เอเอฟพี/รอยเตอร์ – อุโมงค์ยาวของทางด่วนสายสำคัญในญี่ปุ่น ได้ถล่มลงมาทับรถยนต์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้และมีควันดำคลุ้งโขมงเมื่อวันอาทิตย์(2) โดยที่หน่วยกู้ภัยสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกเผาเป็นถ่านออกมาได้ 5 ศพ ขณะที่มีรายงานว่ายังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 7 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีรถอย่างน้อย 1 คันระเบิด ทำให้เกิดควันสีดำและมีกลิ่นฉุนพวยพุ่งออกมา หลังจากอุโมงค์ซาซาโกะความยาว 5 กิโลเมตร ของทางด่วนชูโอะ ในจังหวัดยามานาชิ ที่อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกราว 80 กิโลเมตร ได้เกิดพังถล่มลงมา
ชายวัย 30 ปีคนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่อุโมงค์ถล่มเพียง 50 เมตร เล่าว่า แผ่นคอนกรีตส่วนเพดานอุโมงค์ตกลงมาต่อหน้าต่อตาเขา และเขาเห็นรถคันหนึ่งที่ถูกแผ่นคอนกรีตตกใส่เกิดไฟไหม้ “ผมตกใจมากและรีบลงจากรถ เดินอยู่ชั่วโมงเต็มๆ จึงออกจากอุโมงค์ได้”
ไม่เฉพาะแค่เพียงชายผู้นี้ แต่มีผู้คนหลายสิบคนต้องทิ้งรถยนต์และวิ่งหนีออกมาตามทางออกฉุกเฉินหรือไม่ก็ปากอุโมงค์ ขณะที่หน่วยกู้ภัยสวมเครื่องช่วยหายใจพยายามฝ่าเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในระยะทางช่วง 1 ใน 3 ของอุโมงค์ โดยที่พบว่า แผ่นคอนกรีตถล่มลงมาทับรถอย่างน้อย 2 คัน
หลังจากปฏิบัติหน้าที่อยู่หลายชั่วโมง หน่วยกู้ภัยจำเป็นต้องยุติการทำงานชั่วคราวเพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินอันตราย หลังจากวิศวกรเตือนว่า โครงสร้างอุโมงค์อาจไม่มั่นคงและถล่มลงมาซ้ำ
ระหว่างการประเมินสถานการณ์นี้เองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตกลุ่มแรก 5 ศพถูกเผาเป็นถ่านในรถยนต์คันหนึ่ง ขณะที่สำนักงานจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติยืนยันว่า รถอีกคันหนึ่งก็มีไฟลุกไหม้ด้วย
กระทั่งช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หน่วยกู้ภัยจึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อีกครั้งและดับไฟได้สำเร็จในเวลา 3 ชั่วโมงนับจากเกิดเหตุ
หญิงสาววัย 28 ปีคนหนึ่งที่หนีออกมาได้เผยว่า เธอเช่ารถและนั่งมากับคนอื่นอีก 5 คนที่ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า มีคนขับรถบรรทุกอีก 1 คนที่โทรศัพท์หาเพื่อนร่วมงานจากภายในอุโมงค์
ภายหลังเกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ 2 เต็นท์ บริเวณปากทางเข้าอุโมงค์ รวมทั้งจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำจอดอยู่ใกล้ๆ เพื่อเตรียมพร้อมนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ทางด้าน เซนทรัล นิปปอน เอ็กซ์เพรสเวย์ ผู้ดำเนินการทางด่วนสายนี้ เผยว่าส่วนที่พังลงมาคือเพดานอุโมงค์ยาวประมาณ 50-60 เมตร และบริษัทกำลังสอบสวนหาสาเหตุ
อุโมงค์แห่งนี้ซึ่งตัดผ่านภูเขาหลายลูกไม่ไกลจากภูเขาฟูจิมากนัก เป็นหนึ่งในอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น โดยเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโตเกียวกับภาคกลางและตะวันตกของประเทศ
ญี่ปุ่นนั้นมีเครือข่ายทางด่วนที่ครอบคลุมกว้างขวางและมีการจัดการอย่างดี โดยมีอุโมงค์เชื่อมต่อนับพัน แต่ละแห่งมักมีความยาวหลายร้อยเมตร และแต่ละวันมียวดยานใช้เครือข่ายทางด่วนดังกล่าวนี้นับล้านๆ คัน
ชิคาโอสะ ทานิโมโตะ ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านวิศวกรรมอุโมงค์ มหาวิทยาลัยโอซากา กล่าวว่า เนื่องจากเป็นอุโมงค์เก่าจึงสามารถเข้าใจได้ว่า ส่วนเชื่อมต่อระหว่างแผ่นคอนกรีตที่เป็นเพดานอุโมงค์กับเสาค้ำยัน หรือกระทั่งตัวเสาเอง บางส่วนอาจเสื่อมสภาพ ภายหลังจากรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวและของรถที่วิ่งผ่านไปมาเป็นเวลานานปี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเคยประสบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในปี 1996 เมื่ออุโมงค์บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศ ยุบตัวลงทับรถยนต์และรถบัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีรถอย่างน้อย 1 คันระเบิด ทำให้เกิดควันสีดำและมีกลิ่นฉุนพวยพุ่งออกมา หลังจากอุโมงค์ซาซาโกะความยาว 5 กิโลเมตร ของทางด่วนชูโอะ ในจังหวัดยามานาชิ ที่อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกราว 80 กิโลเมตร ได้เกิดพังถล่มลงมา
ชายวัย 30 ปีคนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่อุโมงค์ถล่มเพียง 50 เมตร เล่าว่า แผ่นคอนกรีตส่วนเพดานอุโมงค์ตกลงมาต่อหน้าต่อตาเขา และเขาเห็นรถคันหนึ่งที่ถูกแผ่นคอนกรีตตกใส่เกิดไฟไหม้ “ผมตกใจมากและรีบลงจากรถ เดินอยู่ชั่วโมงเต็มๆ จึงออกจากอุโมงค์ได้”
ไม่เฉพาะแค่เพียงชายผู้นี้ แต่มีผู้คนหลายสิบคนต้องทิ้งรถยนต์และวิ่งหนีออกมาตามทางออกฉุกเฉินหรือไม่ก็ปากอุโมงค์ ขณะที่หน่วยกู้ภัยสวมเครื่องช่วยหายใจพยายามฝ่าเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในระยะทางช่วง 1 ใน 3 ของอุโมงค์ โดยที่พบว่า แผ่นคอนกรีตถล่มลงมาทับรถอย่างน้อย 2 คัน
หลังจากปฏิบัติหน้าที่อยู่หลายชั่วโมง หน่วยกู้ภัยจำเป็นต้องยุติการทำงานชั่วคราวเพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินอันตราย หลังจากวิศวกรเตือนว่า โครงสร้างอุโมงค์อาจไม่มั่นคงและถล่มลงมาซ้ำ
ระหว่างการประเมินสถานการณ์นี้เองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตกลุ่มแรก 5 ศพถูกเผาเป็นถ่านในรถยนต์คันหนึ่ง ขณะที่สำนักงานจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติยืนยันว่า รถอีกคันหนึ่งก็มีไฟลุกไหม้ด้วย
กระทั่งช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หน่วยกู้ภัยจึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อีกครั้งและดับไฟได้สำเร็จในเวลา 3 ชั่วโมงนับจากเกิดเหตุ
หญิงสาววัย 28 ปีคนหนึ่งที่หนีออกมาได้เผยว่า เธอเช่ารถและนั่งมากับคนอื่นอีก 5 คนที่ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า มีคนขับรถบรรทุกอีก 1 คนที่โทรศัพท์หาเพื่อนร่วมงานจากภายในอุโมงค์
ภายหลังเกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ 2 เต็นท์ บริเวณปากทางเข้าอุโมงค์ รวมทั้งจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำจอดอยู่ใกล้ๆ เพื่อเตรียมพร้อมนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ทางด้าน เซนทรัล นิปปอน เอ็กซ์เพรสเวย์ ผู้ดำเนินการทางด่วนสายนี้ เผยว่าส่วนที่พังลงมาคือเพดานอุโมงค์ยาวประมาณ 50-60 เมตร และบริษัทกำลังสอบสวนหาสาเหตุ
อุโมงค์แห่งนี้ซึ่งตัดผ่านภูเขาหลายลูกไม่ไกลจากภูเขาฟูจิมากนัก เป็นหนึ่งในอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น โดยเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโตเกียวกับภาคกลางและตะวันตกของประเทศ
ญี่ปุ่นนั้นมีเครือข่ายทางด่วนที่ครอบคลุมกว้างขวางและมีการจัดการอย่างดี โดยมีอุโมงค์เชื่อมต่อนับพัน แต่ละแห่งมักมีความยาวหลายร้อยเมตร และแต่ละวันมียวดยานใช้เครือข่ายทางด่วนดังกล่าวนี้นับล้านๆ คัน
ชิคาโอสะ ทานิโมโตะ ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านวิศวกรรมอุโมงค์ มหาวิทยาลัยโอซากา กล่าวว่า เนื่องจากเป็นอุโมงค์เก่าจึงสามารถเข้าใจได้ว่า ส่วนเชื่อมต่อระหว่างแผ่นคอนกรีตที่เป็นเพดานอุโมงค์กับเสาค้ำยัน หรือกระทั่งตัวเสาเอง บางส่วนอาจเสื่อมสภาพ ภายหลังจากรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวและของรถที่วิ่งผ่านไปมาเป็นเวลานานปี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเคยประสบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในปี 1996 เมื่ออุโมงค์บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศ ยุบตัวลงทับรถยนต์และรถบัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย