วานนี้ (29 พ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.ท ถวัล มั่งคั่ง หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา (SP 2 ) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา (SP 2 ) ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ในวงเงินงบประมาณ 5,300 ล้านบาท
นายชินวรณ์ กล่าวว่าได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งและการจัดซื้อครุภัณฑ์ในสมัยที่ตนเป็นรมว.ศึกษาธิการ มามอบให้ และขอยืนยันช่วง 1 ปีเศษที่นั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาแต่อย่างใด เพราะได้มอบอำนาจให้ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรมช.ศึกษาธิการ เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เมื่อมีเรื่องร้องเรียนการทุจริตโครงการดังกล่าว ตนไม่ได้ละเลย หรือเพิกเฉย จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษาเป็นประธานฯ เพื่อทำการตรวจข้อเท็จจริง และทราบว่ามีการส่งผลสอบเบื้องต้นไปให้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
"มีการร้องเรียนปัญหาการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ sp 2 อย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงฯ มีคำสั่งแต่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องอีกชุดหนึ่งโดยมอบหมายให้ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นเป็นประธาน แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์ยุบสภาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 อาจทำให้ผลการสอบของคณะกรรมการไม่มีความคืบหน้า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในการตรวจสอบ " นายชินวรณ์ กล่าว
ด้านพ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายชินวรณ์ และ น.ส.นริศรา เนื่องจากอำนาจในการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ส่วนข้าราชการระดับสูง 2 รายที่เกี่ยวข้อง คือ นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา และนายบำรุง อร่ามเรือง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนฯแล้ว ขณะที่ น.ส.นริศรา ได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสารหลักฐานมาในช่วงที่กำกับดูแลสคช.มามอบให้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้พนักงานสอบสวนคาดจะสามารถสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.เพื่อให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนและชี้มูลความผิดต่อไป
นายชินวรณ์ กล่าวว่าได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งและการจัดซื้อครุภัณฑ์ในสมัยที่ตนเป็นรมว.ศึกษาธิการ มามอบให้ และขอยืนยันช่วง 1 ปีเศษที่นั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาแต่อย่างใด เพราะได้มอบอำนาจให้ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรมช.ศึกษาธิการ เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เมื่อมีเรื่องร้องเรียนการทุจริตโครงการดังกล่าว ตนไม่ได้ละเลย หรือเพิกเฉย จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษาเป็นประธานฯ เพื่อทำการตรวจข้อเท็จจริง และทราบว่ามีการส่งผลสอบเบื้องต้นไปให้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
"มีการร้องเรียนปัญหาการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ sp 2 อย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงฯ มีคำสั่งแต่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องอีกชุดหนึ่งโดยมอบหมายให้ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นเป็นประธาน แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์ยุบสภาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 อาจทำให้ผลการสอบของคณะกรรมการไม่มีความคืบหน้า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในการตรวจสอบ " นายชินวรณ์ กล่าว
ด้านพ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายชินวรณ์ และ น.ส.นริศรา เนื่องจากอำนาจในการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ส่วนข้าราชการระดับสูง 2 รายที่เกี่ยวข้อง คือ นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา และนายบำรุง อร่ามเรือง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนฯแล้ว ขณะที่ น.ส.นริศรา ได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสารหลักฐานมาในช่วงที่กำกับดูแลสคช.มามอบให้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้พนักงานสอบสวนคาดจะสามารถสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.เพื่อให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนและชี้มูลความผิดต่อไป