00 จะเรียกว่า “โม้เป็นสันดาน” ก็ว่าได้สำหรับ “แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ล่าสุดโผล่มาจ้อกับสื่อเทศอย่าง “ฟอร์บ” ย้ำทำนองว่า ตัวเองนี่แหละคือทุกอย่างของ รัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประเภท “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นั่นแหละ แน่นอนว่าคนในวงการเขารู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมาโชว์พาวให้เหม็นขี้ฟัน แต่ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่า ขนาด “น้องสาว” ตัวเองที่เชิดให้มาเป็นนายกฯ อยู่นั้นก็ยังข่มไม่เว้น ยิ่งพูดก็ยิ่งแสดงให้เห็นภาพของ “หุ่นเชิด” ไร้ความหมายมากขึ้นทุกที คำยืนยันของ ยิ่งลักษณ์ ที่พร่ำพูดยืนยันว่า ตัวเองตัดสินใจคนเดียว ไม่เกี่ยวกับคนแดนไกล ทั้งเรื่อง ครม. เรื่องกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ก็ตัดสินใจกันในเมืองไทย นี่มันอะไรกัน และที่สำคัญที่สุด ความหมายก็คือ โจรกำลังชี้นิ้วบัญชาการรัฐบาลอย่างนั้นหรือ
00 อย่าลืมว่าคนอย่าง ทักษิณ เวลานี้มีสถานะเป็นนักโทษที่หลบหนีมหมายจับ หนีคุก ใครจะเคารพบูชาดุจบิดาก็ทำไป แต่ต้องทำกันอย่างลับๆ จะเปิดเผยไม่ได้ ตราบใดที่บ้านเมืองยังมีขื่อแป จะมาอ้างมั่วๆ ว่าตัวเองถูกแกล้งไม่ได้เป็นอันขาด เพราะถ้าไปถามพวกนักโทษที่ถูกขังในคุก แน่นอนว่าคำตอบที่ได้ยินเกือบทั้งร้อยก็ต้องบอกแบบเดียวกันคือ “เขาหาว่า หรือ ผมถูกแกล้ง” ไม่ต่างกัน ละต้องไม่ลืมว่าเวลานี้ “ไม่ใช่รัฐไทยใหม่” ต้องเคารพกม. ที่บังคับใช้ในปัจจุบันเท่านั้น
00 ได้เห็นท่าทางของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ฮึดฮัด หลังจาก “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ต้องวืดเก้าอี้ รมต. แล้วรู้สึกทุเรศขัดหูขัดตาครามครัน เพราะไม่รู้จะเอาแบบไหนกันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าสาเหตุที่ไม่ได้เป็นก็ล้วนมาจาก แม้วกับปู เท่านั้น ถ้าไม่พอใจก็ไปชี้หน้าด่าซึ่งหน้าซี นี่อะไรก็ไม่รู้ โกรธแต่ไปด่าใครก็ไม่รู้ พูดจาวกไปวนมา สุดท้ายก็บอกว่าจะรับใช้ ทักษิณ และสนับสนุนปูต่อไป ทุด !!
00 เขารู้กันมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอให้ “จ่าประสิทธิ์” อะไรนั้น ออกมาบอกว่าถ้าคิดจะตีจากแม้วออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ตายแล้ว ดังนั้นที่เป็นได้ และเป็นจริงก็คือ “เป็นทาสรับใช้” ต่อไป แต่ถ้าหากใจถึงก็ปลดโซ่ตรวนออกมา ไม่ต้องทำเป็นพูดจาโยกโย้ ยกขบวนไปถามถึงพม่าในวันที่ ทักษิณ จะบินมาโปรดหรอก เพราะนึกภาพออกล่วงหน้า หลังกลับออกมาว่า “เข้าใจดีแล้ว คนเสื้อแดงจะสนับสนุนต่อไป” เป็นแบบนี้จริงๆ ไม่เชื่อคอยดูไปเถอะ เพราะนี่คือละครตบตาคนเสื้อแดงเท่านั้น
00 แน่นอนว่า สำหรับคนที่ “เขี้ยวโง้ง” อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย่อมรู้จักหลบหลีก “งานหิน” และอย่าได้แปลกใจที่คนอย่างเขาไม่ยอมรับงาน “ไฟใต้” มาดูแล เพราะรู้อยู่แล้วว่า “มันไม่ได้แต้มการเมือง” และที่สำคัญ ไม่อาจโชว์ออฟ เหมือนกับงานปราบยาบ้า ที่สามารถตั้งโต๊ะแถลงข่าว แย่งซีนสีกากีได้ตลอดเวลา รู้อยู่แล้วว่าในชายแดนใต้เป็น “เขตทหารห้ามเข้า” ถึงโยนให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดูแล แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าใคร ไม่ว่า เหลิม หรือ สุกำพล มาดูแลสถานการณ์ชายแดนใต้ ถือว่าเป็น “ข่าวร้าย” ทั้งคู่ และอาจถึงคราวที่ทุกอย่างเริ่มดำดิ่ง ไร้อนาคตเข้าไปทุกทีแล้ว เวรกรรม !!
00 หากจะพูดว่าเป็นการ “เรียกแขก” ก็เป็นได้ สำหรับตำรวจกองปราบฯ ที่ออกหมายเรียกให้ ทั้ง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม ไปรับทราบ “ข้อหากบฎ” ในวันที่ 7 พ.ย. แน่นอนว่าในวงการย่อมรู้ดีว่า นี่คือชั้นเชิงทางกม.ที่ฝ่ายการเมืองใช้กลไกรัฐเป็นเครื่องมากำหราบฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เคลื่อนไหวโดยสะดวก และอย่าได้แปลกใจเมื่อการชุมนุมของ “เสธ.อ้าย” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นเต้นได้พอสมควร และยังขู่ชุมนุมอีกรอบในราวปลายเดือนนี้อีก มันก็ต้องหาทางเตะตัดขาเอาไว้ก่อน แต่สำหรับรายของ สนธิ นั้นถือว่า “เป็นขาประจำ” ที่ต้องใช้ “บ่วงคล้องคอ” เอาไว้ก่อน และเหมือนกับแกล้งให้เจ็บปวด เพราะวันที่ 7 พ.ย.นั้น บังเอิญตรงกัน “วันเกิด” ของ สนธิ พอดี ไม่รู้ว่างานนี้เป็นการเรียกแขกเข้าร่วมม็อบปลายเดือน พ.ย. ด้วยความตั้งใจหรือเปล่า ทราบแล้วเปลี่ยน !!
00 อย่าลืมว่าคนอย่าง ทักษิณ เวลานี้มีสถานะเป็นนักโทษที่หลบหนีมหมายจับ หนีคุก ใครจะเคารพบูชาดุจบิดาก็ทำไป แต่ต้องทำกันอย่างลับๆ จะเปิดเผยไม่ได้ ตราบใดที่บ้านเมืองยังมีขื่อแป จะมาอ้างมั่วๆ ว่าตัวเองถูกแกล้งไม่ได้เป็นอันขาด เพราะถ้าไปถามพวกนักโทษที่ถูกขังในคุก แน่นอนว่าคำตอบที่ได้ยินเกือบทั้งร้อยก็ต้องบอกแบบเดียวกันคือ “เขาหาว่า หรือ ผมถูกแกล้ง” ไม่ต่างกัน ละต้องไม่ลืมว่าเวลานี้ “ไม่ใช่รัฐไทยใหม่” ต้องเคารพกม. ที่บังคับใช้ในปัจจุบันเท่านั้น
00 ได้เห็นท่าทางของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ฮึดฮัด หลังจาก “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ต้องวืดเก้าอี้ รมต. แล้วรู้สึกทุเรศขัดหูขัดตาครามครัน เพราะไม่รู้จะเอาแบบไหนกันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าสาเหตุที่ไม่ได้เป็นก็ล้วนมาจาก แม้วกับปู เท่านั้น ถ้าไม่พอใจก็ไปชี้หน้าด่าซึ่งหน้าซี นี่อะไรก็ไม่รู้ โกรธแต่ไปด่าใครก็ไม่รู้ พูดจาวกไปวนมา สุดท้ายก็บอกว่าจะรับใช้ ทักษิณ และสนับสนุนปูต่อไป ทุด !!
00 เขารู้กันมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอให้ “จ่าประสิทธิ์” อะไรนั้น ออกมาบอกว่าถ้าคิดจะตีจากแม้วออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ตายแล้ว ดังนั้นที่เป็นได้ และเป็นจริงก็คือ “เป็นทาสรับใช้” ต่อไป แต่ถ้าหากใจถึงก็ปลดโซ่ตรวนออกมา ไม่ต้องทำเป็นพูดจาโยกโย้ ยกขบวนไปถามถึงพม่าในวันที่ ทักษิณ จะบินมาโปรดหรอก เพราะนึกภาพออกล่วงหน้า หลังกลับออกมาว่า “เข้าใจดีแล้ว คนเสื้อแดงจะสนับสนุนต่อไป” เป็นแบบนี้จริงๆ ไม่เชื่อคอยดูไปเถอะ เพราะนี่คือละครตบตาคนเสื้อแดงเท่านั้น
00 แน่นอนว่า สำหรับคนที่ “เขี้ยวโง้ง” อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย่อมรู้จักหลบหลีก “งานหิน” และอย่าได้แปลกใจที่คนอย่างเขาไม่ยอมรับงาน “ไฟใต้” มาดูแล เพราะรู้อยู่แล้วว่า “มันไม่ได้แต้มการเมือง” และที่สำคัญ ไม่อาจโชว์ออฟ เหมือนกับงานปราบยาบ้า ที่สามารถตั้งโต๊ะแถลงข่าว แย่งซีนสีกากีได้ตลอดเวลา รู้อยู่แล้วว่าในชายแดนใต้เป็น “เขตทหารห้ามเข้า” ถึงโยนให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดูแล แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าใคร ไม่ว่า เหลิม หรือ สุกำพล มาดูแลสถานการณ์ชายแดนใต้ ถือว่าเป็น “ข่าวร้าย” ทั้งคู่ และอาจถึงคราวที่ทุกอย่างเริ่มดำดิ่ง ไร้อนาคตเข้าไปทุกทีแล้ว เวรกรรม !!
00 หากจะพูดว่าเป็นการ “เรียกแขก” ก็เป็นได้ สำหรับตำรวจกองปราบฯ ที่ออกหมายเรียกให้ ทั้ง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม ไปรับทราบ “ข้อหากบฎ” ในวันที่ 7 พ.ย. แน่นอนว่าในวงการย่อมรู้ดีว่า นี่คือชั้นเชิงทางกม.ที่ฝ่ายการเมืองใช้กลไกรัฐเป็นเครื่องมากำหราบฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เคลื่อนไหวโดยสะดวก และอย่าได้แปลกใจเมื่อการชุมนุมของ “เสธ.อ้าย” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นเต้นได้พอสมควร และยังขู่ชุมนุมอีกรอบในราวปลายเดือนนี้อีก มันก็ต้องหาทางเตะตัดขาเอาไว้ก่อน แต่สำหรับรายของ สนธิ นั้นถือว่า “เป็นขาประจำ” ที่ต้องใช้ “บ่วงคล้องคอ” เอาไว้ก่อน และเหมือนกับแกล้งให้เจ็บปวด เพราะวันที่ 7 พ.ย.นั้น บังเอิญตรงกัน “วันเกิด” ของ สนธิ พอดี ไม่รู้ว่างานนี้เป็นการเรียกแขกเข้าร่วมม็อบปลายเดือน พ.ย. ด้วยความตั้งใจหรือเปล่า ทราบแล้วเปลี่ยน !!