เอเจนซีส์ - สื่อต่างประเทศ เอเอฟพี, ซีเอ็นเอ็น , เอพี, บีบีซี, สเตรทไทม์ส และคอลีจนิวส์ เสนอข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกมหาสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ท่ามกลางประชาชนชาวไทยนับแสนที่สวมเสื้อสีเหลืองมาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและถนนราชดำเนินนอก โดยในหลวงทรงแนะให้คนไทยยึดถือคุณธรรมความพร้อมเพรียงเป็นเกราะป้องกันให้บ้านเมืองอยู่รอด และมีความมั่นคงสืบไป
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ภาพถ่ายจากมุมสูงเผยให้เห็นพสกนิกรชาวไทยไม่ต่ำกว่า 200,000 คน พร้อมใจกันมาเฝ้ารับเสด็จฯ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยภาพคลื่นมหาชนที่มาร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดี วานนี้ (5ธ.ค.) แลดูเหมือนทะเลแห่งสีเหลืองที่ทอดยาวจนสุดสายตา
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับ ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า “ความปรารถนาดี” ที่ชาวไทยได้แสดงออกด้วยการมาร่วมพระราชพิธีเสด็จฯ ออกมหาสมาคมนั้น “ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงจะเกิดขึ้นมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง”
“แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้อยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทยไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน”
ประชาชนทั้งในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และที่มาจับจองพื้นที่สองฝั่งถนน ต่างเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านไปสู่พระที่นั่งอนันตสมาคม และเมื่อเสด็จฯกลับยังโรงพยาบาลศิริราช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 66 ซึ่งนับว่ายาวนานยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดในโลก และแม้จะเสด็จฯ ไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ปี 2009 แต่ก็ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ อยู่เสมอมา รวมถึงทรงรับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.2555 ที่ผ่านมาด้วย
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้เผยแพร่ข่าว พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุว่าประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองระดับชาติ และมีพิธีที่ยิ่งใหญ่ พร้อมยังมีการออกหนังสือฉลอง 70 ทศวรรษ ของการครองราชย์ ซึ่งมีนายอานันท์ ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษากองบรรณาธิการ รวมถึงการกล่าวคำถวายพระพร และถวายสัตย์ปฏิญาณของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงการพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษ กว่า 26,000 คน
ซีเอ็นเอ็น ยังระบุถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ความร่วมมือร่วมใจ และช่วยเหลือกัน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทย เมื่อคนไทยหลายแสนคนได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง ออกมารวมตัวกันท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อมารอเฝ้าชมพระบารมี และถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา
บีบีซีรายงานว่า ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาในแต่ละปี ชาวไทยทั่วประเทศจะพร้อมใจกันประดับธงสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ พร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ
สำนักข่าวเอพี ได้รายงานว่า ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่ากว่า 200,000 คน ร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 85 พรรษา ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พร้อมพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ สร้างความปลื้มปีติให้กับประชาชน ซึ่งสวมเสื้อสีเหลือง โบกธงตราสัญลักษณ์และธงชาติ
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอย่างแท้จริง โดยเห็นได้ชัดจากความแตกแยกทางการเมืองก่อนหน้านี้ แต่เมื่อถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา ก็กลับมาร่วมใจแสดงความจงรักภักดีกันอย่างเนืองแน่น
หนังสือพิมพ์ สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า การเสด็จฯ ออกมหาสมาคมวานนี้ นับเป็นครั้งที่ 6 ในช่วงเวลา 66 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยครั้งที่ผ่านมาจัดขึ้นเมื่อปี 2006 ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แม้พระมหากษัตริย์ของไทยจะมิได้ทรงมีบทบาททางการเมืองโดยตรง แต่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ซึ่งเผชิญเหตุวุ่นวายทางการเมืองหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองทั่วประเทศในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นวันพ่อแห่งชาติด้วย
สำนักข่าว คอลีจ นิวส์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายงานว่า ชัยค์ คอลีฟา บิน ซายเอ็ด อัล นาห์ยัน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน รอชีด อัล มัคตูม ผู้ปกครองนครดูไบ และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ ได้ส่งสาส์นถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 85 พรรษาด้วย
ขณะที่เว็บไซต์หลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เผยแพร่สาส์นถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของนางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ลงวันที่ 3 ธ.ค. ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ข้อความว่า "ในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และประชาชนชาวอเมริกัน ข้าพระพุทธเจ้ามีความยินดียิ่งที่ได้ร่วมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับชาวไทยทุกคนในวันชาติที่ 5 ธ.ค. นี้ด้วย”
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ภาพถ่ายจากมุมสูงเผยให้เห็นพสกนิกรชาวไทยไม่ต่ำกว่า 200,000 คน พร้อมใจกันมาเฝ้ารับเสด็จฯ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยภาพคลื่นมหาชนที่มาร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดี วานนี้ (5ธ.ค.) แลดูเหมือนทะเลแห่งสีเหลืองที่ทอดยาวจนสุดสายตา
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับ ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า “ความปรารถนาดี” ที่ชาวไทยได้แสดงออกด้วยการมาร่วมพระราชพิธีเสด็จฯ ออกมหาสมาคมนั้น “ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงจะเกิดขึ้นมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง”
“แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้อยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทยไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน”
ประชาชนทั้งในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และที่มาจับจองพื้นที่สองฝั่งถนน ต่างเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านไปสู่พระที่นั่งอนันตสมาคม และเมื่อเสด็จฯกลับยังโรงพยาบาลศิริราช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 66 ซึ่งนับว่ายาวนานยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดในโลก และแม้จะเสด็จฯ ไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ปี 2009 แต่ก็ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ อยู่เสมอมา รวมถึงทรงรับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.2555 ที่ผ่านมาด้วย
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้เผยแพร่ข่าว พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุว่าประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองระดับชาติ และมีพิธีที่ยิ่งใหญ่ พร้อมยังมีการออกหนังสือฉลอง 70 ทศวรรษ ของการครองราชย์ ซึ่งมีนายอานันท์ ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษากองบรรณาธิการ รวมถึงการกล่าวคำถวายพระพร และถวายสัตย์ปฏิญาณของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงการพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษ กว่า 26,000 คน
ซีเอ็นเอ็น ยังระบุถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ความร่วมมือร่วมใจ และช่วยเหลือกัน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทย เมื่อคนไทยหลายแสนคนได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง ออกมารวมตัวกันท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อมารอเฝ้าชมพระบารมี และถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา
บีบีซีรายงานว่า ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาในแต่ละปี ชาวไทยทั่วประเทศจะพร้อมใจกันประดับธงสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ พร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ
สำนักข่าวเอพี ได้รายงานว่า ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่ากว่า 200,000 คน ร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 85 พรรษา ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พร้อมพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ สร้างความปลื้มปีติให้กับประชาชน ซึ่งสวมเสื้อสีเหลือง โบกธงตราสัญลักษณ์และธงชาติ
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอย่างแท้จริง โดยเห็นได้ชัดจากความแตกแยกทางการเมืองก่อนหน้านี้ แต่เมื่อถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา ก็กลับมาร่วมใจแสดงความจงรักภักดีกันอย่างเนืองแน่น
หนังสือพิมพ์ สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า การเสด็จฯ ออกมหาสมาคมวานนี้ นับเป็นครั้งที่ 6 ในช่วงเวลา 66 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยครั้งที่ผ่านมาจัดขึ้นเมื่อปี 2006 ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แม้พระมหากษัตริย์ของไทยจะมิได้ทรงมีบทบาททางการเมืองโดยตรง แต่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ซึ่งเผชิญเหตุวุ่นวายทางการเมืองหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองทั่วประเทศในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นวันพ่อแห่งชาติด้วย
สำนักข่าว คอลีจ นิวส์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายงานว่า ชัยค์ คอลีฟา บิน ซายเอ็ด อัล นาห์ยัน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน รอชีด อัล มัคตูม ผู้ปกครองนครดูไบ และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ ได้ส่งสาส์นถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 85 พรรษาด้วย
ขณะที่เว็บไซต์หลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เผยแพร่สาส์นถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของนางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ลงวันที่ 3 ธ.ค. ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ข้อความว่า "ในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และประชาชนชาวอเมริกัน ข้าพระพุทธเจ้ามีความยินดียิ่งที่ได้ร่วมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับชาวไทยทุกคนในวันชาติที่ 5 ธ.ค. นี้ด้วย”
