สุดเหิม!ห้ามจุดพลุวันพ่อสำนักพระราชวังยันไม่ได้สั่งมหาดไทยแถแค่ขอความร่วมมือ

ASTVผู้จัดการรายวัน - รองเลขาธิการสำนักพระราชวังเผย ไม่ได้ห้ามจุดพลุ 5 ธันวาฯ ขณะที่ มหาดไทยออกลีลาพลิ้ว อ้างไม่ได้สั่ง แค่ขอความร่วมมือ ฮึ่มใส่ ผู้ว่าฯทั้งประเทศ จังหวัดไหนไม่เคลียร์ จะแจงเองรายตัว ขณะที่ ราชพฤกษ์เชียงใหม่ เดินหน้าจุดพลุเฉลิมพระเกียรติในหลวง ไม่สนคำสั่ง มท. "นายกฯปู" นำครม.-ขรก. ถวายสัตย์ฯ 5 ธ.ค. พร้อมมุ่งมั่นทำงานด้วยความสุจริต แก้ปัญหาประเทศชาติ เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ด้านบช.น. คาดมีประชาชนร่วมถวายพระพร และชื่นชมพระบารมีแค่ 2 แสน

จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือที่ มท ๐๒๐๑.๓/ว ๕๐๒๗ ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่อง การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 โดยเนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา กำหนดให้ทุกจังหวัดดำเนินการเหมือนกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดงานส่วนกลางที่กรุงเทพฯ

ในข้อ 3 มีการระบุว่า พิธีลงนามถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พิธีถวายพระพรชัยมงคลของศาสนาต่างๆ พิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มทอง-พุ่มเงิน) และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยให้งดการจุดพลุ จังหวัดสามารถรับชมสัญญาณการถ่ายทอดสดจากส่วนกลาง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ในส่วนกลางกำหนดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลในวันพุธที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 18.19 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี)

กรณีดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยทั่วประเทศอย่างกว้างขวาง และรุนแรง เพราะ 5 ธันวาคมทุกปี วันเฉลิมพระชนมพรรษาคนไทยทั่วประเทศต่างมีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุกจังหวัดต่างก็มีกิจกรรมร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อสังคมไทยอย่างลึกซึ้งและยาวนาน

**สำนักพระราชวังไม่ได้ห้ามจุดพลุ

นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางสำนักพระราชวังไม่ได้ห้าม และเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับพระราชวังเลย ต้องไปถามกระทรวงมหาดไทย ส่วนในการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2555 ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย

“ผมเป็นคนจัดงาน ผมยังจุดเองเลย ถ้าผมเป็นคนจัดเอง ผมก็จะเอาอันนี้ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในการแสดง จำได้ไหม ตอนเปิดสะพานภูมิพล เพราะเราต้องการดึงตาคน ทั้งนี้ต้องดูที่ความเหมาะสมด้วย" นายดิสธรกล่าว และว่า “หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ให้งดการจุดพลุ ไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่ได้อนุญาต เราไม่ได้ห้าม เราไม่รู้ใครห้าม แต่พื้นที่สนามหลวงไม่จุดอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่พื้นที่ต้องจุด แต่ในต่างจังหวัด อันนี้ไม่รู้"

เมื่อถามว่าทางกระทรวงมหาดไทยอ้างว่า ทางคณะกรรมการชุดใหญ่เป็นคนสั่งให้งดการจุดพลุ นายดิสธร กล่าวว่า ต้องไปถามว่ามหาดไทย คนนั้นชื่ออะไร เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นคนออกหนังสือ นายดิสธรกล่าวสวนทันทีว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เคยร่วมประชุมกับคณะกรรมการชุดนี้เลย

** รองปลัดมท. พลิ้วคำสั่งงดจุดพลุ 5 ธันวา

วานนี้ (3ธ.ค.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 2555 ว่า ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยความพร้อมในการรองรับประชาชนที่จะเข้าเฝ้าชมพระบารมี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นมีการเตรียมการเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้มั่นใจว่าประชาชนจำนวนหลายแสนคน จะมาเข้าเฝ้าฯ พร้อมกันตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า เรื่อยไปจนถึงถนนราชดำเนินกลางแน่นอน และจะเป็นภาพประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่ประชาชนในประเทศที่จะได้ชื่นชมพระบารมีเท่านั้นจะมีการถ่ายทอดผ่านทีวีพูล ทีวีโกลบอล เน็ตเวิร์กและ ทีวีดาวเทียมต่างๆ เชื่อว่าประชาชนทั่วโลกจะได้ชื่นชมพระบารมีฯด้วย

ด้านนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการให้ความสะดวกประชาชนได้จัดให้มีจอภาพขนาดใหญ่แสดงให้ประชาชนเห็นอย่างใกล้ชิดกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง ยาวตลอดแนวลานพระบรมรูปทรงม้า ตลอดแนวถนนราชดำเนิน เลยสะพานมัฆวานรังสรรค์ และเลยสะพาน ผ่านฟ้าลีลาศ ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่รองรับ ส่วนการบริการธงรัฐบาลได้เตรียมไว้ให้ประชาชนจำนวน 5 แสนธง และตนยืนยันว่า เพียงพอสำหรับประชาชนอย่างแน่นอน ส่วนการบริการในเรื่องน้ำดื่ม และแพทย์ ได้มีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

"การเดินทางได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงคมนาคม ช่วยดูแลในเรื่องยานพาหนะ เส้นทางการจราจร ผมได้รับทราบว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว และพร้อมดำเนินการในเช้าวันที่ 5 ธ.ค.ทันที เชื่อว่าในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จะมีประชาชนมาพักค้างคืน เพื่อชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันจำนวนมาก " นายธงทอง กล่าว

นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง กล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ ได้มีการถ่ายทอดสดตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราช ไปจนถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม คาดหวังว่าประชาชนจะได้รับภาพประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งในการเสด็จออกสีหบัญชรครั้งนี้ ทางรัฐบาลได้จัดอย่างยิ่งใหญาสมกับที่ท่านมีความตั้งพระทัยที่จะให้ประชาชนมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่าน เพราะปีที่แล้วนั้นประชาชนแทบจะไม่ได้เห็นเลย

เมื่อถามว่า ปีนี้จะมีการแสดงจุดพลุ ที่สนามหลวงอีกหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ปีนี้จะไม่มีการจุดพลุที่ท้องสนามหลวง แต่จะมีการประดับไฟ และการถวายพระพร เท่านั้น

เมื่อถามว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ในงดการจุดพลุ ในขณะที่ทุกจังหวัดได้เตรียมการจุดพลุไว้หมดแล้ว ถ้าหากทางจังหวัดแต่ละจังหวัดจุดพลุ จะถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งหรือไม่ นายธงทอง กล่าว ว่าในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ในหลายๆวาระที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่หลายท่านได้เสนอข้อพิจารณา ฝากถึงผู้จัดงานว่า ให้ช่วยดู ความเหมาะสม ความประหยัด ความพอดีต่างๆ เหล่านี้ และในช่วงหลังที่ได้จัดงาน มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เป็นผู้จัดอยู่ประจำที่บริเวณท้องสนามหลวง ได้พิจารณาแล้ว และเกิดความคิดว่าน่าจะเหมาะสมกว่าในการเฉลิมฉลอง ในการจัดลักษณะไฟประทีปต่างๆ และก็ไม่ใช้การจุดพลุ เขาเรียกไฟราวที่เป็นอักษรย่อพระปรมาภิไธย หรือข้อความถวายพระพรชัยมงคล ตามที่เคยปฏิบัติมาเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็จะปฎิบัติเช่นนั้น เชื่อว่ากระทรวงมหาดไทย ได้ยึดแนวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ปฏิบัติเดียวกัน

ด้านนายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการซักซ้อมกันมาเป็นระยะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหา ทุกจังหวัดมีบวชเฉลิมพระเกียรติ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ถือเป็นวันมงคล คงไม่มีปัญหาอะไร

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวย้ำว่า ได้มีการเชิญชวนประชาชนทุกจังหวัดในประเทศไทยให้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร สวดมนต์ เจริญภาวนา ปฏิบัติธรรม ถ้าเดินทางมากรุงเทพไม่ได้ ก็เปิดทีวีดูและร่วมชื่นชมพระบารมีร่วมกัน ช่วงค่ำมีการจุดเทียนชัยทุกจังหวัด สำนักพุทธฯ กับมหาเถรสมาคม เชิญชวนวัดทั่วประเทศร่วมสวดมนต์บำเพ็ญภาวนาเป็นพระราชกุศลแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างนี้ได้เชิญชวนอย่างทั่วถึง และเชื่อว่าประชานจะมาร่วมอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ถ้าแต่ละจังหวัดหรือท้องถิ่น มีการจุดพลุตามที่ได้วางงานเอาไว้ ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ใช่หรือไม่ นายจรินทร์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เราทำความเข้าใจกันมาเป็นระยะๆ ตั้งแต่ต้นปีพุทธชยันตี 2600 ปี และถือเป็นวันมงคล 80 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนีนาถ และ 60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ เราขอความร่วมมือกันมาเป็นระยะๆ ที่ผ่านมา ลอยกระทง ก็เรียบร้อยดีทุกประการ ทุกจังหวัด ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า ขอทราบเหตุผลการงดจุดพลุเฉลิมฉลองฯ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เราคุยกันเรื่องอื่นดีมั้ย เมื่อถามต่อว่า ทางจังหวัดยืนยันว่า จะจุดพลุ เฉลิมฉลองแน่นอน เพราะต้องการเทิดทูนพ่อของแผ่นดิน

นายจักรินทร์ กล่าวว่า ขออนุญาต ว่า ในฐานะรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้สั่ง เป็นลักษณะการขอความร่วมมือ ถ้ายังมีข้อสงสัย จังหวัดไหน ระบุมาได้เลย เดี๋ยวผมจะมาทำความเข้าใจ คิดว่าปัญหานี้จะหมดไป

**ราชพฤกษ์เชียงใหม่ยันจุดพลุเฉลิมพระเกียรติ

ด้านอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ได้ออกข่าวเชิญนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติ “5 ธันวามหาราช ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์” และร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมชมพลุเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 9 ชุด ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าหอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์

นอกจากนี้ อุทยานหลวงฯ ยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับวันพ่อปีนี้ นักท่องเที่ยวที่พาพ่อมาเที่ยวงานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2555 ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อบัตรเข้าชมราคาพิเศษ “คู่พ่อลูก 25 บาท” โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวจากโครงการหลวงที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้นำมาตกแต่งทั่วสวน พร้อมชมขบวนอิเล็กทริกพาเหรด และถ่ายภาพร่วมกับมาสคอต อุทยานหลวงราชพฤกษ์ด้วย

ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5311-4110-5 หรือทางเว็บไซต์ www.royalparkrajapruek.org

**คนหนองคายจวก มท.ห้ามจุดพลุวันเฉลิม

กระแสการรับรู้คำสั่งงดจุดพลุในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีถึงจังหวัดทุกจังหวัด ที่หนองคายหลังจากทราบข่าวนี้ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความตื้นเขินทางปัญญา ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไรไม่ให้จุดพลุ ในวันสำคัญที่คนไทยจะได้เฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันไปแล้ว ที่ประชาชนแต่ละจังหวัดจะได้เห็นพลุมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ต้องมีการจุดพลุในทุกวันที่ 5 ธันวาคม และ 12 สิงหาคม

ขณะที่ร้านค้าที่รับจุดพลุที่เคยได้จุดพลุเฉลิมฉลองทุกปี กล่าวว่า งงมากกับข่าวที่ออกมา เพราะเพิ่งเซ็นสัญญาว่าจ้างให้จุดพลุในวันที่ 5 ธ.ค.55 เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่ามีคำสั่งให้งดการจุดพลุ และได้สอบถามไปยังหน่วยงานที่ว่าจ้าง ก็บอกว่าไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากจังหวัดหนองคายว่าให้งดจุดพลุแต่อย่างใด จึงไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร จะให้จุดหรือไม่ให้จุด ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาในวันที่ 12 ส.ค.และ 5 ธ.ค. จะมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ม่านน้ำตก และไฟอักษร เป็นชุดรวม 80 นัด ไว้จุดเฉลิมฉลองให้ชาวหนองคายได้ชมและร่วมกันเฉลิมฉลองไปพร้อมกัน

รายงานว่า จังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1 (สพป.นค.1) จัดมหกรรมภาพยนตร์พระเกียรติ 5 ธันวามหาราช จัดฉายภาพยนตร์กลางแปลง 5 จอยักษ์ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย แทนการจุดพลุเฉลิมฉลองฯ

**คนอุบลฯ ไม่เห็นด้วยห้ามจุดพลุฉลองวันพ่อ

นายสุวรรณ คำเมืองสุข ชาวบ้านในเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งไม่ให้จังหวัดต่างๆ จุดพลุเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราชว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะประชาชนต่างจังหวัดจะมีโอกาสได้ชมการจุดพลุสวยงาม ก็มีแต่ในงานเฉลิมฉลองวันพ่อทุกปี จนเป็นเหมือนงานประเพณีที่ต่างเฝ้ารอคอยกันไปแล้ว แต่หากมีคำสั่งห้าม ทำให้ประชาชนและลูกหลานอดชม จึงไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว

ส่วนการห้ามจุดพลุฉลองวันพ่อในปีนี้จะมีจุดประสงค์อื่นใดตนไม่ทราบ แต่ทุกวันนี้แม้งานรื่นเริง งานแต่งงานของคนมีอันจะกินก็มีการจุดพลุฉลองกันทั้งนั้น เพราะพลุแทนความหมายของความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ จึงไม่ทราบทำไมกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งห้าม ทั้งที่เป็นเรื่องดีและเป็นความสุขของประชาชนในรอบปีมีไม่กี่ครั้ง

**นครแหลมฉบังจำใจรับนโยบาย

นายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ห้ามจุดพลุวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 นี้ ซึ่งเรื่องนี้ทุกพื้นที่เพิ่งรับทราบเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่มีปัญหา หรือผลกระทบอะไรมาก

ในความเป็นจริง ทุกพื้นที่ ทุกเทศบาลจะมีการตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้าในการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เมื่อมีการสั่งห้ามจุดพลุ ดังนั้น งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างพลุก็ต้องงดไป โดยอาจจะหาสิ่งใดมาทดแทนพลุในช่วงเทศกาลดังกล่าวแทน

นายภูษิต กล่าวต่อไปว่า การสั่งในครั้งนี้เป็นนโยบายจากส่วนกลาง ซึ่งมีคำสั่งมาก็ต้องถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเทศบาลนครแหลมฉบังยังโชคดียังไม่ได้เซ็นสัญญากับเอกชนในการซื้อพลุมาจุดภายในงาน โดยเปลี่ยนแปลงไปเพิ่มสีสันของระบบแสงไฟแทน เพื่อให้เกิดความสวยงามเพิ่มขึ้น ส่วนพิธีการอื่นๆ เช่น พิธีถวายพระพรชัยมงคลของศาสนาต่างๆ พิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มทอง-พุ่มเงิน) และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

**โพลชี้คนตั้งใจทำดีไม่ทะเลาะกันถวายในหลวง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “คนไทย” อยากทำอะไร? ถวายในหลวงในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 2,252 คน ระหว่างวันที่ 26 พ.ย. - 3 ธ.ค.55 สรุปผลดังนี้

1.“พระราชกรณียกิจ” ของในหลวงที่คนไทยประทับใจ อันดับ 1 พระราชทานพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงให้กับปวงชนชาวไทยและทรงเป็นแบบอย่างที่ดี 36.17% อันดับ 2 เสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ทุรกันดาร ออกเยี่ยมเยียนประชาชน 27.21% อันดับ 3 การประดิษฐ์คิดค้นโครงการต่างๆ เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา ฝนหลวง เขื่อน และแก้มลิง เป็นต้น 14.57% อันดับ 4 พระราชทาน “เกษตรทฤษฎีใหม่” จัดตั้งโครงการหลวงให้กับประชาชนเพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ 11.56%
อันดับ 5 ทรงเป็น"กษัตริย์นักประดิษฐ์" พัฒนา สืบสานงานด้านศิลปะ งานช่างฝีมือ ดนตรี และกีฬา 10.49%

2. สิ่งที่คนไทยตั้งใจจะทำเป็นพิเศษ เพื่อถวาย “ในหลวง” เนื่องในวันที่ 5 ธ.ค. อันดับ 1 เป็นคนดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือสังคม มีความรักใคร่สามัคคี ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง 40.16% อันดับ 2 ทำบุญ ใส่บาตร นั่งสมาธิ สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 22.81% อันดับ 3 รักษาสิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบริเวณบ้านและชุมชน ดูแลแม่น้ำ ลำคลอง 15.69% อันดับ 4 นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักประหยัด อดออม 11.80% อันดับ 5 จุดเทียนชัย ถวายพระพร /เดิน วิ่ง เทิดพระเกียรติ 9.54%

3. “คำถวายพระพร” ที่คนไทยอยากถวายในหลวง อันดับ 1 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 46.55% อันดับ 2 ขอพระองค์ทรงมีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทรงหายจากพระอาการประชวร 26.83% อันดับ 3 ขอพระองค์ทรงมีพระเกษมสำราญและเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าของปวงชนชาวไทยตลอดไป 17.63% อันดับ 4 เรารักพระเจ้าอยู่หัว /เรารักในหลวง 8.99%

**"ยิ่งลักษณ์"นำครม.-ขรก. ถวายสัตย์ฯ

เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (3ธ.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวนำ ถวายสัตย์ปฎิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นและระดับสูง ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ และระดับผู้ทรงคุณวุฒิ และตำแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ หรือเทียบเท่า พร้อมข้าราชการทหาร ตำรวจ ยศพลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี และพลตำรวจตรี ขึ้นไป และคณะผู้บริหารของหน่วยงานของรัฐ ระดับหัวหน้าหน่วยงาน และรองหัวหน้าหน่วยงาน ที่เข้าร่วมพิธีจำนวน 1,400 คน

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวนำ ถวายสัตย์ปฎิญาณว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มาร่วมชุมนุมพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ และในสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ มีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี พร้อมทั้งถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และเป็นพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานับประการ เพื่อประโยชน์อันมหาศาลของประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ ตลอดระยะอันยาวนาน ทรงยึดมั่นในพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม สมดังพระปฐมบรมราชโองการตลอดมา

ณ มหามงคลสมัยนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เชิญชวนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจตั้งจิตพร้อมน้อมอธิฐาน ขออนุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชชานุภาพแผ่ไพศาล เป็นพระมิ่งขวัญร่มฉัตรปกเกล้าเหล่าพสกนิกรตลอดกาล ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำบรรดาข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจกล่าวถวายสัตย์ปฎิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และเป็นพลังของแผ่นดินสนองพระมหากรุณาธิคุณดังต่อไปนี้

ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอถวายสัตย์ปฎิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา และตามแนวทางในพระบรมราโชวาทต่อไป

**บช.น.คาดปชช.ชื่นชมพระบารมีแค่ 2 แสนคน

วานนี้ (3 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงข่าวการจัดงานวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วันพ่อแห่งชาติ) ในวันที่ 5 ธ.ค. 2555 ว่า ในปีนี้ จะมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ ทั้ง 3 เหล่าทัพ 12 กองพัน รวม 2,162 นาย ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาเข้าร่วมงานประมาณกว่า 2 แสนคน

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า บช.น.ได้จัดการปิดการจราจรในเส้นทางต่างๆ ซึ่งในวันที่ 4 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเสร็จสิ้นภารกิจ บริเวณแยกอู่ทองใน จนถึงลานพระราชวังดุสิต ส่วนในวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 05.00 น. จนถึงเสร็จสิ้นภารกิจ จะปิดเส้นทาง ดังนี้

1.ถนนอู่ทองใน ถึงลานพระราชวังดุสิต 2. ถนนราชดำเนินนอก จากแยกพระบรมรูปทรงม้าถึงสะพานมัฆวาน 3. ถนนศรีอยุธยา จากแยกพล 1 ถึงแยกวัดเบญจมบพิต 4. ถนนพิษณุโลก จากแยกวังแดง ถึงแยกพาณิชยการ 5. ถนนลูกหลวง จากแยกประชาเกษม ถึงแยกสะพานมัฆวาน นอกจากนี้ ได้มีการจัดที่จอดรถสำหรับประชาชนและบุคคลสำคัญอย่างละ 10 จุด