ASTVผู้จัดการรายวัน - ภาคีต้านโกงย้ำจุดยืน แบน “สรยุทธ-ไร่ส้ม” ด้วยการขอความร่วมมือภาคธุรกิจถอนโฆษณาในรายการเล่าข่าว แนะให้ไปดูรายการ จะรู้ใครถอนแล้วบ้างแล้ว หากไม่เจอค่อยมาบอก พร้อมแนะประชาชน องค์กรสื่อจัดการกันเองอีกทาง ด้านก.ล.ต.แจงส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยงานตลาดทุนหวังสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและสร้างบรรทัดฐานธรรมาภิบาลที่ดี
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยถึงจุดยืนในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในเรื่องการไม่สนับสนุนรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลทุจริตว่า ภาคีเครือข่ายฯ ยังมีจุดยืนอยู่เช่นเดิม และมีความชัดเจนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และในกรณีของนายสุรยุทธก็ได้มีการแสดงท่าทีออกมาแล้ว ทั้งการทวงถามจุดยืนไปยังช่อง 3 ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ และเสนอให้สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ ยกเลิกการซื้อโฆษณาในรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ
“เราได้ออกมาแสดงจุดยืนไปแล้ว เพราะเรื่องของนายสรยุทธ เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และตัวนายสรยุทธเองก็เป็นคนสาธารณะ สามารถชี้นำสังคมได้ และที่ภาคีเครือข่ายฯ เข้ามา เพราะเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ และได้ให้ข้อเท็จจริง ให้คำแนะนำไปแล้ว คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตัดสินใจเอาเองว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร”
นายประมนต์กล่าวว่า สำหรับการขอความร่วมมือให้สมาชิก พิจารณาถอดโฆษณาในช่วงรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ เป็นสิทธิที่สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจในการดำเนินการ ไม่อยากพูดแทนคนอื่นว่าใครได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว แต่ยืนยันได้ว่าธุรกิจที่อยู่ในภาคีเครือข่ายฯ ไม่สนับสนุนการทุจริต
“ขอให้ไปดูรายการของเขาเอาเอง แล้วจะรู้ว่ามีใครถอนไม่ถอน ไม่ยาก ถ้าดูแล้วไม่มี ค่อยมาบอกเราดีกว่า”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักในเรื่องนี้ ในกรณีของประชาชน ต้องตัดสินใจเองว่าจะดูหรือไม่ดูรายการของนายสรยุทธ ธุรกิจที่ซื้อโฆษณากับรายการเขา ก็ต้องตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ส่วนสื่อก็มีองค์กรสื่อที่ดูแล จะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ก็เป็นสิทธิของสื่อ เพราะภาคีเครือข่ายฯ มีความเห็นในสิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อสังคมไปแล้วคนอื่นจะเห็นเหมือนภาคีเครือข่ายฯ หรือไม่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายสรยุทธได้ออกมาระบุว่า ไม่มีธุรกิจรายได้แจ้งถอนโฆษณาออกจากรายการเล่าข่าวที่ตนเองดำเนินรายการอยู่ ขณะที่มีข่าวแจ้งจากภาคีเครือข่ายฯ ว่า มี 4 บริษัทได้แก่ โตโยต้า โตชิบา เอสซีจี และไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นสมาชิกได้แสดงเจตจำนงค์ถอนโฆษณาจากรายการนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2556 แต่ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่าบริษัทเหล่านี้ได้เริ่มที่จะถอนโฆษณาแล้วตั้งแต่ขณะนี้ และกำลังมีอีกหลายๆ บริษัทที่จะถอนโฆษณาเพิ่มเติม
ก.ล.ต.ย้ำกรณี"ไร่ส้ม"เพื่อจิตสำนึก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าวถึงกรณีความคืบหน้า ก.ล.ต. ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน รวมถึงทำสำเนาเรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยขอความร่วมมือให้ท่านพิจารณาอย่างรอบคอบและใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกิจกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและเข้าเข้าทุจริตคอร์รัปชัน ว่า สิ่งที่ก.ล.ต.ได้ทำขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและให้ความสำคัญต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นและยังถือเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดทุนไทยและประเทศไทยให้เกิดความยอมรับมากขึ้น
"สิ่งที่ก.ล.ต.ได้ดำเนินการไปนั้นเพื่อเป็นการรณรงค์เชิญชวนให้สมาชิกในภาคีเครือข่ายฯทุกหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวกับตลาดทุนได้รับทราบและใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นภาระความรับผิดชอบของทุกฝ่ายส่วนบริษัทสมาชิกจะตัดสินใจเช่นไร ก.ล.ต.ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารในองค์กรนั้นว่าจะดำเนินการเช่นไร"
สำหรับบทลงโทษ บริษัทที่กระทำผิด เลขาธิการก.ล.ต. กล่าวย้ำว่า จดหมายที่่ส่งไปนั้น เป็นการณรงค์ขอความร่วมมือ ส่วนสุดท้ายถ้าเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความผิดก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดการใน
ด้านกฏหมายตามหน้าที่ของหน่วยงานนั้น และตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป โดยสิ่งสำคัญที่ก.ล.ต.ต้องการเห็นคือความร่วมมือของภาคตลาดทุนที่ใส่ใจต่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการดำเนินงานเพื่อสร้างความเชื่อต่อนักลงทุนต่างประเทศในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ให้เหตุผล ในเรื่องดังกล่าวว่าก.ล.ต.ในฐานะฝ่ายกำกับตลาดทุนที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน(CG)จนทำให้อันดับ CG ตลาดทุนไทยดีขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นในเรื่องนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่ก.ล.ต.จะละเลยไม่ได้
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยถึงจุดยืนในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในเรื่องการไม่สนับสนุนรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลทุจริตว่า ภาคีเครือข่ายฯ ยังมีจุดยืนอยู่เช่นเดิม และมีความชัดเจนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และในกรณีของนายสุรยุทธก็ได้มีการแสดงท่าทีออกมาแล้ว ทั้งการทวงถามจุดยืนไปยังช่อง 3 ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ และเสนอให้สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ ยกเลิกการซื้อโฆษณาในรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ
“เราได้ออกมาแสดงจุดยืนไปแล้ว เพราะเรื่องของนายสรยุทธ เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และตัวนายสรยุทธเองก็เป็นคนสาธารณะ สามารถชี้นำสังคมได้ และที่ภาคีเครือข่ายฯ เข้ามา เพราะเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ และได้ให้ข้อเท็จจริง ให้คำแนะนำไปแล้ว คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตัดสินใจเอาเองว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร”
นายประมนต์กล่าวว่า สำหรับการขอความร่วมมือให้สมาชิก พิจารณาถอดโฆษณาในช่วงรายการเล่าข่าวของนายสรยุทธ เป็นสิทธิที่สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจในการดำเนินการ ไม่อยากพูดแทนคนอื่นว่าใครได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว แต่ยืนยันได้ว่าธุรกิจที่อยู่ในภาคีเครือข่ายฯ ไม่สนับสนุนการทุจริต
“ขอให้ไปดูรายการของเขาเอาเอง แล้วจะรู้ว่ามีใครถอนไม่ถอน ไม่ยาก ถ้าดูแล้วไม่มี ค่อยมาบอกเราดีกว่า”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักในเรื่องนี้ ในกรณีของประชาชน ต้องตัดสินใจเองว่าจะดูหรือไม่ดูรายการของนายสรยุทธ ธุรกิจที่ซื้อโฆษณากับรายการเขา ก็ต้องตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ส่วนสื่อก็มีองค์กรสื่อที่ดูแล จะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ก็เป็นสิทธิของสื่อ เพราะภาคีเครือข่ายฯ มีความเห็นในสิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อสังคมไปแล้วคนอื่นจะเห็นเหมือนภาคีเครือข่ายฯ หรือไม่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายสรยุทธได้ออกมาระบุว่า ไม่มีธุรกิจรายได้แจ้งถอนโฆษณาออกจากรายการเล่าข่าวที่ตนเองดำเนินรายการอยู่ ขณะที่มีข่าวแจ้งจากภาคีเครือข่ายฯ ว่า มี 4 บริษัทได้แก่ โตโยต้า โตชิบา เอสซีจี และไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นสมาชิกได้แสดงเจตจำนงค์ถอนโฆษณาจากรายการนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2556 แต่ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่าบริษัทเหล่านี้ได้เริ่มที่จะถอนโฆษณาแล้วตั้งแต่ขณะนี้ และกำลังมีอีกหลายๆ บริษัทที่จะถอนโฆษณาเพิ่มเติม
ก.ล.ต.ย้ำกรณี"ไร่ส้ม"เพื่อจิตสำนึก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าวถึงกรณีความคืบหน้า ก.ล.ต. ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน รวมถึงทำสำเนาเรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยขอความร่วมมือให้ท่านพิจารณาอย่างรอบคอบและใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกิจกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและเข้าเข้าทุจริตคอร์รัปชัน ว่า สิ่งที่ก.ล.ต.ได้ทำขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและให้ความสำคัญต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นและยังถือเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดทุนไทยและประเทศไทยให้เกิดความยอมรับมากขึ้น
"สิ่งที่ก.ล.ต.ได้ดำเนินการไปนั้นเพื่อเป็นการรณรงค์เชิญชวนให้สมาชิกในภาคีเครือข่ายฯทุกหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวกับตลาดทุนได้รับทราบและใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นภาระความรับผิดชอบของทุกฝ่ายส่วนบริษัทสมาชิกจะตัดสินใจเช่นไร ก.ล.ต.ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารในองค์กรนั้นว่าจะดำเนินการเช่นไร"
สำหรับบทลงโทษ บริษัทที่กระทำผิด เลขาธิการก.ล.ต. กล่าวย้ำว่า จดหมายที่่ส่งไปนั้น เป็นการณรงค์ขอความร่วมมือ ส่วนสุดท้ายถ้าเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความผิดก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดการใน
ด้านกฏหมายตามหน้าที่ของหน่วยงานนั้น และตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป โดยสิ่งสำคัญที่ก.ล.ต.ต้องการเห็นคือความร่วมมือของภาคตลาดทุนที่ใส่ใจต่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการดำเนินงานเพื่อสร้างความเชื่อต่อนักลงทุนต่างประเทศในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ให้เหตุผล ในเรื่องดังกล่าวว่าก.ล.ต.ในฐานะฝ่ายกำกับตลาดทุนที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน(CG)จนทำให้อันดับ CG ตลาดทุนไทยดีขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นในเรื่องนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่ก.ล.ต.จะละเลยไม่ได้
