พรรคประชาธิปัตย์ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางคนแล้วครับ กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วเป็นวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
มีข้อสงสัยอยู่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอยู่ร่วมประชุมหรือไม่เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็อยู่ร่วมประชุมสภาไม่กี่ครั้ง ตอบกระทู้ถามของ ส.ส.พรรครัฐบาลหนหรือสองหน นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยที่เข้าร่วมประชุมสภาน้อยที่สุดคนหนึ่งพอๆ กับ ทักษิณ ชินวัตร เวลาส่วนหนึ่งของนางสาวยิ่งลักษณ์คือเดินทางเฉิดฉายไปร่วมประชุมต่างประเทศ
ซึ่งเป็นที่กังขาอยู่ในเวลานี้ว่า จะไปรู้เรื่อง จะเข้าใจในเนื้อหาสาระ จะไปเข้าใจประเด็นต่างๆ กับเขาหรือเพียง ศอบต. หญ้าแพรก หญ้าแฝก ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย
มาถึงวันนี้ข้อสงสัยก็หมดไป เมื่อพลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เซ็นคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ออกจากราชการ คือ นายทหารยศร้อยตรี อาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.
คำสั่งนั้นให้นายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ และคงจะตามมาด้วยการถอดยศร้อยตรีในอีกไม่นานนี้ โดยให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2531 เป็นเวลา 24 ปีมาแล้ว
ทั้งที่ความเป็นจริงก็คือนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.มานานแล้ว ยศร้อยตรีดูเหมือนนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ใช้
ทำไมต้องให้ออกจากราชการ?
ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ต้องเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และเมื่อนายอภิสิทธิ์ถูกปลดออกจากราชการ ซึ่งในคำสั่งนั้นระบุว่า ทุจริต ประพฤติมิชอบ ซึ่งก็จะขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็จะทำให้ขาดคุณสมบัติที่จะเป็น นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จะทำให้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตกไปในที่สุด
ทันทีที่พลอากาศเอกสุกำพลลงนามในคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ลาออกมาตั้งแต่ปีมะโว้ บรรดามือตีนของทักษิณก็เคลื่อนไหวทันที บ้างก็จะต้อง กกต.บ้างก็จะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาตีความพิจารณาคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์
สื่อบางฉบับมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญยิ่ง
ทั้งที่เรื่องของทักษิณหนีคุกกลับไม่สนใจ ทักษิณเป็นต้นตอที่ทำให้คนตายในสงครามยาเสพติดกว่า 2 พันคนกลับไม่เคยพูดถึง หรือคนที่ตายที่ตากใบ กรือเซะ บรรดาสื่อที่มากด้วยศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรมเหล่านี้กลับมองข้าม
ไม่รู้เหมือนกันว่า กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ จะมองเห็นว่า การที่ สด. 9 ของนายอภิสิทธิ์หายแล้วไปขอออกใบใหม่เพื่อติดยศร้อยตรี แล้วสัสดีลงวันที่ผิดเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระทรวงกลาโหมเสียหายร้ายแรงอย่างที่พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต คิดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ที่แน่ๆ และสบายใจตอนนี้เห็นจะเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อาจจะฝันหวานว่าจะรอดจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดเลยที่จะชอบการถูกอภิปราย เพราะแม้จะรู้ดีว่า เสียงข้างมากเป็นของตน ลงมติเมื่อไรก็ชนะเมื่อนั้น แต่ตลอดเวลาที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น มันรู้สึกเหมือนไม่ใช่ผู้ใช่คน ทุกอย่างดูมันเลวร้ายไปหมด นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ถูกต้อง ทำเลว ทำชั่วไว้ที่ไหน ไส้กี่ขดต่อกี่ขด ฝ่ายค้านที่เป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรู้หมด กระทั่งที่เจ้าตัวเองลืมไปแล้ว ฝ่ายค้านก็ขุดขึ้นมาได้
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเผ็ดร้อนจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านขณะนั้น จะตอบได้ดีถึงความรู้สึกที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรอดจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พลอากาศเอกสุกำพลจะกลายเป็นผู้ทรงคุณค่าที่สุดสำหรับทั้งทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ซ้ำยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีไปได้อีกยาวนานยาวไกล เพราะนั่นหมายถึงนายอภิสิทธิ์พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ้นจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้ที่จะต่อกรกับระบอบทักษิณอย่างเอาจริงเอาจังในสภาก็หาตัวได้ยาก
พรรคประชาธิปัตย์ต้องหาหัวขบวนใหม่ สมาชิกพรรคบางคนอาจจะเห็นตัวอย่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่เพื่อไทยแล้วได้ดิบได้ดี ได้เป็นรัฐมนตรี อาจจะออกตามก็เป็นไปได้
ถ้างานของพลอากาศเอกสุกำพลสำเร็จ และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เข้มแข็งขึ้น ระบอบทักษิณก็จะต้องเข้มแข็งขึ้น ประเทศไทยทั้งประเทศก็จะอยู่ใต้ตีนของทักษิณ และยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงทบวงกรมต่างๆ ที่มีมือตีนของทักษิณอยู่กระจายไปหมด ไม่ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ กองสลาก องค์กรอิสระต่างๆ ก็จะยิ่งเป็นที่อาศัยของมือไม้ทักษิณ มือไม้ยิ่งลักษณ์
พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ยิ่งใหญ่เหิมเกริมอยู่แล้วก็จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
เห็นทีจะต้องขุดรูอยู่กันแล้วพี่น้อง
มีข้อสงสัยอยู่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอยู่ร่วมประชุมหรือไม่เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็อยู่ร่วมประชุมสภาไม่กี่ครั้ง ตอบกระทู้ถามของ ส.ส.พรรครัฐบาลหนหรือสองหน นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยที่เข้าร่วมประชุมสภาน้อยที่สุดคนหนึ่งพอๆ กับ ทักษิณ ชินวัตร เวลาส่วนหนึ่งของนางสาวยิ่งลักษณ์คือเดินทางเฉิดฉายไปร่วมประชุมต่างประเทศ
ซึ่งเป็นที่กังขาอยู่ในเวลานี้ว่า จะไปรู้เรื่อง จะเข้าใจในเนื้อหาสาระ จะไปเข้าใจประเด็นต่างๆ กับเขาหรือเพียง ศอบต. หญ้าแพรก หญ้าแฝก ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย
มาถึงวันนี้ข้อสงสัยก็หมดไป เมื่อพลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เซ็นคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ออกจากราชการ คือ นายทหารยศร้อยตรี อาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.
คำสั่งนั้นให้นายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ และคงจะตามมาด้วยการถอดยศร้อยตรีในอีกไม่นานนี้ โดยให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2531 เป็นเวลา 24 ปีมาแล้ว
ทั้งที่ความเป็นจริงก็คือนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.มานานแล้ว ยศร้อยตรีดูเหมือนนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ใช้
ทำไมต้องให้ออกจากราชการ?
ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ต้องเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และเมื่อนายอภิสิทธิ์ถูกปลดออกจากราชการ ซึ่งในคำสั่งนั้นระบุว่า ทุจริต ประพฤติมิชอบ ซึ่งก็จะขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็จะทำให้ขาดคุณสมบัติที่จะเป็น นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จะทำให้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตกไปในที่สุด
ทันทีที่พลอากาศเอกสุกำพลลงนามในคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ลาออกมาตั้งแต่ปีมะโว้ บรรดามือตีนของทักษิณก็เคลื่อนไหวทันที บ้างก็จะต้อง กกต.บ้างก็จะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาตีความพิจารณาคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์
สื่อบางฉบับมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญยิ่ง
ทั้งที่เรื่องของทักษิณหนีคุกกลับไม่สนใจ ทักษิณเป็นต้นตอที่ทำให้คนตายในสงครามยาเสพติดกว่า 2 พันคนกลับไม่เคยพูดถึง หรือคนที่ตายที่ตากใบ กรือเซะ บรรดาสื่อที่มากด้วยศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรมเหล่านี้กลับมองข้าม
ไม่รู้เหมือนกันว่า กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ จะมองเห็นว่า การที่ สด. 9 ของนายอภิสิทธิ์หายแล้วไปขอออกใบใหม่เพื่อติดยศร้อยตรี แล้วสัสดีลงวันที่ผิดเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระทรวงกลาโหมเสียหายร้ายแรงอย่างที่พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต คิดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ที่แน่ๆ และสบายใจตอนนี้เห็นจะเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อาจจะฝันหวานว่าจะรอดจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดเลยที่จะชอบการถูกอภิปราย เพราะแม้จะรู้ดีว่า เสียงข้างมากเป็นของตน ลงมติเมื่อไรก็ชนะเมื่อนั้น แต่ตลอดเวลาที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น มันรู้สึกเหมือนไม่ใช่ผู้ใช่คน ทุกอย่างดูมันเลวร้ายไปหมด นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ถูกต้อง ทำเลว ทำชั่วไว้ที่ไหน ไส้กี่ขดต่อกี่ขด ฝ่ายค้านที่เป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรู้หมด กระทั่งที่เจ้าตัวเองลืมไปแล้ว ฝ่ายค้านก็ขุดขึ้นมาได้
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเผ็ดร้อนจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านขณะนั้น จะตอบได้ดีถึงความรู้สึกที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรอดจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พลอากาศเอกสุกำพลจะกลายเป็นผู้ทรงคุณค่าที่สุดสำหรับทั้งทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ซ้ำยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีไปได้อีกยาวนานยาวไกล เพราะนั่นหมายถึงนายอภิสิทธิ์พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ้นจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้ที่จะต่อกรกับระบอบทักษิณอย่างเอาจริงเอาจังในสภาก็หาตัวได้ยาก
พรรคประชาธิปัตย์ต้องหาหัวขบวนใหม่ สมาชิกพรรคบางคนอาจจะเห็นตัวอย่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่เพื่อไทยแล้วได้ดิบได้ดี ได้เป็นรัฐมนตรี อาจจะออกตามก็เป็นไปได้
ถ้างานของพลอากาศเอกสุกำพลสำเร็จ และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เข้มแข็งขึ้น ระบอบทักษิณก็จะต้องเข้มแข็งขึ้น ประเทศไทยทั้งประเทศก็จะอยู่ใต้ตีนของทักษิณ และยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงทบวงกรมต่างๆ ที่มีมือตีนของทักษิณอยู่กระจายไปหมด ไม่ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ กองสลาก องค์กรอิสระต่างๆ ก็จะยิ่งเป็นที่อาศัยของมือไม้ทักษิณ มือไม้ยิ่งลักษณ์
พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ยิ่งใหญ่เหิมเกริมอยู่แล้วก็จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
เห็นทีจะต้องขุดรูอยู่กันแล้วพี่น้อง