ASTVผู้จัดการรายวัน- โดนบีบหนัก “คาเธย์” ออกแถลงการณ์ปลดแอร์ โฮสเตสสาวออกจากสายการบินแล้ววานนี้ มท.3 ประกาศบุกสำนักงานใหญ่ คาเธ่ย์ จี้ให้นำตัวแอร์โฮสเตสออกมาขอโทษให้ได้ มิฉะนั้นจะรณรงค์บอยคอต ไม่ให้ประชาชนไปใช้บริการ "บุญยอด"“บุญยอด” ชี้ แอร์สาวหมิ่นอุ๊งอิ๊ง เหมือนกรณี"พรทิพย์"แกนนำแดงเพชรบุรี ขู่ "สมจิตต์"นักข่าวช่อง 7 ท้าเสื้อแดงร้องพรทิพย์ลาออกบอร์ด ทอท. หากกดดันไล่แอร์สาวออกจากสายการบิน อย่าสองมาตรฐาน แน่จริงให้อุ๊งอิ๊งฟ้องด้วยตัวเอง
จากกรณี แอร์โฮสเตสสาว ของสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิก โพสต์ข้อความ คิดอยากทำร้าย อุ๊งอิ๊ง หรือน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ลูกสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างเดินทางไปยังฮ่องกง ด้วยการราดกาแฟรดศรีษะ แต่ได้ระงับสติอารมณ์ไว้ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ และเป็นข่าวในสื่อหลายแขนง
ล่าสุดสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2555 เวลา 18.50น. ว่า สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความที่มีความละเอียดอ่อนในโซเชี่ยลมีเดียที่มีการกล่าวถึงการโพสต์ข้อความจากหนึ่งในพนักงานต้อนรับของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเร็วนี้ๆ
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหนึ่งในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเราซึ่งได้โพสต์ข้อมูลของผู้โดยสารท่านหนึ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย โดยเป็นเหตุการณ์ที่พนักงานท่านนั้นกระทำไปโดยมิได้รับความยินยอม ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิคขอเรียนให้ทราบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินท่านนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะของพนักงานของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค อีกต่อไป"
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งการให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานสูงสุด การกระทำที่นอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ โดยในวันนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่ง"
“ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังคงพยายามติดต่อผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“คาเธ่ย์ แปซิฟิค รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยและสายการบินยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการผู้โดยสารของเรา”
***มท.3 จี้บอยคอตคาเธย์
นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำชมรมไทยเดินทาง ได้นำสมาชิกชมรมประมาณ 50 คน เดินทางไปยื่นหนังสือทักท้วง ทวงถามความคืบหน้ากรณีลงโทษพนักงานต้อนรับคนดังกล่าว ต่อผู้บริหารสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่สำนักงานหน้าอาคารเพลินจิต ทาวเวอร์ ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โดยหนังสือซึ่งทำเป็นลักษณะจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้ผู้บริหารสายการบิน ชี้แจงข้อสอบถาม
**มท.3 ออกโรงขู่บอยคอต“คาเธ่ย์”
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 11.00 น. ตนพร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งเกือบ 300 คน ที่มีความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแอร์โฮสเตสคนหนึ่ง ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่มีความคิดจะเอากาแฟร้อนๆ สาดใส่หน้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ เพลินจิตทาวเวอร์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการกับแอร์โฮสเตส ว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้จะเรียกร้องให้แอร์โฮสเตสคนนั้นออกมาขอโทษ น.ส.แพทองธาร ขอโทษต่อสังคมด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้บริษัทออกแถลงการณ์ฝ่ายเดียว
***เทียบคดีแกนนำแดงขู่นักข่าวช่อง 7
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดคือเมื่อเขามีความรู้สึก มีความคิดแล้ว ก็ยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ ปัญหาก็ไม่ได้เกิดขึ้น และมีเพียงการระบายความคิดความรู้สึกออกมา ซึ่งถ้าไปเปรียบเทียบกับการข่มขู่คุกคามแล้วเป็นคนละเรื่อง ซึ่งตนได้เห็นว่าก็คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องเอาเป็นเอาตายแบบที่มีการพยายามทำกันอยู่ ส่วนที่จะมีการรวมตัวกดดันสายการบินดังกล่าวนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นเรื่องใหญ่โต ถึงขั้นเรียกร้องให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้ายรับผิดชอบด้วย
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การโพสต์เฟซบุ๊กของแอร์โฮสเตสสาว เป็นการแค่การคิดจะกระทำ เหมือนกรณีของ นางพรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี ที่ส่งจดหมายลูกโซ่ ข่มขู่ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 สี
ดังนั้นคนเสื้อแดงก็ควรจะเรียกร้องให้นางพรทิพย์ ปักษานนท์ ลาออกจากคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นสองมาตรฐาน ส่วนในทางคดีหาก น.ส.แพทองธาร ต้องการฟ้องแอร์โฮสเตสสาว ก็ควรฟ้องด้วยตัวเอง เหมือนกรณีของผู้สื่อข่าวช่อง 7 สี ที่อัยการไม่ส่งฟ้อง จนต้องดำเนินการฟ้องร้องด้วยตนเอง
***คุก 1 ปี"กี้ร์"หมิ่น"มาร์ค"ไม่รอลงอาญา
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.4177/2552 ที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 และ 332
ศาลพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 1ปี พิเคราะห์พฤติการณ์การปราศรัยของจำเลย ได้พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย กรณีจึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาใน นสพ.เดลินิวส์ และมติชน ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบคำพิพากษานายอริสมันต์ ถึงกับหน้าซีด ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมไว้ โดยทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ซึ่งต่อมาศาลได้อนุญาตให้วางเงินสด2 แสนบาท ประกันตัวออกไประหว่างอุทธรณ์คดี
จากกรณี แอร์โฮสเตสสาว ของสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิก โพสต์ข้อความ คิดอยากทำร้าย อุ๊งอิ๊ง หรือน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ลูกสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างเดินทางไปยังฮ่องกง ด้วยการราดกาแฟรดศรีษะ แต่ได้ระงับสติอารมณ์ไว้ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ และเป็นข่าวในสื่อหลายแขนง
ล่าสุดสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2555 เวลา 18.50น. ว่า สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความที่มีความละเอียดอ่อนในโซเชี่ยลมีเดียที่มีการกล่าวถึงการโพสต์ข้อความจากหนึ่งในพนักงานต้อนรับของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเร็วนี้ๆ
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหนึ่งในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเราซึ่งได้โพสต์ข้อมูลของผู้โดยสารท่านหนึ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย โดยเป็นเหตุการณ์ที่พนักงานท่านนั้นกระทำไปโดยมิได้รับความยินยอม ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิคขอเรียนให้ทราบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินท่านนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะของพนักงานของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค อีกต่อไป"
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งการให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานสูงสุด การกระทำที่นอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ โดยในวันนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่ง"
“ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังคงพยายามติดต่อผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“คาเธ่ย์ แปซิฟิค รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยและสายการบินยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการผู้โดยสารของเรา”
***มท.3 จี้บอยคอตคาเธย์
นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำชมรมไทยเดินทาง ได้นำสมาชิกชมรมประมาณ 50 คน เดินทางไปยื่นหนังสือทักท้วง ทวงถามความคืบหน้ากรณีลงโทษพนักงานต้อนรับคนดังกล่าว ต่อผู้บริหารสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่สำนักงานหน้าอาคารเพลินจิต ทาวเวอร์ ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โดยหนังสือซึ่งทำเป็นลักษณะจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้ผู้บริหารสายการบิน ชี้แจงข้อสอบถาม
**มท.3 ออกโรงขู่บอยคอต“คาเธ่ย์”
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 11.00 น. ตนพร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งเกือบ 300 คน ที่มีความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแอร์โฮสเตสคนหนึ่ง ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่มีความคิดจะเอากาแฟร้อนๆ สาดใส่หน้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ เพลินจิตทาวเวอร์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการกับแอร์โฮสเตส ว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้จะเรียกร้องให้แอร์โฮสเตสคนนั้นออกมาขอโทษ น.ส.แพทองธาร ขอโทษต่อสังคมด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้บริษัทออกแถลงการณ์ฝ่ายเดียว
***เทียบคดีแกนนำแดงขู่นักข่าวช่อง 7
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดคือเมื่อเขามีความรู้สึก มีความคิดแล้ว ก็ยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ ปัญหาก็ไม่ได้เกิดขึ้น และมีเพียงการระบายความคิดความรู้สึกออกมา ซึ่งถ้าไปเปรียบเทียบกับการข่มขู่คุกคามแล้วเป็นคนละเรื่อง ซึ่งตนได้เห็นว่าก็คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องเอาเป็นเอาตายแบบที่มีการพยายามทำกันอยู่ ส่วนที่จะมีการรวมตัวกดดันสายการบินดังกล่าวนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นเรื่องใหญ่โต ถึงขั้นเรียกร้องให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้ายรับผิดชอบด้วย
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การโพสต์เฟซบุ๊กของแอร์โฮสเตสสาว เป็นการแค่การคิดจะกระทำ เหมือนกรณีของ นางพรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี ที่ส่งจดหมายลูกโซ่ ข่มขู่ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 สี
ดังนั้นคนเสื้อแดงก็ควรจะเรียกร้องให้นางพรทิพย์ ปักษานนท์ ลาออกจากคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นสองมาตรฐาน ส่วนในทางคดีหาก น.ส.แพทองธาร ต้องการฟ้องแอร์โฮสเตสสาว ก็ควรฟ้องด้วยตัวเอง เหมือนกรณีของผู้สื่อข่าวช่อง 7 สี ที่อัยการไม่ส่งฟ้อง จนต้องดำเนินการฟ้องร้องด้วยตนเอง
***คุก 1 ปี"กี้ร์"หมิ่น"มาร์ค"ไม่รอลงอาญา
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.4177/2552 ที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 และ 332
ศาลพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 1ปี พิเคราะห์พฤติการณ์การปราศรัยของจำเลย ได้พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย กรณีจึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาใน นสพ.เดลินิวส์ และมติชน ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบคำพิพากษานายอริสมันต์ ถึงกับหน้าซีด ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมไว้ โดยทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ซึ่งต่อมาศาลได้อนุญาตให้วางเงินสด2 แสนบาท ประกันตัวออกไประหว่างอุทธรณ์คดี