พันธมิตรฯ สัญจรภูเก็ต รณรงค์ปฎิรูป ปตท. ไม่ให้มีการโกงกิน หวังน้ำมัน-แก๊สราคาถูกลง ย้ำแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ขึ้นเวทีกับ "เสธ.อ้าย" ขณะที่วงเสวนา “วิเคราะห์ วิกฤตประเทศไทย” ทั้งแกนนำพันธมิตร-นักวิชาการฉะนักการเมืองชั่วปิดประเทศ ชุมนุม 24 พ.ย.จึงเป็นการเปิดประเทศ พร้อมเสนอแก้กฎหมายทุจริตคอร์รัปชั่น ซื้อสิทธิ-ขายเสีย ย้ำต้องไม่หมดอายุความ จำคุกตลอดชีวิต
เวลา 14.00 น.วานนี้ (18 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นเวที "พลังงานและการปฎิรูปประเทศไทย ฝ่าวิกฤติประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูปพลังงาน" ซึ่งทางเครือข่ายรณรงค์ปฎิรูปประเทศไทย จ.ภูเก็ต จัดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ตว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ 19 ที่ทางพันธมิตรฯ เปิดเวทีสัญจรให้ความรู้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ สิ่งที่ต้องปฎิรูป คือ ปตท.ไม่ให้มีการโกงกินก็จะทำให้น้ำมัน และแก๊สราคาถูกลงมาก และแกนนำพันธมิตรฯ ไม่พร้อมที่จะขึ้นเวทีชุมนุมกับทาง เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ วันที่ 24 พ.ย.นี้ เพราะทางแกนนำได้กำหนดการเดินสายบรรยายให้ความรู้เรื่องการปฏิรูปแก่พี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากจัดเวทีที่ จ.ภูเก็ตแล้วก็จะไปต่อที่ จ.กาญจนบุรี และเพชรบุรี ในวันที่ 25 พ.ย.55 แต่ตอนนี้ทางพันธมิตรฯ ได้เลื่อนการจัดชุมนุมทั้ง 2 เวทีออกไปแล้ว เพื่อให้พันธมิตรฯบางคนที่ต้องการเดินทางไปร่วมชุมนุมเพื่อบ้านเมืองได้เดินทางไปร่วม
รายงานข่าวบรรยากาศการจัดเวทีดังกล่าวเป็นไปด้วยความคึกคึก นอกจากนี้ยังจัดให้มีการเสวนา "วิเคราะห์ วิกฤติประเทศไทย" ขึ้นด้วย โดยมีนายภิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรฯ ผศ.จำรูญ ณ ระนอง รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ร่วมเวทีเสวนา ซึ่งดำเนินรายการโดย นายเติมศักดิ์ จารุปราณ นักวิชาการประจำเวทีพันธมิตรฯ
นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ร่วมกันทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวทีไหนที่มีความสมบูรณ์เท่าเวทีพันธมิตรฯ และที่สำคัญเราไม่กลัวใคร นับวันมีนักการเมืองเลวเอา เลวเอา คอร์รัปชันทุกอย่าง ทั้งงบประมาณ รวมไปถึงคอร์รัปชันเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติสำคัญของประเทศคือ เรื่องของพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 ของการทุจริตคอร์ปชันที่พันธมิตรฯ เคยมีมติกันมาแล้วคือการโหวตโน ซึ่งมีบางคนที่บอกว่าการโหวตโนเป็นการเสียเปล่า ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคได้คะแนนเสียงไม่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริง เพราะเมื่อรวมคะแนนโหวตโนกับคะแนนที่พรรคบางพรรคได้แล้วยังมีคะแนนเสียที่น้อยอยู่ดี สาเหตุที่มีการโหวตโนก็เนื่องจากพรรคการเมืองบางพรรคการเมืองที่ไม่ยอมปฏิรูปตัวเอง เราจึงแสดงความรู้สึกโดยการโหวตโน
"ขณะนี้การโหวตโนกำลังกลายเป็นกระแสที่ลงไปถึงการเลือกตั้งในระบบท้องถิ่นแล้ว ซึ่งประชาชนในพื้นที่บางแห่งออกมาแสดงความไม่พอใจในตัวบุคคลที่ลงสมัคร โดยการรณรงค์ให้มีการโหวตเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจการบริหารของคุณ และที่มาของนักการเมือง และในวันที่ 24 พ.ย.นี้เป็นเป็นโจทย์การเมืองที่สำคัญ การชุมนุมวันที่ 24 ไม่ใช่การปิดประเทศ ไม่ใช่การแช่แข็งนักการเมือง แต่เป็นการเปิดประเทศให้เห็นแสงสว่าง มากกว่าที่จะเป็นการปิดประเทศ" นายภิภพ กล่าว และว่า
การปฏิรูปประเทศไทยนั้นจะต้องแก้ในหลายเรื่อง เช่น การแก้กฎหมายการเลือกตั้งที่จะต้องให้กระจายทุกกลุ่มอาชีพ ไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มอาชีพ กลุ่มสกุลคนดังเหมือนปัจจุบันที่จำกัดอยู่ที่กลุ่มชินวัตร กลุ่มศิลปอาชา ถ้าจำกัดอยู่แบบนี้ก็เรียกว่าเป็นการปิดประเทศหรือเปล่า เป็นการปิดประตูตีแมวหรือเปล่า เพราะฉะนั้น จะมีกล่าวหาว่าการชุมนุมของประชาชนเป็นการปิดประเทศเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่การกระทำของนักการเมืองปัจุบันเป็นการปิดประเทศโดยนักการเมืองเลว แต่เราจะทำการเปิดประเทศ รวมทั้งจะต้องปกป้องไม่ให้ต่างชาติมากอบโกยประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ ถ้าไม่มีกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาชี้หน้าได้เลยว่า นักการเมืองยุคนี้ขายชาติขายแผ่นดินหมดแน่
นอกจากนั้น จะต้องแก้ร่างกฎหมายทุจริตคอร์รัปชันไม่ให้มีอายุความ ผู้กระทำความผิดต้องคุกตลอดชีวิต เรื่องต่างๆ ประชาชนสามารถนำเรื่องขึ้นสู่ศาลได้ถ้าเห็นว่านักการเมืองทำเรื่องไม่ถูกต้อง เช่น เรื่องของการตรวจสอบที่มาของเงิน ทรัพย์สินของนักการเมือง เชื่อว่าถ้ามีการตรวจสอบอย่างจริงจังนักการเมืองก็ตอบไม่ได้แล้ว เรื่องต่อมาที่จะต้องแก้ไขคือ เรื่องของการแก้กฎหมายซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งการกระทำผิดเรื่องนี้จะต้องไม่จำกัดอายุความเช่นเดียวกัน รวมทั้งจะต้องแก้เรื่องของการโหวตโน โดย ส.ส.ที่แพ้โหวตโนไม่สามารถที่จะกลับมาลงเลือกตั้งใหม่ได้ รวมทั้งห้ามลงสมัครอีก
"การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ จะเดินหน้าใน 15 ประเด็นโดยการเปิดเวทีเสวนาในทุกพื้นที่จนกระทั่งประชาชนมีเหตุผล ถึงตอนนั้นเราจะมีการออกมาชุมนุมใหญ่เพื่อปฏิรูปประเทศไทย เพื่อมุ่งไปสู่การปฏิรูปทุกด้าน ทางออกของประเทศยังมี โดยเฉพาะพี่น้องพันธมิตรฯที่มีความรู้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน พันธมิตรฯจะมาร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในอนาคต การปฏิรูปจะต้องเกิดตั้งแต่ระดับตำบลจนถึงระดับประเทศ" นายพิภพกล่าว
ผศ.จำรูญ ณ ระนอง กล่าวว่า ประเทศไทยเสียหายก็เพราะนักการเมืองชั่ว ที่ผ่านมานักการเมืองชั่วบอกว่าพื้นที่ไหนไม่เลือกมันเอาไว้ทีหลัง จังหวัดไหนเลือกมันเอาไปก่อน ซึ่งเป็นการยุแยงทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อที่มันจะเขมือบแผ่นดินไทย เขมือบผลประโยชน์จากประเทศไทย นักการเมืองชั่วพยายามสร้างภาพว่าประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่มันไม่ใช่ เพราะการเลือกตั้งมีการทุจริต มีการซื้อสิทธิขายเสีย นักการเมืองได้มาโดยไม่ชอบ เมื่อเข้ามาแล้วก็เขมือบเอา เขมือบเอาทำให้นักการเมืองชั่วรวยเอารวยเอา เขมือบเอาอ่าวไทยจะหมดแล้วทั้งน้ำมัน แก๊ส
"นักการเมืองไทยชั่วโดยไม่รักศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เมื่อเข้ามาโดยการซื้อเสียงมาถึงก็ขายสิทธิขอประชาชนที่เลือกเข้ามา ขายศักดิ์ศรีของคนทั้งประเทศเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง ประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเหมือนที่นักการเมืองชั่วบอก เพราะมีแต่การขายสิทธิ ขายเสียง ขายชาติ ขายทรัพย์สินของแผ่นดิน ผู้นำประเทศที่เดินทางมาบ้านเราจะมองว่ามาแล้วจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์แก่คนของเขา ซึ่งต่างกับผู้นำประเทศไทยที่ไปที่ไหนก็มีแต่เร่ขาย แต่ขายแล้วประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับประชาชน แต่ไปตกอยู่กับคนเพียงคนเดียว".
เวลา 14.00 น.วานนี้ (18 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นเวที "พลังงานและการปฎิรูปประเทศไทย ฝ่าวิกฤติประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูปพลังงาน" ซึ่งทางเครือข่ายรณรงค์ปฎิรูปประเทศไทย จ.ภูเก็ต จัดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ตว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ 19 ที่ทางพันธมิตรฯ เปิดเวทีสัญจรให้ความรู้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ สิ่งที่ต้องปฎิรูป คือ ปตท.ไม่ให้มีการโกงกินก็จะทำให้น้ำมัน และแก๊สราคาถูกลงมาก และแกนนำพันธมิตรฯ ไม่พร้อมที่จะขึ้นเวทีชุมนุมกับทาง เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ วันที่ 24 พ.ย.นี้ เพราะทางแกนนำได้กำหนดการเดินสายบรรยายให้ความรู้เรื่องการปฏิรูปแก่พี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากจัดเวทีที่ จ.ภูเก็ตแล้วก็จะไปต่อที่ จ.กาญจนบุรี และเพชรบุรี ในวันที่ 25 พ.ย.55 แต่ตอนนี้ทางพันธมิตรฯ ได้เลื่อนการจัดชุมนุมทั้ง 2 เวทีออกไปแล้ว เพื่อให้พันธมิตรฯบางคนที่ต้องการเดินทางไปร่วมชุมนุมเพื่อบ้านเมืองได้เดินทางไปร่วม
รายงานข่าวบรรยากาศการจัดเวทีดังกล่าวเป็นไปด้วยความคึกคึก นอกจากนี้ยังจัดให้มีการเสวนา "วิเคราะห์ วิกฤติประเทศไทย" ขึ้นด้วย โดยมีนายภิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรฯ ผศ.จำรูญ ณ ระนอง รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ร่วมเวทีเสวนา ซึ่งดำเนินรายการโดย นายเติมศักดิ์ จารุปราณ นักวิชาการประจำเวทีพันธมิตรฯ
นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ร่วมกันทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวทีไหนที่มีความสมบูรณ์เท่าเวทีพันธมิตรฯ และที่สำคัญเราไม่กลัวใคร นับวันมีนักการเมืองเลวเอา เลวเอา คอร์รัปชันทุกอย่าง ทั้งงบประมาณ รวมไปถึงคอร์รัปชันเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติสำคัญของประเทศคือ เรื่องของพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 ของการทุจริตคอร์ปชันที่พันธมิตรฯ เคยมีมติกันมาแล้วคือการโหวตโน ซึ่งมีบางคนที่บอกว่าการโหวตโนเป็นการเสียเปล่า ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคได้คะแนนเสียงไม่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริง เพราะเมื่อรวมคะแนนโหวตโนกับคะแนนที่พรรคบางพรรคได้แล้วยังมีคะแนนเสียที่น้อยอยู่ดี สาเหตุที่มีการโหวตโนก็เนื่องจากพรรคการเมืองบางพรรคการเมืองที่ไม่ยอมปฏิรูปตัวเอง เราจึงแสดงความรู้สึกโดยการโหวตโน
"ขณะนี้การโหวตโนกำลังกลายเป็นกระแสที่ลงไปถึงการเลือกตั้งในระบบท้องถิ่นแล้ว ซึ่งประชาชนในพื้นที่บางแห่งออกมาแสดงความไม่พอใจในตัวบุคคลที่ลงสมัคร โดยการรณรงค์ให้มีการโหวตเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจการบริหารของคุณ และที่มาของนักการเมือง และในวันที่ 24 พ.ย.นี้เป็นเป็นโจทย์การเมืองที่สำคัญ การชุมนุมวันที่ 24 ไม่ใช่การปิดประเทศ ไม่ใช่การแช่แข็งนักการเมือง แต่เป็นการเปิดประเทศให้เห็นแสงสว่าง มากกว่าที่จะเป็นการปิดประเทศ" นายภิภพ กล่าว และว่า
การปฏิรูปประเทศไทยนั้นจะต้องแก้ในหลายเรื่อง เช่น การแก้กฎหมายการเลือกตั้งที่จะต้องให้กระจายทุกกลุ่มอาชีพ ไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มอาชีพ กลุ่มสกุลคนดังเหมือนปัจจุบันที่จำกัดอยู่ที่กลุ่มชินวัตร กลุ่มศิลปอาชา ถ้าจำกัดอยู่แบบนี้ก็เรียกว่าเป็นการปิดประเทศหรือเปล่า เป็นการปิดประตูตีแมวหรือเปล่า เพราะฉะนั้น จะมีกล่าวหาว่าการชุมนุมของประชาชนเป็นการปิดประเทศเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่การกระทำของนักการเมืองปัจุบันเป็นการปิดประเทศโดยนักการเมืองเลว แต่เราจะทำการเปิดประเทศ รวมทั้งจะต้องปกป้องไม่ให้ต่างชาติมากอบโกยประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ ถ้าไม่มีกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาชี้หน้าได้เลยว่า นักการเมืองยุคนี้ขายชาติขายแผ่นดินหมดแน่
นอกจากนั้น จะต้องแก้ร่างกฎหมายทุจริตคอร์รัปชันไม่ให้มีอายุความ ผู้กระทำความผิดต้องคุกตลอดชีวิต เรื่องต่างๆ ประชาชนสามารถนำเรื่องขึ้นสู่ศาลได้ถ้าเห็นว่านักการเมืองทำเรื่องไม่ถูกต้อง เช่น เรื่องของการตรวจสอบที่มาของเงิน ทรัพย์สินของนักการเมือง เชื่อว่าถ้ามีการตรวจสอบอย่างจริงจังนักการเมืองก็ตอบไม่ได้แล้ว เรื่องต่อมาที่จะต้องแก้ไขคือ เรื่องของการแก้กฎหมายซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งการกระทำผิดเรื่องนี้จะต้องไม่จำกัดอายุความเช่นเดียวกัน รวมทั้งจะต้องแก้เรื่องของการโหวตโน โดย ส.ส.ที่แพ้โหวตโนไม่สามารถที่จะกลับมาลงเลือกตั้งใหม่ได้ รวมทั้งห้ามลงสมัครอีก
"การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ จะเดินหน้าใน 15 ประเด็นโดยการเปิดเวทีเสวนาในทุกพื้นที่จนกระทั่งประชาชนมีเหตุผล ถึงตอนนั้นเราจะมีการออกมาชุมนุมใหญ่เพื่อปฏิรูปประเทศไทย เพื่อมุ่งไปสู่การปฏิรูปทุกด้าน ทางออกของประเทศยังมี โดยเฉพาะพี่น้องพันธมิตรฯที่มีความรู้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน พันธมิตรฯจะมาร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในอนาคต การปฏิรูปจะต้องเกิดตั้งแต่ระดับตำบลจนถึงระดับประเทศ" นายพิภพกล่าว
ผศ.จำรูญ ณ ระนอง กล่าวว่า ประเทศไทยเสียหายก็เพราะนักการเมืองชั่ว ที่ผ่านมานักการเมืองชั่วบอกว่าพื้นที่ไหนไม่เลือกมันเอาไว้ทีหลัง จังหวัดไหนเลือกมันเอาไปก่อน ซึ่งเป็นการยุแยงทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อที่มันจะเขมือบแผ่นดินไทย เขมือบผลประโยชน์จากประเทศไทย นักการเมืองชั่วพยายามสร้างภาพว่าประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่มันไม่ใช่ เพราะการเลือกตั้งมีการทุจริต มีการซื้อสิทธิขายเสีย นักการเมืองได้มาโดยไม่ชอบ เมื่อเข้ามาแล้วก็เขมือบเอา เขมือบเอาทำให้นักการเมืองชั่วรวยเอารวยเอา เขมือบเอาอ่าวไทยจะหมดแล้วทั้งน้ำมัน แก๊ส
"นักการเมืองไทยชั่วโดยไม่รักศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เมื่อเข้ามาโดยการซื้อเสียงมาถึงก็ขายสิทธิขอประชาชนที่เลือกเข้ามา ขายศักดิ์ศรีของคนทั้งประเทศเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง ประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเหมือนที่นักการเมืองชั่วบอก เพราะมีแต่การขายสิทธิ ขายเสียง ขายชาติ ขายทรัพย์สินของแผ่นดิน ผู้นำประเทศที่เดินทางมาบ้านเราจะมองว่ามาแล้วจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์แก่คนของเขา ซึ่งต่างกับผู้นำประเทศไทยที่ไปที่ไหนก็มีแต่เร่ขาย แต่ขายแล้วประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับประชาชน แต่ไปตกอยู่กับคนเพียงคนเดียว".