00 การจะสังเกตว่าสิ่งไหนน่าสนใจ หรือสิ่งไหนมีความน่ากลัวก็ต้องพิจารณาจากการเคลื่อนไหวรับมือจากฝ่ายตรงกันข้าม ถ้าเป็นแบบที่มีการเตรียมพร้อมรับมือกันเต็มพิกัดแบบตึงเครียด นั่นก็แสดงให้เห็นว่า “ใหญ่จริง” และ “น่าหวั่นไหว”จริง เหมือนอย่างกรณีการนัดชุมนุมของกลุ่ม “องค์กรพิทักษ์สยาม” ที่นำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐบาลที่อ้างอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นนักประชาธิปไตยกลับพยายามสกัดกั้นทุกวิถีทางไม่ให้ชาวบ้านออกมาแสดงออกถึงความรู้สึกไม่พอใจได้อย่างสงบ เพราะเวลานี้มีการออกคำสั่งกันไปเป็นทอดๆจากรองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง จาก มท.1 จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ไปถึงระดับผู้ว่าฯ นายอำเภอต่างๆทำทุกอย่างเพื่อจะยับยั้งไม่ให้เดินทางเข้ากรุงในวันดังกล่าว
00 วิธีการดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็น “วิธีโบราณ” มักใช้กันทุกยุคสมัย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที ตรงกันข้ามกลับยิ่งเร่งเร้าเพิ่มความไม่พอใจไม่ต่างจากการ “เรียกแขก” ให้มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้งพฤติกรรม คำพูดของคนในรัฐบาลก็มาในทางเดียวกันหมด ขณะเดียวกันด้วยคำพูดที่สร้าง “ความรู้สึกร่วม” ของเสธ.อ้าย ที่บอกว่า “ถ้าใครไม่พอใจรัฐบาลให้ออกมาเจอกัน 24 พ.ย.” สื่อความหมาย “รวมพลคนทนไม่ไหว” ซึ่งแน่นอนว่าด้วย ความรู้สึกเกลียด โกรธ ที่สะสมมาเป็นแรมเดือน แรมปี เมื่อมีช่องทางให้ระบายก็ต้องปลดปล่อยออกมาให้เต็มที่ และนี่แหละถึงเป็นที่มาของการระดมกำลังตร.ออกมารับมือถึง 5 หมื่นนาย เกือบครึ่ง สตช.เลยทีเดียว
00 ในที่สุดก็เคาะวันซักฟอกในสภาของฝ่ายค้านออกมาแล้วว่าเป็นวันที่ 25-26-27 พ.ย.ลงมติ 28 พ.ย.งานนี้ก็จะได้เห็นรายการ “ท่องจำ” กันทุกตัวอักษร จะได้รู้ว่านายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นประเภท “อ่านเอาเรื่อง” หรือว่า “อ่านเรื่อยเปื่อย” อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องเตือนกันล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เสียอารมณ์กันก็คือศึกซักฟอกเที่ยวนี้เราจะได้เห็นพวก “รับจ้างประท้วง” ทำตัวเป็นองครักษ์กันอย่างเต็มที่ แต่อีกด้านหนึ่งถ้าพิจารณากันอย่างเข้าใจก็ต้องบอกว่านี่แหละเป็นโอกาสทำงาน ทำเงิน
00 ระดับ “เขี้ยวลากดิน” จนต้องเดินถอยหลังนั้นต้องยกให้ “เหลิม บางบอน” เพราะล่าสุดได้ย้ำชัดว่าได้โยนอำนาจตัดสินใจแบบเต็มๆให้กับ ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์อย่างเต็มที่ แถมหากคิดว่าต้องเสนอบังคับใช้ พรบ.ความมั่นคงก็ให้ตัดสินใจเอง ส่วนตัวเองนั้นตามข่าวบอกว่าจะเดินทางไปตรวจราชการในภาคเหนือ ในวันที่ 24 พ.ย.ความหมายคือ “ชิ่งเอาตัวรอด” นั่นแหละ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นตัวเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ทุด !!
00 สำหรับรายของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่รู้กลัวว่า “คนแดนไกล” จะเข้าใจผิด จะมีผลต่อตำแหน่งแห่งที่หรือเปล่า ต้องออกมาคำรามห้ามทหารร่วมม็อบ เสธ.อ้าย อีกรอบ ก็ไม่เป็นไรไม่ให้ร่วมก็ไม่ให้ร่วม เพราะถ้ามานอกเครื่องแบบนอกเวลาราชการ เป็นวันหยุดราชการไม่มีภาระหน้าที่ก็ออกมาได้ในฐานะประชาชนธรรมดาก็ไม่น่าจะผิด เป็นการแสดงออกโดยสงบและสันติ แต่อาจเป็นประเภท “คนทนไม่ไหว” อย่างหลังนี่ไม่รู้ว่ารำคาญผู้บังคับบัญชาตัวเอง หรือว่ารัฐบาลหรือเปล่าไม่รู้ อ้อ ขอเตือนไว้หน่อยก็ดีเหมือนกันคำรามมากอาจคอแตกตายก็ได้นะทั่น !!
00 วิธีการดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็น “วิธีโบราณ” มักใช้กันทุกยุคสมัย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที ตรงกันข้ามกลับยิ่งเร่งเร้าเพิ่มความไม่พอใจไม่ต่างจากการ “เรียกแขก” ให้มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้งพฤติกรรม คำพูดของคนในรัฐบาลก็มาในทางเดียวกันหมด ขณะเดียวกันด้วยคำพูดที่สร้าง “ความรู้สึกร่วม” ของเสธ.อ้าย ที่บอกว่า “ถ้าใครไม่พอใจรัฐบาลให้ออกมาเจอกัน 24 พ.ย.” สื่อความหมาย “รวมพลคนทนไม่ไหว” ซึ่งแน่นอนว่าด้วย ความรู้สึกเกลียด โกรธ ที่สะสมมาเป็นแรมเดือน แรมปี เมื่อมีช่องทางให้ระบายก็ต้องปลดปล่อยออกมาให้เต็มที่ และนี่แหละถึงเป็นที่มาของการระดมกำลังตร.ออกมารับมือถึง 5 หมื่นนาย เกือบครึ่ง สตช.เลยทีเดียว
00 ในที่สุดก็เคาะวันซักฟอกในสภาของฝ่ายค้านออกมาแล้วว่าเป็นวันที่ 25-26-27 พ.ย.ลงมติ 28 พ.ย.งานนี้ก็จะได้เห็นรายการ “ท่องจำ” กันทุกตัวอักษร จะได้รู้ว่านายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นประเภท “อ่านเอาเรื่อง” หรือว่า “อ่านเรื่อยเปื่อย” อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องเตือนกันล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เสียอารมณ์กันก็คือศึกซักฟอกเที่ยวนี้เราจะได้เห็นพวก “รับจ้างประท้วง” ทำตัวเป็นองครักษ์กันอย่างเต็มที่ แต่อีกด้านหนึ่งถ้าพิจารณากันอย่างเข้าใจก็ต้องบอกว่านี่แหละเป็นโอกาสทำงาน ทำเงิน
00 ระดับ “เขี้ยวลากดิน” จนต้องเดินถอยหลังนั้นต้องยกให้ “เหลิม บางบอน” เพราะล่าสุดได้ย้ำชัดว่าได้โยนอำนาจตัดสินใจแบบเต็มๆให้กับ ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์อย่างเต็มที่ แถมหากคิดว่าต้องเสนอบังคับใช้ พรบ.ความมั่นคงก็ให้ตัดสินใจเอง ส่วนตัวเองนั้นตามข่าวบอกว่าจะเดินทางไปตรวจราชการในภาคเหนือ ในวันที่ 24 พ.ย.ความหมายคือ “ชิ่งเอาตัวรอด” นั่นแหละ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นตัวเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ทุด !!
00 สำหรับรายของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่รู้กลัวว่า “คนแดนไกล” จะเข้าใจผิด จะมีผลต่อตำแหน่งแห่งที่หรือเปล่า ต้องออกมาคำรามห้ามทหารร่วมม็อบ เสธ.อ้าย อีกรอบ ก็ไม่เป็นไรไม่ให้ร่วมก็ไม่ให้ร่วม เพราะถ้ามานอกเครื่องแบบนอกเวลาราชการ เป็นวันหยุดราชการไม่มีภาระหน้าที่ก็ออกมาได้ในฐานะประชาชนธรรมดาก็ไม่น่าจะผิด เป็นการแสดงออกโดยสงบและสันติ แต่อาจเป็นประเภท “คนทนไม่ไหว” อย่างหลังนี่ไม่รู้ว่ารำคาญผู้บังคับบัญชาตัวเอง หรือว่ารัฐบาลหรือเปล่าไม่รู้ อ้อ ขอเตือนไว้หน่อยก็ดีเหมือนกันคำรามมากอาจคอแตกตายก็ได้นะทั่น !!
