดือน และไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในคราวหน้าน่ะสิ ก็กฎหมายรัฐธรรมนูญให้สิทธิ์ผม ชี้เป็นชี้ตายได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในฐานะนายทุนเจ้าของพรรคไงล่ะครับ

จริงด้วย..เมื่อผมยึดอำนาจรัฐและขึ้นเป็นนายกฯ ได้ ผมกับเมียก็ใช้กลไกรัฐโกงได้คล่องขึ้น โกงได้มากตามใจปรารถนา สั่งกระทรวงทบวงกรมใดให้โกงได้ทั้งนั้น ข้าราชการคนไหนขวางการโกง ผมสั่งย้ายทันที ส่วนข้าราชการคนไหนโกงเก่ง โกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยากได้ตำแหน่งไหน..เอาไปเลยพวกมึง..

“นายครับ..ถึงเวลาขจัดก้างขวางคอ เพื่อนายจะได้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินนี้เสียที เพราะตอนนี้ประชาชนรักนายมากกว่า “ในหลวง”ประเทศสารขันฑ์แล้วล่ะ ล้มรัฐสารขันฑ์เก่า-สร้างรัฐสารขันฑ์ใหม่กันเถอะนะนาย”

ผมเห็นด้วยกับลูกน้องกลุ่มนี้ เพราะ “ในหลวง”ประเทศสารขันฑ์และคนใกล้ชิดกลุ่มหนึ่ง ชอบออกมาพูดตรงกันข้ามกับพวกเราเสมอว่า ต้องดำรงชีวิตรู้จักพอ ต้องทำเพื่อส่วนรวม ต้องซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงชาติ เฮ้อ..ชอบพูดแต่เรื่องให้ทำดี-ทำดี-ทำดี โถ..ไม่รู้หรือไงว่า สันดานผมต้องการแต่อำนาจและเงินทองเท่านั้น และจะใช้ทุกวิธีการที่ชั่วช้าสามานย์ ให้ได้สวาปามอำนาจและเงินทองครับ

ส่วนจะก่อผลเสียหายทั้งปัจจุบันและอนาคต ต่อชาติและประชาชนชาวสารขันฑ์นั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมและพวกจะต้องแยแสสนใจนี่หว่า!

บทเรียนสำหรับคนชั่วอย่างผม คือ คนชั่วที่มีอำนาจและมีเงินมหาศาลเท่านั้น ที่จะทำให้คนรักกัน-เกลียดกันได้ ทำให้คนสามัคคี-แตกแยกกันได้ ทำให้คนดีงอมืองอเท้าจนไม่กล้าดาหน้าออกมาสู้กับคนชั่วอย่างผม และนั่นจะทำให้ผมกับผองชนคนชั่ว ยึดครองประเทศสารขันได้จนวันนี้ไงล่ะครับ

ผมเป็นคนชั่วที่เคยจนมาก่อน ตอนผมชั่วและจนนั้น ทั้งคนดีกับคนชั่วล้วนไม่เคยสนใจผมเลย

วันนี้ผมเป็นมหาเศรษฐีชั่ว ที่มีเงินมหาศาล มีอำนาจมากมาย แถมผมชั่วช้าถึงขนาดทำลายชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศสารขันฑ์ แต่คนดีไม่น้อยและคนชั่วส่วนใหญ่ ยังยอมสยบหรือยอมตนเป็นขี้ข้าของผมทั้งลับและเปิดเผยครับ

เฮ้อ..ง่วงแล้ว..ขอจบจดหมายฉบับแรก ของเดือน”ธันวาคม”ที่ผมเกลียดแค่นี้ก่อนนะครับ

ป.ล. ผมรู้แล้วล่ะว่า ความชั่ว-เงิน-อำนาจรัฐ เป็นอาวุธสำคัญที่สุดของผม”นายตักขี้”ครับ!
กำลังโหลดความคิดเห็น