**ทุกวันนี้ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หาได้เป็นหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และไม่ได้ติดตามเป็นเสมือนเงาตามตัวของพลเอกเปรมมานานแล้ว ตั้งแต่หลัง 1 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา
เนื่องจากพล.ร.อ.พะจุณณ์ได้เกษียณอายุราชการไปแล้วตั้งแต่ 30 กันยายน 2555 โดยคนที่มาทำหน้าที่แทนคือ พล.ต.พิศณุ พุทธวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือมาตลอดว่า ระยะหลังป๋าเปรมไม่ปลื้มพล.ร.อ.พะจุณณ์ ที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ก็คงรู้ดีถึงข่าวทำนองนี้ จึงพูดดักทางไว้ตั้งแต่วันแรกๆที่เกษียณอายุหลัง 30 ก.ย.แล้วว่าการที่ไม่ได้ทำงานให้พลเอกเปรมต่อเป็นเพราะเกษียณจริงๆ ไม่มีนัยยะหรือปัญหาอะไรทั้งสิ้น
เรื่องพล.ร.อ.พะจุณณ์ ไม่ได้เป็น หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ได้ติดตามพลเอกเปรมและไม่ได้อยู่ประจำบ้านสี่เสาเทศร์เหมือนเช่นก่อนหน้านี้
**เป็นไปไม่ได้ที่ทักษิณ ชินวัตรจะไม่รู้เรื่องนี้
เนื่องจากแวดวงการเมืองการทหาร ทุกคนย่อมจับตามองทุกฝีก้าวที่พลเอกเปรมขยับเขยื้อนโดยเฉพาะทักษิณและฝ่ายเพื่อไทย-คนเสื้อแดง
**แล้วไฉน ทักษิณ จึงพยายามโยง ม็อบลานพระบรมรูปทรงม้าวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.นี้ ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามภายใต้การนำของพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์หรือเสธอ้ายว่าหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมขบวนการไปวางแผนล้มรัฐบาลด้วยคือ พล.ร.อ.พะจุณณ์
ผ่านการโฟนอินในงาน รวมพลคนรักรัฐบาลต่อต้านพวกกบฏ ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จัดที่ อบต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันอาทิตย์18 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง
“แต่อยู่ๆ จะมีคนชุดหนึ่งจะมาแช่แข็ง ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด ยังนึกไม่ออกบอกจะแช่งแข็งประเทศไทย คนเป็นๆ อยู่อย่าเพิ่งแช่ ใครตายให้บอกจะแช่แข็งให้
เสธ.อ้ายเป็นเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่บอกไม่เกี่ยวๆ ทำไมไม่ห้ามกัน บ้านเมืองกำลังไปด้วยดี ทำไมทำให้วุ่นวาย แม้อยู่ดูไบ แต่รู้หมด ในการประชุมมี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ลูกน้องป๋าไปประชุมด้วย ทำไมป๋าไม่ห้ามละ ถ้ารักบ้านเมืองจริงๆ ทำไมไม่เคารพกติกา ประชาชน ขนาดรัฐธรรมนูญที่ร่างเองยังไม่เคารพอีกหรือ มันต้องยอมรับกติกาตรงนี้ ไม่ใช่ยังไม่ครบ 4 ปี จะมาไล่รัฐบาล พวกเราทั้งเจ็บ ตาย ติดคุก ยังหยิบยื่นความปรองดองให้บ้านเมือง เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย บ้านเมืองประเทศอื่นที่อยู่ได้เพราะไม่มีอำมาตย์วุ่นวายเขาปล่อยให้เป็นตามครรลอง”
สิ่งที่ทักษิณสื่อสารกับเสื้อแดงและประชาชนทั่วไป เห็นได้ชัดว่าต้องการป้ายสีหรือกล่าวหาว่ามีขบวนการล้มล้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เป็นชื่อเดิมๆ ที่ทักษิณเคยเอ่ยไว้ช่วงก่อนหน้านี้ แต่หายไปนานร่วม 1-2 ปี
โดยเฉพาะหลังยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯและเคยยกคณะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกเปรมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์รวมถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์เชิญพลเอกเปรมมาเป็นแขกพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อชมการบรรเลงออร์เคสตร้าในงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" เมื่อวันที่ 10 ก.พ.55
ตั้งแต่หลังยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ทักษิณแทบไม่พูดถึงเรื่องอำมาตย์อะไรเลย แต่แล้วจู่ๆ กลับมาพูดในช่วงนี้
แม้พล.ร.อ.พะจุณณ์จะออกมายอมรับว่าได้ไปร่วมชุมนุมกับเสธ.อ้ายจริงที่สนามม้านางเลิ้ง เมื่อ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาแต่ก็ไม่ได้ไปร่วมวางแผนอะไรกับแกนนำองค์การพิทักษ์สยามฯ อย่างที่ทักษิณกล่าวอ้าง พร้อมกับยืนยันว่า 24 พ.ย.นี้ได้เจอตัวจริงของพล.ร.อ.พะจุณณ์ไปร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน
ดูแล้ว ก็เห็นชัดว่า ทักษิณ ยังคงมีความเชื่อเรื่องกลุ่มอำมาตย์จ้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่เช่นเดิมและต้องการถ่ายทอดความเชื่อนี้ไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงให้รู้สึกชิงชังกลุ่มอำมาตย์ตลอดไป
เพราะถ้อยคำการโฟนอินของทักษิณที่ดุดันทั้งเนื้อหาและน้ำเสียง นอกจากเปิดหน้าให้เห็นกันแล้วว่า ตัวทักษิณยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัยต่อตัว พลเอกเปรม ผ่านการเคลื่อนไหวของพล.ร.อ.พะจุณณ์ที่อยู่ร่วมม็อบเสธ.อ้ายที่จุดยืนชัดว่าคือขับไล่รัฐบาลชั่วว่า
** “ลูกน้องป๋าไปร่วมด้วย ทำไมป๋าไม่ห้าม”
เท่านี้ไม่พอ ยังคงสงสัยต่อตัวพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีจากการแต่งตั้งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ด้วยว่าเมื่อเสธ.อ้ายเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 1 กับพลเอกสุรยุทธ์แล้วทำไมพลเอกสุรยุทธ์ถึงไม่ห้ามเสธ.อ้าย
**ใครก็รู้ว่า เสธ.อ้ายกับบิ๊กแอ๊ด สนิทแนบแน่นกันขนาดไหน
เช่นเดียวกันกับไม่ต้องถามว่า แล้วป๋าเปรมกับบิ๊กแอ๊ด เคารพนับถือ เป็นพี่เป็นน้อง กันอย่างไร
ส่วนสายสัมพันธ์ของพล.ร.อ.พะจุณณ์กับป๋าเปรม ที่ทำงานใกล้ชิดกับยาวนานร่วม 31 ปี แม้มาวันนี้ พล.ร.อ.พะจุณณ์จะพ้นจากการทำหน้าที่เป็นเหมือนเงาตามตัวพลเอกเปรมแล้ว แต่มันก็ง่ายสำหรับทักษิณที่จะโยงพล.ร.อ.พะจุณณ์ไปถึงป๋าเปรม ทั้งที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ยืนกรานว่าที่เปิดตัวแบบนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพลเอกเปรมเพราะไม่ได้ทำงานกับป๋าแล้ว แต่ไปเป็นการส่วนตัว ในฐานะคนที่ห่วงใยชาติบ้านเมือง ขอเป็นทหารแก่ที่ไม่มีวันตาย
จากความเชื่อมโยงดังกล่าว จึงไม่ยากที่ ทักษิณ จะตอกย้ำเรื่องอำมาตย์ยังคงวุ่นวายกับการเมืองมาปลุกเร้าคนเสื้อแดง ที่ก็เป็นมุขเก่าๆ ที่ใช้หากินเรื่อยไป แต่หวังผลหลายต่อ
ทั้งการพยายามปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้รวมตัวกันต่อไปโดยอ้างว่ายังคงมีขบวนการล้มล้างรัฐบาลเพื่อไทย เสื้อแดงจึงต้องรวมตัวกันเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ยิ่งลักษณ์
แล้วก็หวังผลไปถึงการเตือนฝ่ายตรงข้ามว่ายังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวอยู่ อย่างเรื่องพล.ร.อ.พะจุณณ์หากทักษิณไม่ออกมาพูด ก็คงไม่มีใครรู้ จนพล.ร.อ.พระจุณณ์ต้องออกมายอมรับเองว่าได้ไปร่วมชุมนุมกับม็อบเสธ.อ้ายที่สนามม้านางเลิ้งจริงเมื่อ 28 ต.ค.
ทั้งที่ผ่านมาจะเป็นเดือนแล้วแต่กลับไม่เคยมีข่าวนี้ปรากฎออกมาก่อน แสดงให้เห็นว่าการข่าวของทักษิณเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มแบบใกล้ชิดเป็นพิเศษ
สิ่งที่ทักษิณสื่อผ่านมาครั้งนี้ เปลือยตัวทักษิณได้ชัดว่า เขาจับจ้องใครเป็นพิเศษว่าจะมาล้มรัฐบาลเพื่อไทย จนถึงกับต้องจับคนโน้นโยงคนนี้ ตั้งข้อสงสัยคนบางกลุ่ม มั่วกันไปหมด
**จนอาจกลายเป็นการปลุกทหารแก่ ที่ก่อนหน้านี้กำลังเป็นเสือหลับ ให้ตื่นขึ้นและรอวันออกจากถ้ำ
เนื่องจากพล.ร.อ.พะจุณณ์ได้เกษียณอายุราชการไปแล้วตั้งแต่ 30 กันยายน 2555 โดยคนที่มาทำหน้าที่แทนคือ พล.ต.พิศณุ พุทธวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือมาตลอดว่า ระยะหลังป๋าเปรมไม่ปลื้มพล.ร.อ.พะจุณณ์ ที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ก็คงรู้ดีถึงข่าวทำนองนี้ จึงพูดดักทางไว้ตั้งแต่วันแรกๆที่เกษียณอายุหลัง 30 ก.ย.แล้วว่าการที่ไม่ได้ทำงานให้พลเอกเปรมต่อเป็นเพราะเกษียณจริงๆ ไม่มีนัยยะหรือปัญหาอะไรทั้งสิ้น
เรื่องพล.ร.อ.พะจุณณ์ ไม่ได้เป็น หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ได้ติดตามพลเอกเปรมและไม่ได้อยู่ประจำบ้านสี่เสาเทศร์เหมือนเช่นก่อนหน้านี้
**เป็นไปไม่ได้ที่ทักษิณ ชินวัตรจะไม่รู้เรื่องนี้
เนื่องจากแวดวงการเมืองการทหาร ทุกคนย่อมจับตามองทุกฝีก้าวที่พลเอกเปรมขยับเขยื้อนโดยเฉพาะทักษิณและฝ่ายเพื่อไทย-คนเสื้อแดง
**แล้วไฉน ทักษิณ จึงพยายามโยง ม็อบลานพระบรมรูปทรงม้าวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.นี้ ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามภายใต้การนำของพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์หรือเสธอ้ายว่าหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมขบวนการไปวางแผนล้มรัฐบาลด้วยคือ พล.ร.อ.พะจุณณ์
ผ่านการโฟนอินในงาน รวมพลคนรักรัฐบาลต่อต้านพวกกบฏ ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จัดที่ อบต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันอาทิตย์18 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง
“แต่อยู่ๆ จะมีคนชุดหนึ่งจะมาแช่แข็ง ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด ยังนึกไม่ออกบอกจะแช่งแข็งประเทศไทย คนเป็นๆ อยู่อย่าเพิ่งแช่ ใครตายให้บอกจะแช่แข็งให้
เสธ.อ้ายเป็นเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่บอกไม่เกี่ยวๆ ทำไมไม่ห้ามกัน บ้านเมืองกำลังไปด้วยดี ทำไมทำให้วุ่นวาย แม้อยู่ดูไบ แต่รู้หมด ในการประชุมมี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ลูกน้องป๋าไปประชุมด้วย ทำไมป๋าไม่ห้ามละ ถ้ารักบ้านเมืองจริงๆ ทำไมไม่เคารพกติกา ประชาชน ขนาดรัฐธรรมนูญที่ร่างเองยังไม่เคารพอีกหรือ มันต้องยอมรับกติกาตรงนี้ ไม่ใช่ยังไม่ครบ 4 ปี จะมาไล่รัฐบาล พวกเราทั้งเจ็บ ตาย ติดคุก ยังหยิบยื่นความปรองดองให้บ้านเมือง เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย บ้านเมืองประเทศอื่นที่อยู่ได้เพราะไม่มีอำมาตย์วุ่นวายเขาปล่อยให้เป็นตามครรลอง”
สิ่งที่ทักษิณสื่อสารกับเสื้อแดงและประชาชนทั่วไป เห็นได้ชัดว่าต้องการป้ายสีหรือกล่าวหาว่ามีขบวนการล้มล้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เป็นชื่อเดิมๆ ที่ทักษิณเคยเอ่ยไว้ช่วงก่อนหน้านี้ แต่หายไปนานร่วม 1-2 ปี
โดยเฉพาะหลังยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯและเคยยกคณะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกเปรมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์รวมถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์เชิญพลเอกเปรมมาเป็นแขกพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อชมการบรรเลงออร์เคสตร้าในงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" เมื่อวันที่ 10 ก.พ.55
ตั้งแต่หลังยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ทักษิณแทบไม่พูดถึงเรื่องอำมาตย์อะไรเลย แต่แล้วจู่ๆ กลับมาพูดในช่วงนี้
แม้พล.ร.อ.พะจุณณ์จะออกมายอมรับว่าได้ไปร่วมชุมนุมกับเสธ.อ้ายจริงที่สนามม้านางเลิ้ง เมื่อ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาแต่ก็ไม่ได้ไปร่วมวางแผนอะไรกับแกนนำองค์การพิทักษ์สยามฯ อย่างที่ทักษิณกล่าวอ้าง พร้อมกับยืนยันว่า 24 พ.ย.นี้ได้เจอตัวจริงของพล.ร.อ.พะจุณณ์ไปร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน
ดูแล้ว ก็เห็นชัดว่า ทักษิณ ยังคงมีความเชื่อเรื่องกลุ่มอำมาตย์จ้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่เช่นเดิมและต้องการถ่ายทอดความเชื่อนี้ไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงให้รู้สึกชิงชังกลุ่มอำมาตย์ตลอดไป
เพราะถ้อยคำการโฟนอินของทักษิณที่ดุดันทั้งเนื้อหาและน้ำเสียง นอกจากเปิดหน้าให้เห็นกันแล้วว่า ตัวทักษิณยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัยต่อตัว พลเอกเปรม ผ่านการเคลื่อนไหวของพล.ร.อ.พะจุณณ์ที่อยู่ร่วมม็อบเสธ.อ้ายที่จุดยืนชัดว่าคือขับไล่รัฐบาลชั่วว่า
** “ลูกน้องป๋าไปร่วมด้วย ทำไมป๋าไม่ห้าม”
เท่านี้ไม่พอ ยังคงสงสัยต่อตัวพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีจากการแต่งตั้งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ด้วยว่าเมื่อเสธ.อ้ายเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 1 กับพลเอกสุรยุทธ์แล้วทำไมพลเอกสุรยุทธ์ถึงไม่ห้ามเสธ.อ้าย
**ใครก็รู้ว่า เสธ.อ้ายกับบิ๊กแอ๊ด สนิทแนบแน่นกันขนาดไหน
เช่นเดียวกันกับไม่ต้องถามว่า แล้วป๋าเปรมกับบิ๊กแอ๊ด เคารพนับถือ เป็นพี่เป็นน้อง กันอย่างไร
ส่วนสายสัมพันธ์ของพล.ร.อ.พะจุณณ์กับป๋าเปรม ที่ทำงานใกล้ชิดกับยาวนานร่วม 31 ปี แม้มาวันนี้ พล.ร.อ.พะจุณณ์จะพ้นจากการทำหน้าที่เป็นเหมือนเงาตามตัวพลเอกเปรมแล้ว แต่มันก็ง่ายสำหรับทักษิณที่จะโยงพล.ร.อ.พะจุณณ์ไปถึงป๋าเปรม ทั้งที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ยืนกรานว่าที่เปิดตัวแบบนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพลเอกเปรมเพราะไม่ได้ทำงานกับป๋าแล้ว แต่ไปเป็นการส่วนตัว ในฐานะคนที่ห่วงใยชาติบ้านเมือง ขอเป็นทหารแก่ที่ไม่มีวันตาย
จากความเชื่อมโยงดังกล่าว จึงไม่ยากที่ ทักษิณ จะตอกย้ำเรื่องอำมาตย์ยังคงวุ่นวายกับการเมืองมาปลุกเร้าคนเสื้อแดง ที่ก็เป็นมุขเก่าๆ ที่ใช้หากินเรื่อยไป แต่หวังผลหลายต่อ
ทั้งการพยายามปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้รวมตัวกันต่อไปโดยอ้างว่ายังคงมีขบวนการล้มล้างรัฐบาลเพื่อไทย เสื้อแดงจึงต้องรวมตัวกันเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ยิ่งลักษณ์
แล้วก็หวังผลไปถึงการเตือนฝ่ายตรงข้ามว่ายังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวอยู่ อย่างเรื่องพล.ร.อ.พะจุณณ์หากทักษิณไม่ออกมาพูด ก็คงไม่มีใครรู้ จนพล.ร.อ.พระจุณณ์ต้องออกมายอมรับเองว่าได้ไปร่วมชุมนุมกับม็อบเสธ.อ้ายที่สนามม้านางเลิ้งจริงเมื่อ 28 ต.ค.
ทั้งที่ผ่านมาจะเป็นเดือนแล้วแต่กลับไม่เคยมีข่าวนี้ปรากฎออกมาก่อน แสดงให้เห็นว่าการข่าวของทักษิณเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มแบบใกล้ชิดเป็นพิเศษ
สิ่งที่ทักษิณสื่อผ่านมาครั้งนี้ เปลือยตัวทักษิณได้ชัดว่า เขาจับจ้องใครเป็นพิเศษว่าจะมาล้มรัฐบาลเพื่อไทย จนถึงกับต้องจับคนโน้นโยงคนนี้ ตั้งข้อสงสัยคนบางกลุ่ม มั่วกันไปหมด
**จนอาจกลายเป็นการปลุกทหารแก่ ที่ก่อนหน้านี้กำลังเป็นเสือหลับ ให้ตื่นขึ้นและรอวันออกจากถ้ำ