วานนี้(20 พ.ย.55)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เวลานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเอกสารร้องขอความเป็นธรรมภายใน 10 วันภายหลังกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการว่า ตนไม่ไปชี้แจง เนื่องจากว่า ตนได้ทำหนังสือคัดค้านเมื่อตนได้ข่าวว่าคณะกรรมการจะไม่เปิดโอกาสให้ตนชี้แจงหลังจากที่ตนเดินทางไปประเทศฮ่องกง และมี ส.ส.ของพรรคให้สัมภาษณ์ในวันที่ 8 พ.ย.ตนได้ทำหนังสือคัดค้านเพียงแต่หนังสือยังไปไม่ถึงกระทรวงกลาโหม
ซึ่งรมว.กลาโหมก็ทราบว่า มีการทำหนังสือคัดค้าน แต่รมว.กลาโหม ก็ตัดสินใจที่จะลงนามในคำสั่งปลดตนออกจากราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ตนต้องยื่นเรื่องฟ้องไปยังศาลปกครองในวันที่ 12 พ.ย.และในวันที่ 14 พ.ย.ตนก็ไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำไมรมว.กลาโหมจึงต้องรอจนถึงวันที่ 16 พ.ย. ถึงส่งจดหมายถึงตนให้ไปชี้แจง ซึ่งมันเลยขั้นตอนดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ รมว.กลาโหมควรจะไปชี้แจงศาลปกครองกับป.ป.ช.จะดีกว่า ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) ตนจะไปชี้แจงต่อศาลปกครองด้วยตนเอง
วันเดียวกันศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ฟ้องคดี และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เข้าชี้แจงต่อองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางในคำร้องที่นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องรมว กลาโหม กรณีออกคำสั่งปลดร.ต. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการฐานใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในวันพรุ่งนี้ ( 21 พ.ย.)เวลา 13.30 น. ห้องไต่สวน 1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานศาลปกครองกลาง เนื่องจากศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ครบถ้วนในการที่จะพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
ทั้งนี้คดีดังกล่าวนายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความของนายอภิสิทธิ์ ได้เข้ายื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา และศาลได้รับคำฟ้องดังกล่าวไว้ดำเนินการเป็นคดีเลขที่ 2900/55 โดยตามคำฟ้องได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฉบับลงวันที่ 8 พ.ย. 55 ที่สั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ ซึ่งตามคำร้องไม่ได้มีคำขอให้ศาลไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือให้ศาลสั่งระงับคำสั่งปลดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน
อีกด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงผลการประชุม ป.ป.ช.ในวันนี้ (20พ.ย.) ว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ได้ตั้งอนุคณะกรรมการ ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 153 คน ยื่นถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวหาว่าพล.อ.สุกำพล ปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อจริยธรรม จงใจใช้อำนาจหน้าที่ ทีไม่สุจริตต่อหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญตามมาตรา 270 ที่สมาชิก ส.ส.เข้าชื่อผ่านประธานวุฒิสภา
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ของพล.อ.อ.สุกำพล ภายหลังที่กระทรวงกลาโหมดำเนินการถอดยศนายอภิสิทธิ์โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น นายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ช.มีมติรับคำร้องดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีมูลเพียงพอ จึงจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน เพราะยังต้องขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงกลาโหม คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ จึงสามารถสรุปได้ว่าจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงหรือไม่
ซึ่งรมว.กลาโหมก็ทราบว่า มีการทำหนังสือคัดค้าน แต่รมว.กลาโหม ก็ตัดสินใจที่จะลงนามในคำสั่งปลดตนออกจากราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ตนต้องยื่นเรื่องฟ้องไปยังศาลปกครองในวันที่ 12 พ.ย.และในวันที่ 14 พ.ย.ตนก็ไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำไมรมว.กลาโหมจึงต้องรอจนถึงวันที่ 16 พ.ย. ถึงส่งจดหมายถึงตนให้ไปชี้แจง ซึ่งมันเลยขั้นตอนดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ รมว.กลาโหมควรจะไปชี้แจงศาลปกครองกับป.ป.ช.จะดีกว่า ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) ตนจะไปชี้แจงต่อศาลปกครองด้วยตนเอง
วันเดียวกันศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ฟ้องคดี และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เข้าชี้แจงต่อองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางในคำร้องที่นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องรมว กลาโหม กรณีออกคำสั่งปลดร.ต. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการฐานใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในวันพรุ่งนี้ ( 21 พ.ย.)เวลา 13.30 น. ห้องไต่สวน 1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานศาลปกครองกลาง เนื่องจากศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ครบถ้วนในการที่จะพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
ทั้งนี้คดีดังกล่าวนายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความของนายอภิสิทธิ์ ได้เข้ายื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา และศาลได้รับคำฟ้องดังกล่าวไว้ดำเนินการเป็นคดีเลขที่ 2900/55 โดยตามคำฟ้องได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฉบับลงวันที่ 8 พ.ย. 55 ที่สั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ ซึ่งตามคำร้องไม่ได้มีคำขอให้ศาลไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือให้ศาลสั่งระงับคำสั่งปลดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน
อีกด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงผลการประชุม ป.ป.ช.ในวันนี้ (20พ.ย.) ว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ได้ตั้งอนุคณะกรรมการ ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 153 คน ยื่นถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวหาว่าพล.อ.สุกำพล ปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อจริยธรรม จงใจใช้อำนาจหน้าที่ ทีไม่สุจริตต่อหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญตามมาตรา 270 ที่สมาชิก ส.ส.เข้าชื่อผ่านประธานวุฒิสภา
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ของพล.อ.อ.สุกำพล ภายหลังที่กระทรวงกลาโหมดำเนินการถอดยศนายอภิสิทธิ์โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น นายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ช.มีมติรับคำร้องดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีมูลเพียงพอ จึงจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน เพราะยังต้องขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงกลาโหม คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ จึงสามารถสรุปได้ว่าจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงหรือไม่