00 ยิ่งใกล้ถึงวันดีเดย์ม็อบขับไล่รัฐบาล “ปูหยาดเยิ้ม” วันที่ 24 พ.ย.มากเท่าใดจะเห็นวิชามารที่สารพัดจะนึกขึ้นมาได้จากฝ่ายเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่ปากท่องบ่นทุกลมหายใจเข้าออกว่าเป็นนักประชาธิปไตย และมาจากการก่อม็อบก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมืองเสียด้วย แต่ดันดัจริตว่านี่คือประชาธิปไตย แล้วทีคนอื่นจะใช้สิทธิ์ชุมนุมบ้างก็ดันไปแจ้งความกับตำรวจของตัวเองหาว่าเป็นกบฎเสียอีก
00 ถามว่า การชุมนุมของกลุ่มคนทนไม่ไหวในนาม “องค์การพิทักษ์สยาม” นำโดย เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะใช้เงินเท่าไหร่ กี่ล้าน กี่พันล้านมันหนักหัวใคร ถ้าไม่ใช่มาจากพวกค้ายาบ้าสนับสนุน แต่เป็นเงินของประชาชนร่วมกันลงขันบริจาค หรือมีนายทุนสนับสนุนแล้วมันจะหนักหัวใคร เพราะเขาเหลือทนกับรัฐบาลห่วยแตกนั่นแหละ แล้วถ้าถามว่าการชุมนุมของพวกผู้ก่อการร้ายที่มี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ ปลุกระดมให้ “เผาเลยพี่น้องฯ” เป็นการชุมนุมแบบไหน มีส.ส.เพื่อไทยสนับสนุน มีทักษิณ ชินวัตร ยุยงจนเกิดการเผาศาลากลาง มีคนในครอบครัวชินวัตร ซึ่งในจำนวนนั้นมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่แหละทั้งอยู่ข้างเวทีขึ้นเวทีกล่าวสนับสนุน แล้วอย่างนี้มันเป็นกบฏด้วยใช่หรือไม่ หรือว่านี่คือประชาธิปไตยแนวใหม่ของพวกไพร่ ทุด !!
00 เรื่องอื่นไม่รู้ รู้แต่ว่าในสถานการณ์คับขันแบบนี้คนที่ฉวยโอกาส “เพิ่มอำนาจ” ให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นี่แหละ เพราะล่าสุดในท่ามกลางคนที่ไม่เอาไหน มันก็ย่อมเป็นโอกาสให้พวกเขี้ยวลากดินสอดแทรกเข้ามา ได้รับแต่งตั้งเป็น “แม่งาน” เป็น “นายกฯน้อย” คุมม็อบได้แอ๊กอาร์ตโก้ไม่หยอก ไม่รู้ว่าการที่มีพริตตี้สาวสวยสองคนเข้าไปขลุกอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่ สตช.ตั้งนานสองนานเป็นการ “ฉลอง” แบบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่หรือเปล่า แต่บางครั้งคำพูดคำจาจะชี้แจงแก้ตัวอย่างไรก็ขอให้คำนึงถึงระดับสติปัญญาคนอื่นที่เขาได้ยินไว้บ้าง แต่เอาเถอะมีปากก็พูดไป ระวังให้ดีก็แล้วกันเรื่อง “เข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด” ยังเป็นสถิติที่น่าจดจำอยู่นา ทำเป็นเล่นไป
00นั่นเป็นเรื่องของ “ขี้ข้า” ที่ระยะหลังกำลังเร่งทำแต้มลบรายวัน แต่ถ้าเรื่องของ “นาย” แล้วละก็ ต้องพูดถึง “ปูหยาดเยิ้ม” เอ้ย ปู ยิ่งลักษณ์ เพราะคราวนี้ได้ “โกอินเตอร์” สมใจ เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นก็ทำให้เธอถูกจับจ้องเป็นที่รู้จัก หลังจากสร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้นำมหาอำนาจอันดับหนึ่งถึงกับตะลึงเคลิบเคลิ้ม จนสื่อทั่วโลกวิจารณ์กันขรม ไม่รู้ว่าหลังกลับไปถึงทำเนียบขาวถูกสุภาพสตรีหมายเลข 1 “มิเชล โอบามา” ศรีภริยาดึงหูยานหรือเปล่า แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับเธอ ยิ่งลักษณ์ อาจเป็นการค้นพบตัวตนแล้วก็ได้ว่า “จุดเด่น” อยู่ตรงไหน ต่อไปไม่ต้องไปสนใจเรื่องสาระการเจรจาความเมืองให้เสียเวลา เพราะถึงอย่างไรก็ต้องอ่านตามสคริปต์ที่คนอื่นเขาเขียนมาให้อยู่แล้ว อ่านไปส่งตาหวานไปขี้คร้านพวกผู้นำต่างชาติจะมือไม้สั่นตกลงยอมไปทุกเรื่อง กลายเป็น “นางพญาล่มเมือง” ก็ได้ใครจะไปรู้ เนอะ !!
00 ถามว่า การชุมนุมของกลุ่มคนทนไม่ไหวในนาม “องค์การพิทักษ์สยาม” นำโดย เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะใช้เงินเท่าไหร่ กี่ล้าน กี่พันล้านมันหนักหัวใคร ถ้าไม่ใช่มาจากพวกค้ายาบ้าสนับสนุน แต่เป็นเงินของประชาชนร่วมกันลงขันบริจาค หรือมีนายทุนสนับสนุนแล้วมันจะหนักหัวใคร เพราะเขาเหลือทนกับรัฐบาลห่วยแตกนั่นแหละ แล้วถ้าถามว่าการชุมนุมของพวกผู้ก่อการร้ายที่มี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ ปลุกระดมให้ “เผาเลยพี่น้องฯ” เป็นการชุมนุมแบบไหน มีส.ส.เพื่อไทยสนับสนุน มีทักษิณ ชินวัตร ยุยงจนเกิดการเผาศาลากลาง มีคนในครอบครัวชินวัตร ซึ่งในจำนวนนั้นมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่แหละทั้งอยู่ข้างเวทีขึ้นเวทีกล่าวสนับสนุน แล้วอย่างนี้มันเป็นกบฏด้วยใช่หรือไม่ หรือว่านี่คือประชาธิปไตยแนวใหม่ของพวกไพร่ ทุด !!
00 เรื่องอื่นไม่รู้ รู้แต่ว่าในสถานการณ์คับขันแบบนี้คนที่ฉวยโอกาส “เพิ่มอำนาจ” ให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นี่แหละ เพราะล่าสุดในท่ามกลางคนที่ไม่เอาไหน มันก็ย่อมเป็นโอกาสให้พวกเขี้ยวลากดินสอดแทรกเข้ามา ได้รับแต่งตั้งเป็น “แม่งาน” เป็น “นายกฯน้อย” คุมม็อบได้แอ๊กอาร์ตโก้ไม่หยอก ไม่รู้ว่าการที่มีพริตตี้สาวสวยสองคนเข้าไปขลุกอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่ สตช.ตั้งนานสองนานเป็นการ “ฉลอง” แบบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่หรือเปล่า แต่บางครั้งคำพูดคำจาจะชี้แจงแก้ตัวอย่างไรก็ขอให้คำนึงถึงระดับสติปัญญาคนอื่นที่เขาได้ยินไว้บ้าง แต่เอาเถอะมีปากก็พูดไป ระวังให้ดีก็แล้วกันเรื่อง “เข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด” ยังเป็นสถิติที่น่าจดจำอยู่นา ทำเป็นเล่นไป
00นั่นเป็นเรื่องของ “ขี้ข้า” ที่ระยะหลังกำลังเร่งทำแต้มลบรายวัน แต่ถ้าเรื่องของ “นาย” แล้วละก็ ต้องพูดถึง “ปูหยาดเยิ้ม” เอ้ย ปู ยิ่งลักษณ์ เพราะคราวนี้ได้ “โกอินเตอร์” สมใจ เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นก็ทำให้เธอถูกจับจ้องเป็นที่รู้จัก หลังจากสร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้นำมหาอำนาจอันดับหนึ่งถึงกับตะลึงเคลิบเคลิ้ม จนสื่อทั่วโลกวิจารณ์กันขรม ไม่รู้ว่าหลังกลับไปถึงทำเนียบขาวถูกสุภาพสตรีหมายเลข 1 “มิเชล โอบามา” ศรีภริยาดึงหูยานหรือเปล่า แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับเธอ ยิ่งลักษณ์ อาจเป็นการค้นพบตัวตนแล้วก็ได้ว่า “จุดเด่น” อยู่ตรงไหน ต่อไปไม่ต้องไปสนใจเรื่องสาระการเจรจาความเมืองให้เสียเวลา เพราะถึงอย่างไรก็ต้องอ่านตามสคริปต์ที่คนอื่นเขาเขียนมาให้อยู่แล้ว อ่านไปส่งตาหวานไปขี้คร้านพวกผู้นำต่างชาติจะมือไม้สั่นตกลงยอมไปทุกเรื่อง กลายเป็น “นางพญาล่มเมือง” ก็ได้ใครจะไปรู้ เนอะ !!
