xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

'สุรัตน์ โหราชัยกุล'สหรัฐฯหวนคืนเอเชีย คานอำนาจจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นับเป็นประเด็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางมาเยือนไทย พม่า และกัมพูชาของ 'นายบารัค โอบามา' ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 17-20 พ.ย.นี้ หลายคนอยากรู้ว่าการเดินทางมาเยือนครั้งนี้ของประธานธิบดีโอบามานั้นมีเป้าหมายอะไร ไทยจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างไร และกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในภูมิภาคแถบนี้ ?

'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ 'ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล' อาจารย์ประจำภาควิชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้วิเคราะห์ถึงเป้าหมายของผู้นำแห่งแดนพญาอินทรี และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้ไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนในทุกแง่มุม

อาจารย์มองการเดินทางมาเยือนประเทศไทยและภูมิภาคแถบนี้ของบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างไร

นี่คือยุทธศาสตร์ที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาภายใต้คณะบริหารที่นำโดยประธานาธิบดี นายบารัค โอบามา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางฮิลลารี่ คลินตัน และพรรคเดโมแครต ซึ่งโอบามาที่สานงานต่ออีกสมัยหนึ่งที่ต้องการคานจีน เนื่องจากเขามองว่าจีนที่กำลังเรืองอำนาจมีประเด็นปัญหาหลายอย่าง ประการแรกที่ผ่านมาจีนได้เข้าไปแทรกแซงสกุลเงินทำให้เงินหยวนมีค่าแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าปกติเพื่อให้สินค้าของจีนมีราคาถูก จึงมีการ นำเข้าสินค้าจีนเข้าไปในสหรัฐฯ จำนวนมาก เมื่อบวก-ลบยอดส่งออก-นำเข้าสหรัฐฯ จึงขาดดุลการค้า ประการที่ 2 จีน สหรัฐไม่เชื่อว่าจีนจะขึ้นมามีอำนาจ เพราะจีนก็มีกรณีแย่งชิงพื้นที่เกาะกับหลายๆประเทศในภูมิภาคแถบนี้ จีนพยายามสร้างอำนาจทางทะเลในภูมิภาคนี้ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญนั้นเกิดจากการที่พม่าซึ่งมีพื้นที่เชื่อมระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดียเริ่มมีการปฏิรูปประเทศ มีการปล่อยนักโทษทางการเมือง นางอองซาน ซูจี ผู้นำการต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ได้รับการปล่อยตัวและกำลังจะลงเลือกตั้งในพม่า ทำให้ตะวันตกมองเห็นชัดเจนว่าอำนาจทางเศรษฐกิจการเมืองจะต้องมากระจุกตัวอยู่แถวนี้แน่ การเข้ามาพม่าของประธานาธิบดีสหรัฐฯก็เท่ากับว่าเข้ามาเหยียบสีข้างประเทศจีนแล้ว

ตอนนี้ทุกประเทศต่างก็ให้ความสำคัญกับพม่า

พม่าคือจุดเปลี่ยนไง ซึ่งผมคิดว่าจุดเปลี่ยนสำคัญมาจาก พล.อ.ตาน ฉ่วย ผู้นำรัฐบาลพม่า เพราะตาน ฉ่วย เขาเห็นแล้วว่าจีนจะมาเอาเปรียบเขา แล้วไปดูประวัติศาสตร์ได้เลยพม่าไม่ยอมขึ้นอยู่กับใครง่ายๆ เขาฉลาด เขาพลิกทันตลอด ระหว่างที่เขาสนิทสนมกับจีน เขาก็เริ่มสนิทสนมกับอินเดีย เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาสนิทสนมกับจีนประเทศเดียวเขาก็มีแต่เสีย วันหนึ่งเขาจะถอนตัวไม่ขึ้น นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าทำไมสหรัฐจึงเข้ามาในพม่า และนี่จะเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ว่านายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่ไปเยือนพม่า หลังจากที่พม่าเปิดประเทศ ประเทศต่างๆก็วิ่งเข้าหาพม่า วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ก็ไปเยือนพม่าแล้ว เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ก็มาเยือนพม่าแล้ว ล่าสุดโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ของพม่า ญี่ปุ่นก็เข้าไปลงทุนแล้ว ตอนนี้ใครก็เข้าไปเจริญสัมพันธไมตรี เข้าไปลงทุนในพม่า สหรัฐฯ อินเดีย ไทย เข้าไปหมด เพราะฉะนั้นไม่ใช่จีนประเทศเดียวแล้วที่เข้าไปมีอิทธิพลในประเทศนี้

ที่ผ่านมาจีนก็พยายามแผ่นอิทธิพลโดยการแย่งชิงพื้นที่กับหลายประเทศในภูมิภาคแถบนี้

เราจะเห็นการคานอำนาจระหว่างจีนและประเทศอื่นๆมาระยะหนึ่งแล้ว ข้อพิพาทเกาะเซนซากุระหว่างจีนและญี่ปุ่นทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นตัดดินใจซื้อเกาะดังกล่าว จีนก็ไม่พอใจจึงผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นในประเทศจีน นอกจากนั้นจีนก็ส่งเรือประมงเข้าไปป่วนญี่ปุ่นอยู่เป็นระยะ อีกทั้งจีนยังมีปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และก็มีมาเลเซียเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งสหรัฐก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเวียดนามโดยบอกว่าเขาพร้อมที่จะให้คำปรึกษา ขณะที่กัมพูชาก็ประกาศชัดเจนว่าจะขึ้นกับจีน อาเซียนก็เริ่มปั่นป่วน วิถีการลงทุนโดยตรงของจีนซึ่งไม่ยึดกับบรรทัดฐานระหว่างประเทศ เช่น เมื่อเข้าไปลงทุนในประเทศไหนจีนก็ขนคนของตัวเองเข้าไปทำงานในประเทศนั้นด้วย แทนที่จะจ้างคนท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศของเขา ประเทศพม่าก็เจอกรณีอย่างนี้ ทำให้ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับพม่าค่อนข้างแย่ แล้วพม่าไม่อยากจะเป็นลูกไล่จีนอย่างเดียว พม่าจึงเปิดสัมพันธ์กับสหรัฐด้วย ถ้าจีนเติบโตทางเศรษฐกิจแล้วเอาศักยภาพตรงนี้ไปแปลงเป็นอำนาจที่ไปท้าทายพื้นที่อาณาเขตของสหรัฐฯและประเทศอื่นๆก็จะเกิดปัญหา จึงไม่น่าแปลกใจที่สหรัฐ อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซียจะฝึกรบทางเรือร่วมกัน ซึ่งเป็นการฝึกรบที่ใหญ่มาก ไม่แน่ใจจะมีออสเตรเลียด้วยหรือเปล่า

สหรัฐฯต้องการเข้ามาเพื่อคานอำนาจจีน ?

ใช่ครับ นี่เป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง ยังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆอีก คือโอบามาเขาฉลาดรู้ว่าเรื่องไหนควรเจรจารักษาประโยชน์ เรื่องไหนควรแข็งกร้าว เขาไม่ได้โจมตีจีนทุกเรื่อง เขาเดินหมากอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเขามองว่าสหรัฐฯก็ได้ประโยชน์จากจีนเพราะจีนก็ซื้อพันธบัตรจากสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันจีนก็อย่าล้ำเส้น จีนสนิทกับปากีสถานมากขึ้นทุกวัน แถมมีนิวเคลียร์ด้วย คุณสนับสนุนเทคโนโลยีนี้ให้กันด้วยใช่ไหม ขณะเดียวกันสหรัฐก็สนใจอินเดียด้วยเพราะนอกจากจะเป็นมิตรประเทศกันแล้วสหรัฐก็มีตลาดอินเดียด้วย สหรัฐก็สนใจที่จะเข้ามาอยู่ในมหาสมุทรอินเดียด้วย

อาจารย์มองว่าการรุกคืบของสหรัฐในภูมิภาคแถบนี้จะเป็นอย่างไร

ตัวที่สำคัญมากคือTPP หรือความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการเปิดการค้าเสรีร่วมกันของหลายประเทศ (ปัจจุบันมี ประเทศสมาชิก 9 ประเทศ คือ เวียดนาม สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ชิลี เปรู ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งล่าสุดประเทศไทย ออกมติ ครม.เข้าร่วมเป็นสมาชิก) ที่เขากำลังจะเซ็นกัน ทราบว่าญี่ปุ่นก็จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วยแม้เขาจะมีปัญหาถูกต่อต้านจากชาวไร่ชาวนาในภาคเกษตรกรรม ซึ่งตรงนี้สหรัฐมองว่าเขาก็อยากจะเข้ามามีเอี่ยวด้วย และไม่อยากให้ TPP เปิดทางให้จีน คือสหรัฐเขาก็มีประโยชน์ส่วนตัวของเขา เราก็มีประโยชน์ส่วนตัวของเรา และถ้าบางครั้งประโยชน์มันคละกันไปก็เข้าใจได้ นี่มันเป็นภาพหนึ่งที่ต้องมองให้ขาด ผมเกรงว่าถ้ารัฐบาลไม่ระวังจะมองภาพพวกนี้ไม่ขาด เพราะนี่มันไม่ใช่สงครามเย็น สมัยสงครามเย็นมันง่าย เลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเลย..จบ แต่ปัจจุบันมันมีหลายเรื่องพัวพันกันไปหมด ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร

สหรัฐฯก็สนใจแหล่งพลังงานในย่านนี้ด้วย

ใช่ครับ ก่อนหน้านี้บริษัทเชฟรอน ซึ่งเป็นกิจการพลังงานสัญชาติอเมริกันก็เข้ามาลงทุนในไทยและประเทศกัมพูชา สหรัฐฯไม่ได้เข้ามาเพื่อคานอำนาจจีนเท่านั้น แต่เข้ามาเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจด้วย

คิดว่าสหรัฐจะเข้ามามีบทบาทด้านการทหารในภูมิภาคนี้อย่างไร

เขาก็จะเข้ามาสนับสนุนด้านการทหารแก่ประเทศต่างๆในภูมิภาคแถบนี้ เช่น จะมีซ้อมรบทางทะเลร่วมกัน 4 ประเทศ คือ สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย มีการร่วมมือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นเขามีนโยบายว่าขนาดของกองกำลังทหารจะไม่ใหญ่แต่เขาเน้นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสอทธิภาพ ทั้งจรวด เรือดำน้ำ ต้องบอกว่าระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้นตอนนี้แนวโน้มไปทางสหรัฐฯมีมากหว่า หลายประเทศในภูมิภาคแถบนี้ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่ายืนข้างสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ขณะที่เวียดนามก็เริ่มเอนเอียงมาทางสหรัฐเพราะมีปัญหาข้อพิพาทกับจีน สำหรับประเทศไทยนั้นในจุดหนึ่งก็ใช่ ก็จะเหลือลาวที่ยังเป็นกลาง ส่วนประเทศที่ยืนอยู่ข้างจีนก็มีแต่กัมพูชาเพราะที่ผ่านมาจีนเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเยอะมาก

คือสหรัฐฯเขาทิ้งประเทศแถบนี้ไปนาน สมัยรัฐบาลริพับลิกันมัวไปทำสงครามในตะวันออกกลาง มัวรบกับผู้ก่อการร้าย ระหว่างนั้นจีนก็เข้ามาแผ่อิทธิพลด้านการค้าการลงทุนในเอเชีย ตอนนี้สหรัฐฯเลยต้องรีบกลับเข้ามาเพื่อคานอำนาจจีน มุมมองของริพับลิกันกับเดโมแครตเขาต่างกัน ผมว่าโอบามาเขาฉลาด เขาให้ความสำคัญทั้งด้านการค้าและการทหาร

แล้วไทยควรกำหนดท่าที่ในเรื่องของความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และจีนอย่างไร

การที่เราจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจนคงเป็นไปไม่ได้ บางเรื่องเราแสดงท่าทีสนับสนุนได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ได้ เราต้องรู้จักวางตัวให้ถูกว่าจะเดินไปทางไหนอย่างไร แม้แต่ข่าววงในระบุว่าสหรัฐฯไม่ได้ต้องการให้ไทยเลือกข้าง ขณะเดียวกันก็อย่าเข้าข้างจีน เพราะฉะนั้นไทยไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะยืนข้างจีนหรือสหรัฐ เราก็คบหาทั้งสองประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น