ASTVผู้จัดการรายวัน - "ขวัญชัย" กร้าวนำคนเสื้อแดงอุดรกว่า 500 คน ไม่สวมเสื้อเหลืองร่วมถวายพระพรในหลวง ด้านปชป .อัดมท.เอาอะไรคิดห้ามจุดพลุงานในหลวง คนบันเทิงออกโรง ไม่สนจะจุดพลุซะอย่างเพื่อถวายในหลวง ขณะที่กระทรวงมหาดไทย โยนเผือกร้อนกันวุ่น อ้างรับคำสั่งจากสำนักนายกรัฐมนตรี สุดท้ายยกเลิกคำสั่งห้ามจุดพลุ เผยหลายจังหวัดเสื้อเหลืองขาดตลาด ขณะที่อีสานกลุ่มเสื้อแดงเมินซื้อเสื้อเหลืองด้าน "ก่อแก้ว พิกุลทอง” จำเลยก่อการร้าย นอนคุกยาว ศาลยกคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว
นายขวัญชัย สาราคำ หรือ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวทีนิวส์ กรณีกระแสข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่มีการสวมใส่เสื้อสีเหลือง ในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ตามนโยบายที่รัฐบาลรณรงค์ โดยนายขวัญชัย กล่าวว่า การสวมใส่เสื้อสีเหลือง เป็นเรื่องที่ทำใจไม่ได้
" ก็ถูกต้องแล้ว เขา (คนเสื้อแดง) จะไปทำใจกันได้ยังไง เสื้อเหลืองมาตีเราที่ จ.อุดรฯ เอาเสื้อเหลืองมาทำกันจนเละเทะอย่างนี้ ทำพวกผมติดคุกกันไปเยอะแยะ แล้วเราจะไปใส่ทำไม" นายขวัญชัย กล่าว
ส่วนการจัดพิธีถวายพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 ธันวาคม จะยังคงดำเนินการจัดงานเหมือนเดิมเช่นทุกปี ที่หน้าชมรมคนรักอุดร สำนักงานที่บริเวณหน้าทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี
นายขวัญชัย ยังกล่าวอีกว่า จะมีประชาชน มารวมกลุ่มกันที่บริเวณหน้าทุ่งศรีเมือง อย่างต่ำ 500 คน โดยทั้งหมดจะสวมใส่เสื้อสีแดง ประดับตราสัญลักษณ์ อย่างไรก็ตามประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวย้ำว่า ตนจะไม่สวมใส่เสื้อสีเหลืองแน่นอน และก็ไม่ผิดกฎหมายข้อใดด้วย
** ปชป .อัดมท.ห้ามจุดพลุงานในหลวง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือสั่งการไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่ให้จุดพลุในงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ว่า เป็นคำสั่งที่ไม่เหมาะสม เพราะงาน 5 ธันวามหาราช เป็นงานที่ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า เฝ้ารอที่จะร่วมเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะในกทม. หรือต่างจังหวัด คนไทยเฝ้ารอ นอกจากจะชมพระบารมีแล้ว ยังแสดงออกถึงความจงรักภักดี แสดงความรักต่อพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นไม่ควรกำหนดจำกัดกิจกรรม ที่ประชาชนจะแสดงออก และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เงินที่นำไปจัดงานนั้น เป็นภาษีของประชาชนทุกคน เชื่อว่าประชาชนทุกคนพร้อม และยินดีให้รัฐบาลนำเงินของพวกเขาไปจัดงานให้สมพระเกียรติ จึงขอเรียกร้องว่า อย่าสร้างเงื่อนไข สร้างความสงสัยในกรณีอย่างนี้กับประชาชนอีกและไม่ควรมีการไปจำกัดใดๆ และขอให้ดำเนินการอย่างสมพระเกียรติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนแสดงออกอย่างสมพระเกียรติอย่างเต็มที่ ให้ประชาชนออกมาร่วมกันแสดงออกอย่างเต็มที่
ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน สมาชิกพรรค เข้าร่วมรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมามหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ด้วย
**มท.กลับลำให้จุดพลุได้
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าฯ อีกครั้ง โดยไม่ได้สั่งให้งดการจุดพลุ แต่ให้ผู้ว่าฯ พิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนที่ท้องสนามหลวง เมื่อคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ระบุชัดเจนว่า ห้ามจุดพลุบริเวณท้องสนามหลวง ดังนั้น ก็จะไม่มีการจุดพลุ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามมติของคณะกรรมการจัดงาน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งไปยังผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ให้งดการจุดพลุเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค. หลังจากที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสือมายังกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 29 ต.ค. มีคำสั่งให้กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ
"เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ผมได้แจ้งผลดังกล่าวไปยังทุกจังหวัดแล้ว ซึ่งทุกจังหวัด ก็สามารถจุดพลุ และจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ได้เป็นปกติเหมือนทุกปี"
เมื่อถามว่า มีการระบุว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม รวมทั้งโจมตีเรื่องการจุดพลุ นายวิบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตนอยู่กับความเป็นจริง และขณะนี้ทุกอย่างราบรื่นด้วยดี
ด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงถึงกรณีมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ระบุให้ทุกจังหวัด งดการจุดพลุในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคมนั้น เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะโดยข้อเท็จจริง กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการทุกจังหวัด ได้เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช อย่างสมพระเกียรติ และยิ่งใหญ่ ซึ่งการขยายวงข่าว เรื่องไม่ให้จุดพลุนั้น เป็นความสับสน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจ และยึดมั่นในประเพณีที่ดีงามในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ โดยสามารถ จุดพลุ และจัดกิจกรรมได้เต็มที่ แต่ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังอันตราย
*** คนบันเทิง เย้ย! กูจะจุด ทำไม!
ท่ามกลางกระแสการห้ามจุดพลุของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ในส่วนของคนบันเทิงบางส่วนได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหนุ่ม "แทค ภรัณยู" ที่ได้โพสต์ภาพซึ่งเป็นภาพพลุพร้อมข้อความว่า "รณรงค์ซื้อพลุจุดฉลองให้ "พ่อ" ที่บ้านเราเอง เพราะ...รัฐบาลห้ามจุดพลุฉลองให้ "ในงานพิธี" ซึ่งเป็นภาพที่มีการฟอร์เวิร์ดกันไปทั่วในโซเชี่ยลมีเดียอยู่ในขณะนี้
โดยนอกจากภาพดังกล่าวแล้วนักแสดงหนุ่มก็ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านอินสตาแกรมของตนเองอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ของตนเองว่า..."กูจะจุด ทำไม เกิดมากูเห็นทุกปี "รัฐบาล" ไม่ใช่พ่อกู" นอกจากนี้ก็ยังมีนักร้องชื่อดังจากแกรมมี่ฯ อย่าง"ชิน ชินวุฒิ" ที่โพสต์ภาพเดียวกันพร้อมข้อความว่า "มาเล่นกันเถอะ เอาให้ดังก้องไปทั้งบ้าน ทั้งเมือง", ดีเจชื่อดัง "ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์" กับข้อความสั้นๆ แต่ได้ความหมายชัดเจนว่า "จะจุด!!! # รักในหลวง" รวมไปถึงผู้กำกับคนดัง "พจน์ อานนท์" ที่ว่า "เฮ้อ ประเทศไทยห้ามไปทุกเรื่อง"
**หายาก! เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์
ด้านผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจำหน่ายเสื้อสีเหลืองในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่ตลาดวโรรส-ตลาดต้นลำไย รวมถึงย่านตรอกเล่าโจ๊ว หรือตรอกข่วงเมน ที่ถือเป็นย่านค้าปลีก-ค้าส่งเสื้อผ้า-สินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ของเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน พบว่า มีประชาชนออกมาหาซื้อเสื้อสีเหลือง เพื่อเตรียมไว้ใช้สวมใส่ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.55 กันอย่างประปราย
ขณะที่การจำหน่ายเสื้อนั้นจากการสำรวจในบริเวณตลาดวโรรส พบว่า ร้านเสื้อผ้าหลายแห่งมีเสื้อโปโลสีเหลืองวางจำหน่าย หากแต่นำมาแขวนโชว์ไว้ไม่มากนัก และมีเพียงไม่กี่ร้าน โดยเฉพาะถ้าขับรถวนหาซื้อรอบตลาด จะพบมีเสื้อเหลืองแขวนโชว์หน้าร้านเฉพาะที่ห้างฯวรวัฒน์ และร้านจำหน่ายเสื้อผ้าริมถนนเพียง 2-3 ร้านเท่านั้น
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าได้ข้อมูลว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเสื้อสีเหลืองค่อนข้างขายดีและมีผู้มาสอบถามและหาซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยหลายร้านระบุว่าเสื้อโปโลที่มีตราสัญลักษณ์ได้จำหน่ายหมดไปแล้ว เหลือเพียงเสื้อโปโลสีเหลืองที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ที่ยังมีจำหน่ายอยู่
ขณะที่ตามสี่แยกสำคัญๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ กล่าวได้ว่าแทบไม่ปรากฏป้ายเฉพาะพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวามหาราช แต่อย่างใด
ส่วนบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แม้จะมีป้ายพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พื้นสีฟ้า พร้อมข้อความ “ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” ติดอยู่บริเวณด้านตะวันตกของประตูทางเข้าจวนด้านที่ติดถนนท่าแพ ก่อนถึงทางแยกไฟแดงเล็กน้อยก็ตาม
แต่ด้านตะวันออกของประตูเดียวกันได้มีการติดป้ายไวนิลพื้นที่แดงขนาดใหญ่ มีรูปนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานย่านการค้าพาณิชย์บ้านถวายครั้งที่ 3 ในวันที่ 28 ธ.ค.55 ที่จะถึงนี้ ติดตั้งไว้ให้เห็นอย่างโดดเด่น
**เชียงรายเร่งสั่งตัดเสื้อเหลือง
ส่วนบรรยากาศการจำหน่ายเสื้อเหลืองเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งถือเป็นตลาดซื้อขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่ในตัวเมืองเชียงราย พบว่า มีประชาชนเข้าไปหาซื้อกันอย่างคึกคักติดต่อกันมาหลายวัน เพื่อนำไปสวมใส่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.55 นี้ จนทำให้ตั้งแต่วันที่ 2-3 ธ.ค.55 สินค้าได้หายไปจากตลาดกว่า 3 วันแล้ว เพราะสินค้าในสต๊อกที่นำไปวางจำหน่ายหมดไม่พอขายให้แก่ลูกค้า และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต้องสั่งซื้อล็อตใหม่จากโรงงานค้าส่ง เพื่อนำไปวางจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้าต่อไป
**เสื้อเหลืองกรุงเก่าขาดตลาด
ที่ตลาดหัวรอ ตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า บรรยากาศการซื้อ-ขายเสื้อสีเหลืองของประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่ร้านเสื้ออั่งเปา ของนางรัตนา แก้วรัตนปัทมา อายุ 55 ปี เลขที่ 15/10 ม.9 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลั่งไหลเดินทางมาเลือกซื้อสีเสือเหลืองกันอย่างไม่ขาดสายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันนี้ ก็ยังพบว่าประชาชนก็ยังคงมาซื้อเสื้อเหลืองที่ร้าน ซึ่งมีจำหน่ายอยู่หลายแบบ หลายราคาระหว่างตัวละ 150-200 บาท
นางรัตนา กล่าวว่า ใกล้วันที่ 5 ธันวาคม 2555 ประชาชนตั้งใจจะใส่เสื้อเหลืองเหมือนกันทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา โดยประชาชนส่วนใหญ่นิยมเสื้อยืดสีเหลือง ส่วนข้าราชการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมาเลือกซื้อในแบบเสื้อคอปกหรือไม่ก็เสื้อเชิ้ต แต่ปัญหาตอนนี้คือ เสื้อขาดตลาด เนื่องจากแบบที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีน้อย ทำมาไม่ทันกับความต้องการของประชาชนที่มีสูงขึ้นในทุกๆ ปีโดยบางส่วนจะใส่ครั้งเดียว และเก็บเหมือนเป็นของที่สำคัญของแต่ละปีเลยทีเดียว
นางรัตนา ยังกล่าวถึงความในใจด้วยว่า ประชาชนทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยากให้พ่อหลวงหายจากอาการประชวร และทรงงานคู่กับประชาชนตลอดไป โดยประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะร่วมทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ก็เป็นวันดีของตัวเอง คือ วันเกิด โดยทางร้านเตรียมลดราคาเสื้อผ้าในร้านอีกด้วย
**แดงอีสานเมินซื้อเสื้อเหลืองใส่วันพ่อ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานีรายงานว่า บรรยากาศการจำหน่ายเสื้อสีเหลืองที่ปักตราสัญญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในจังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะที่ตลาดพระยาอุดร ช็อปปิ้ง มอล ที่ถือเป็นย่านค้าปลีก-ค้าส่งเสื้อผ้า-สินค้าอุปโภค ขนาดใหญ่ของอุดรธานีมาอย่างยาวนาน พบว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนมากไม่มีการนำเสื้อตราสัญญาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาจำหน่ายให้ประชาชนชาวอุดรธานีได้เลือกซื้อหากันมาก
ในขณะที่ประชาชนเองก็มีค่อนข้างน้อยที่ออกมาหาซื้อเสื้อสีเหลืองเพื่อเตรียมไว้สวมใส่ในวันพรุ่งนี้(5 ธ.ค.)ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2555 จากการสอบถามร้านค้าในตลาดต่างบอกว่ากระแสการซื้อขายเสื้อสีเหลืองในปีนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร
นายชนะ สว่างมงคลศรี เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าซึ่งเป็นร้านเดียวที่มีเสื้อตราสัญลักษณ์ภายในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเสื้อสีเหลืองที่ปักตราสัญญาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทางร้านได้สั่งมาจำหน่ายประมาณ 500 ตัวได้ขายเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเงียบเหงาไม่คึกคักเท่าเมื่อครั้ง ปี 2549 -2550 ขายดีเป็นอย่างมาก
ทางร้านสั่งมาเท่าไหร่ขายได้หมด และมีแบบให้เลือกมากมาย แต่เมื่อปี 2552-2555 เสื้อสีเหลืองทุกรูปแบบ ในจังหวัดอุดรธานี ถือได้ว่าไม่สามารถขายได้เลย เพราะชาวอุดรส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงที่ต่อต้านเสื้อเหลืองอยู่แล้ว
ขณะที่ตามถนนสายสำคัญๆ สี่แยกสำคัญๆ ทั่วเมืองอุดรธานี พบว่าทางเทศบาลนครอุดรธานี ได้นำป้ายเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวามหาราช มาติดทั่วเทศบาลนครอุดรธานี
*** "ก่อแก้ว"นอนคุกยาวศาลยกคำร้อง
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วานนี้ (4 ธ.ค.) นายเจษฎา จันดี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกศาลเพิกถอนการประกันตัวในคดีก่อการร้าย ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 6 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวนายก่อแก้ว
โดยระบุในคำร้องว่า ตามที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันจำเลย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น จำเลย ซึ่งเป็น ส.ส.มีความประสงค์จะเข้าร่วมอวยพรถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค.และยังต้องเข้าร่วมงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 7 ธ.ค.ด้วย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา นับเป็นงานสำคัญยิ่ง
นอกจากนี้ จำเลยยังเป็นกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ต้องพิจารณาและร่วมประชุมในเรื่องสำคัญในต่างประเทศระหว่าง 8-14 ธ.ค.นี้ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ อีกทั้งจำเลยไม่มีเจตนาข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือคุกคาม หรือละเมิดสิทธิตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำเลยไม่เชี่ยวชาญกฎหมาย จึงเข้าใจผิด และจะต้องทบทวนระมัดระวังไม่ให้เกิดการปราศรัยลักษณะนี้อีก รวมทั้ง ไม่เคยคิดก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง แม้มีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จำเลยก็ขอร้องมวลชนเสื้อแดงให้เลี่ยงการปรากฏตัวใกล้ที่ชุมนุม จำเลยไม่ใช่คนรุนแรง ซึ่งการขังตนไว้ระหว่างการพิจารณาก็ไม่มีประโยชน์อะไร จำเลยต้องดูแลครอบครัว บุตร และภรรยาได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งตนจะไม่ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จะไม่หลบหนี และจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด จึงขอศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยได้ประกันด้วย
ทั้งนี้ ศาลได้รับคำร้องของนายก่อแก้วไว้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
ภายหลังศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย เนื่องจากยังไม่มีเหตุอันสมควร และไม่เชื่อว่าหากปล่อยตัวแล้ว จะไม่ไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก
