ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุธรรม” นั่งแท่น ประธานบอร์ด อสมท.ตามโผ หลังที่ประชุมกรรมการบอร์ดลงมติเห็นชอบแล้ววานนี้ทุกคน ย้ำชัดไม่ว่าใครจะมานั่งประธานบอร์ด อสมท ก็ต้องดำเนินไปตามพันธกิจหลัก 3 ประการ บอร์ดยังไฟเขียว “เขมทัตต์” ลาออกวานนี้ (4 ธ.ค.) บริษัท อสมท จำดัด (มหาชน) มีการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 20 โดยมีวาระสำคัญว่าด้วยเรื่องของการเลือกประธานบอร์ดคนใหม่ แทนที่นายสรจักร เกษมสุวรรณ ที่ได้ลาออกจากการเป็นประธานกรรมการ และกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพราะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ที่ประชุมบอร์ดอสมท ทั้ง 10 คน ได้ลงมติเห็นชอบเลือก นายสุธรรม แสงประทุม ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานบอร์ด อสมท คนใหม่ โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 และนายจักรพันธุ์ ยมจินดา เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 และหลังจากนี้จะมีการสรรหากรรมการอีก 2 คน ที่ยังขาดอยู่ เพื่อให้ครบทั้ง 13 คน
นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายภายหลังจากได้รับตำแหน่ง หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงว่า พันธกิจเร่งด่วนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดครั้งนี้ คือ การหลอมรวมทุกภาคส่วนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ในสถานการณ์ที่ อสมท เป็นองค์กรที่ถูกกดดัน 2 ด้านหลัก คือ 1.เป็นองค์กรที่ต้องสนองต่อผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และประชาชน และต้องแข่งขันในตลาดให้ได้
2.ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ปรับเปลี่ยนไป โดยเอเชียกลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจคนใหม่ แต่ถือเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นโอกาสของอสมท ดังนั้นอสมทจะต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต จากเดิมที่มีเงินทุนและประสบการณ์อยู่แล้ว จะต้องเพิ่มผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้น ปรับตัวเองให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ได้
“อสมท อยู่ในสถานการณ์ของการปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีจากอะนาล็อกสู่ดิจิตอล รวมถึงร่วมทุนกับภาคเอกชนอย่างช่อง3 หรือ ทรูวิชั่นส์ และบรอดแบนด์ทีวีที่จะเห็นต่อไปหลังจากนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอาเซียนที่จะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน เป็นโอกาสของอสมทในการทำให้ช่องทีวีอาเซียนจะถูกพัฒนาสู่ความเป็นจริง เป็นทีวีสะท้อนการสื่อสารการเติบโตของประเทศอาเซียน ทั้งนี้เพื่อนำพาอสมทเติบโตไปตามสภาพความเป็นจริงของประเทศ”
ยันใครคุมอสมท ก็ไม่สะดุด
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ถึงแม้ตำแหน่งประธานบอร์ดอสมท จะเปลี่ยนไปตามวาระของรัฐบาลแต่ละสมัย แต่อสมทจะต้องเติบโตโดยไม่สะดุด เพราะประธานบอร์ดที่มานั่งตำแหน่งนี้ จะยังคงดำเนินงานตามภารกิจทางกฎหมาย 3 ข้อหลัก คือ 1.ทำงานสนองต่อผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ รัฐวิสากิจ คือ กระทรวงการคลัง 2.เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องมีการแข่งขันทางการตลาด เพื่อให้เกิดกำไรปันผลแก่ผู้ถือหุ้น และ3.การทำงานที่ถูกล้อมกรอบโดย พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่ โดยอสมทจะต้องตอบสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น พร้อมนำพาบุคลากรทุกภาคส่วนไปสู่การทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสุธรรม เคยทำหน้าที่ประสานงานระหว่างรัฐบาลกับอสมทมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
บอร์ดไฟเขียง “เขมทัตต์”ลาออก
อย่างไรก็ตาม กรณีนายเขมทัตต์ พลเดช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายขายและการตลาด ที่ได้ยื่นหนังสือลาออก หลังจากที่ถูกบอร์ดสั่งโยกย้ายให้ไปดูแลเอ็มคอท อะคาเดมี่ ไม่นานนี้ ล่าสุดในที่ประชุมบอร์ดอสมท ได้มีมติเห็นชอบให้นายเขมทัตต์ลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
โดยนายสุธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ตนเข้ามารับตำแหน่งนี้ช้าไป หลังนายเขมทัตต์ได้ตัดสินใจลาออกเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพไม่อำนวยและงานที่ได้รับมาไม่ท้าทายเท่าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวเสียดายนายเขมทัตต์ เพราะถือเป็นบุคลากรที่มีความสามารถอีกคนหนึ่งของอสมท
สำหรับนายสุธรรม แสงประทุม ในอดีตเคยเป็นผู้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 และเป็นอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 คนเบื้องหลังที่คอยให้คำแนะนำแก่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เคยถูก "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ดึงตัวมาช่วยเป็นวิทยากรคู่กับ "อดิศร เพียงเกษ" แกนนำคนเสื้อแดง บนเวที "ประชาเสวนา" สร้างความปรองดอง+การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพ
ทั้งนี้ที่ประชุมบอร์ดอสมท ทั้ง 10 คน ได้ลงมติเห็นชอบเลือก นายสุธรรม แสงประทุม ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานบอร์ด อสมท คนใหม่ โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 และนายจักรพันธุ์ ยมจินดา เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 และหลังจากนี้จะมีการสรรหากรรมการอีก 2 คน ที่ยังขาดอยู่ เพื่อให้ครบทั้ง 13 คน
นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายภายหลังจากได้รับตำแหน่ง หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงว่า พันธกิจเร่งด่วนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดครั้งนี้ คือ การหลอมรวมทุกภาคส่วนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ในสถานการณ์ที่ อสมท เป็นองค์กรที่ถูกกดดัน 2 ด้านหลัก คือ 1.เป็นองค์กรที่ต้องสนองต่อผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และประชาชน และต้องแข่งขันในตลาดให้ได้
2.ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ปรับเปลี่ยนไป โดยเอเชียกลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจคนใหม่ แต่ถือเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นโอกาสของอสมท ดังนั้นอสมทจะต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต จากเดิมที่มีเงินทุนและประสบการณ์อยู่แล้ว จะต้องเพิ่มผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้น ปรับตัวเองให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ได้
“อสมท อยู่ในสถานการณ์ของการปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีจากอะนาล็อกสู่ดิจิตอล รวมถึงร่วมทุนกับภาคเอกชนอย่างช่อง3 หรือ ทรูวิชั่นส์ และบรอดแบนด์ทีวีที่จะเห็นต่อไปหลังจากนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอาเซียนที่จะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน เป็นโอกาสของอสมทในการทำให้ช่องทีวีอาเซียนจะถูกพัฒนาสู่ความเป็นจริง เป็นทีวีสะท้อนการสื่อสารการเติบโตของประเทศอาเซียน ทั้งนี้เพื่อนำพาอสมทเติบโตไปตามสภาพความเป็นจริงของประเทศ”
ยันใครคุมอสมท ก็ไม่สะดุด
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ถึงแม้ตำแหน่งประธานบอร์ดอสมท จะเปลี่ยนไปตามวาระของรัฐบาลแต่ละสมัย แต่อสมทจะต้องเติบโตโดยไม่สะดุด เพราะประธานบอร์ดที่มานั่งตำแหน่งนี้ จะยังคงดำเนินงานตามภารกิจทางกฎหมาย 3 ข้อหลัก คือ 1.ทำงานสนองต่อผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ รัฐวิสากิจ คือ กระทรวงการคลัง 2.เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องมีการแข่งขันทางการตลาด เพื่อให้เกิดกำไรปันผลแก่ผู้ถือหุ้น และ3.การทำงานที่ถูกล้อมกรอบโดย พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่ โดยอสมทจะต้องตอบสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น พร้อมนำพาบุคลากรทุกภาคส่วนไปสู่การทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสุธรรม เคยทำหน้าที่ประสานงานระหว่างรัฐบาลกับอสมทมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
บอร์ดไฟเขียง “เขมทัตต์”ลาออก
อย่างไรก็ตาม กรณีนายเขมทัตต์ พลเดช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายขายและการตลาด ที่ได้ยื่นหนังสือลาออก หลังจากที่ถูกบอร์ดสั่งโยกย้ายให้ไปดูแลเอ็มคอท อะคาเดมี่ ไม่นานนี้ ล่าสุดในที่ประชุมบอร์ดอสมท ได้มีมติเห็นชอบให้นายเขมทัตต์ลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
โดยนายสุธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ตนเข้ามารับตำแหน่งนี้ช้าไป หลังนายเขมทัตต์ได้ตัดสินใจลาออกเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพไม่อำนวยและงานที่ได้รับมาไม่ท้าทายเท่าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวเสียดายนายเขมทัตต์ เพราะถือเป็นบุคลากรที่มีความสามารถอีกคนหนึ่งของอสมท
สำหรับนายสุธรรม แสงประทุม ในอดีตเคยเป็นผู้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 และเป็นอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 คนเบื้องหลังที่คอยให้คำแนะนำแก่คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เคยถูก "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ดึงตัวมาช่วยเป็นวิทยากรคู่กับ "อดิศร เพียงเกษ" แกนนำคนเสื้อแดง บนเวที "ประชาเสวนา" สร้างความปรองดอง+การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพ