เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์พม่าเช้าวานนี้ (11 พ.ย.) แถมอาฟเตอร์ช็อคอีกหลายระลอก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คน และอีกเกือบครึ่งร้อยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ภาคเหนือของไทยรู้สึกได้ ชาวบ้านเผยนาทีระทึกรับรู้การสั่นสะเทือน จนต้องพากันวิ่งหนีออกมานอกบ้าน ด้าน ผอ.3 เขื่อนสำคัญ-กทม.ยันยังไม่มีผลกระทบ
สำนักข่าวต่างประเทศอ้างรายงานของ Save the Children ระบุว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ริกเตอร์ ในพม่า มีศูนย์กลางห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางเหนือ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อยกว่า 20 ราย และอีกเกือบ 50 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้เสียชีวิต 4 รายเป็นคนงานที่กำลังก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำอิระวดีใกล้เมืองชเวโบ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ ขณะที่อีก 2 รายเสียชีวิตจากเหตุวัดพังถล่มในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับเมือง Kyauk Myaung และอีก 1 รายเสียชีวิตในมัณฑะเลย์ นอกจากนี้ยังมีอีก 6 รายเสียชีวิตที่เมืองท่าซิงกู
สำนักงานสำรวจทางธรณีธรณีศาสตร์แห่งสหรัฐฯ กล่าว แผ่นดินไหวเกิดในระยะที่ตื้นมาก ลึกลงไปราว 10 กม.เท่านั้น หลังเกิดแผ่นดินไหวได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกหลายครั้ง แม้จะยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ในเขตเมืองมัณฑะเลย์ก็ตาม แต่ก็มีรายงานว่าผู้ที่อยู่บนอาคารสูงในกรุงเทพมหานครก็รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สถานีโทรทัศน์ของรัฐซึ่งโดยปกติจะเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่คำแถลงของรัฐบาลพม่า ตลอดจนหนังสือพิมพ์ต่างๆ ได้รายงานเกี่ยวกับแผ่นดินไหว 1 ครั้ง โดยไม่ได้ให้ตัวเลขเกี่ยวกับความเสียหายใดๆ
สื่อในท้องถิ่นได้รายงานความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ในเขตรอบๆ มัณฑะเลย์ รวมทั้งในอมราปุระ (Amarapura) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีวัดเก่าแก่กับสะพานทำด้วยไม้สักยาวที่สุดในโลก (“สะพานนายเบง” -- บก.) สื่อรายงานว่ามีวัดหลายแห่งที่นั่นได้รับความเสียหาย
*คนภาคเหนือหลายจังหวัดรู้สึกได้
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเรื่องแผ่นดินไหวระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.12 น.ได้เกิดแผ่นดินไหวศูนย์กลางในประเทศพม่า ที่ละติจูด 22.93 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.99 องศาตะวันออก ความลึก 10 กม. ขนาดความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของพม่าห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 438 กิโลเมตรและห่างจาก จ.เชียงใหม่ ประมาณ 600 กิโลเมตร ซึ่งรู้สึกได้ในหลายจังหวัดของภาคเหนือทั้ง จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย รวมไปถึง จ.พิษณุโลก ตลอดจนคนที่อยู่อาศัยบนอาคารสูงในกรุงเทพฯ
เช่นเดียวกับชาวบ้านในบ้าน หมู่ 1 และหมู่ 7 ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง ก็รับรู้ถึงเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เช่นกัน โดยนางทองเพียร สินธุชน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 283 หมู่1 ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาดังกล่าวตนนั่งทำงานอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็รู้สึกเวียนศีรษะคล้ายบ้านจะหมุนเป็นเวลาร่วม 5 นาที
"ในตอนแรกคิดว่าไม่สบาย แต่เมื่อทุกอย่างสงบจึงทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยชาวบ้านที่มานั่งตากแดดในตอนเช้าบริเวณถนนภายในหมู่บ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจนสายไฟฟ้าตามเสาไฟในหมู่บ้านแกว่งไปมา ส่วนสามีของซึ่งนำอาหารไปให้ปลาในสระเล่าว่าน้ำในสระเกิดกระเพื่อมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในตอนแรกยังคิดว่าจะมีพญานาคโผล่ขึ้นมาหรือไม่ แต่ทั้งนี้แผ่นดินไหวดังกล่าวชาวบ้านไม่สามารถบอกได้ว่ากี่ริกเตอร์ แต่ไม่มีความรุนแรงและไม่ได้สร้างความเสียหายขึ้นแต่อย่างใด"
สำหรับที่ จ.เชียงราย ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านได้วิ่งออกมานอกบ้านหลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวดังกล่าว ในเบื้องต้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทสาธาณะภัยจังหวัดเชียงรายได้ประสานกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่แล้วยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด
**ปภ.เชียงราย-เชียงใหม่ไม่พบเสียหาย
นายณรงค์ อินโส รักษาการ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงการเกิดแผ่นดินไหวในพม่าว่า หลังการเกิดแผ่นดินไหว แรงสั่นสะเทือนจะไม่ส่งผลมายัง จ.เชียงราย มากนัก โดยได้เร่งสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายใดๆ แต่ก็มีการเฝ้าระวัง เพราะอาจมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาได้อีก โดยเฉพาะ ในเรื่องของโบราณสถาน ที่มีความเก่าแก่และสภาพหลายแห่งทรุดโทรมมากแล้ว ทั้งนี้ แผ่นดินไหวลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นในพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลางปี 2554 ครั้งนั้นมีความเสียหายในพม่าอย่างรุนแรง ทั้งบ้านเรือนประชาชน ถนน รวมทั้งเกิดขึ้นในฝั่งไทย มีบ้านเรือนประชาชน โบราณสถาน ของ อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตด้วย 1 คน
นายณรงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง จ.เชียงราย ก็ได้มีการการจัดแผนป้องกันและรับมือแผ่นดินมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยให้ทางโยธาและผังเมือง รวมถึง กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่างๆ คุมเข้มการก่อสร้างบ้านเรือน อาคาร และตึกสูง ที่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้
ด้านนายคมสัน สุวรรณอำพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและมีรายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายเข้ามา เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากประเทศไทยกว่า 400 กิโลเมตร แต่ผู้อาศัยอยู่บนอาคารสูงอาจรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้จึงเตรียมส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง
**3 ผอ.เขื่อนสำคัญยันไม่ผลกระทบ
ในส่วน 2 เขื่อนใน จ.กาญจนบุรี นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ และนายวนิช แสงสุวรรณ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อน ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน จึงขอให้วางใจว่าทั้ง 2 เขื่อนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล ดังนั้น จึงขอให้มั่นใจในความปลอดภัย
ด้านนายวนิช แสงสุวรรณ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ทุกด้านพบว่า ตัวสันเขื่อนไม่มีแรงมากระทบ เครื่องตรวจวัดความสั่นสะเทือนเป็นปกติคือไม่มีแรงมากระทบกับตัวสันเขื่อน ในส่วนการตรวจสอบตัวเขื่อน ไหล่เขื่อน ลาดเขื่อน ตีนเขื่อน อุโมงค์ตรวจสอบ อาคารระบายน้ำ อาคารท้ายน้ำ อ่างเก็บน้ำ และสภาพทางธรณีวิทยา รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องกลด้วยมาตรฐานในระดับปกติตามแบบที่สากลปฏิบัติทุกประการ ยืนยันว่า เขื่อนปลอดภัยมั่งคงแข็งแรง
ทางด้านนายสมหวัง ปารสุขสาร ผอ.โครงการก่อสร้างเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลมากและไม่มีผลกระทบต่อเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ใช่ร่องผลกระทบ อีกทั้งเมื่อแผ่นดินไหวที่ จ.อุตรดิตถ์ที่ผ่านมา ทางเขื่อนแควน้อย ก็ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ทำให้เขื่อนแควน้อยยังคงรักษาสภาพตัวเขื่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทางท้ายเขื่อนจะมีเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวอีก หากตัวเขื่อนได้รับผลกระทบ หรือ เกิดวิกฤติจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ก็จะมีสัญญาณดังเกิดขึ้น และในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะรายงานให้ตนเองทราบอีกครั้งว่าสถานการณ์แผ่นดินไหวนี้เป็นอย่างไร
**กทม.ยันยังไม่มีเสียหาย
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแผ่นดินไหวในประเทศพม่าว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับรายงานว่าอาคารสูงใน กทม.ได้รับผลกระทบจนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเนื่องจากอาคารสูงใน กทม.ถูกออกแบบให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ เพียงแต่อาจจะรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้เนื่องจากเป็นดินอ่อนเมื่ออยู่บนตึกสูงมากก็จะรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้มากเหมือนกับไม้บรรทัด.
สำนักข่าวต่างประเทศอ้างรายงานของ Save the Children ระบุว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ริกเตอร์ ในพม่า มีศูนย์กลางห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางเหนือ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อยกว่า 20 ราย และอีกเกือบ 50 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้เสียชีวิต 4 รายเป็นคนงานที่กำลังก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำอิระวดีใกล้เมืองชเวโบ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ ขณะที่อีก 2 รายเสียชีวิตจากเหตุวัดพังถล่มในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับเมือง Kyauk Myaung และอีก 1 รายเสียชีวิตในมัณฑะเลย์ นอกจากนี้ยังมีอีก 6 รายเสียชีวิตที่เมืองท่าซิงกู
สำนักงานสำรวจทางธรณีธรณีศาสตร์แห่งสหรัฐฯ กล่าว แผ่นดินไหวเกิดในระยะที่ตื้นมาก ลึกลงไปราว 10 กม.เท่านั้น หลังเกิดแผ่นดินไหวได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกหลายครั้ง แม้จะยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ในเขตเมืองมัณฑะเลย์ก็ตาม แต่ก็มีรายงานว่าผู้ที่อยู่บนอาคารสูงในกรุงเทพมหานครก็รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สถานีโทรทัศน์ของรัฐซึ่งโดยปกติจะเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่คำแถลงของรัฐบาลพม่า ตลอดจนหนังสือพิมพ์ต่างๆ ได้รายงานเกี่ยวกับแผ่นดินไหว 1 ครั้ง โดยไม่ได้ให้ตัวเลขเกี่ยวกับความเสียหายใดๆ
สื่อในท้องถิ่นได้รายงานความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ในเขตรอบๆ มัณฑะเลย์ รวมทั้งในอมราปุระ (Amarapura) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีวัดเก่าแก่กับสะพานทำด้วยไม้สักยาวที่สุดในโลก (“สะพานนายเบง” -- บก.) สื่อรายงานว่ามีวัดหลายแห่งที่นั่นได้รับความเสียหาย
*คนภาคเหนือหลายจังหวัดรู้สึกได้
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเรื่องแผ่นดินไหวระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.12 น.ได้เกิดแผ่นดินไหวศูนย์กลางในประเทศพม่า ที่ละติจูด 22.93 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.99 องศาตะวันออก ความลึก 10 กม. ขนาดความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของพม่าห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 438 กิโลเมตรและห่างจาก จ.เชียงใหม่ ประมาณ 600 กิโลเมตร ซึ่งรู้สึกได้ในหลายจังหวัดของภาคเหนือทั้ง จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย รวมไปถึง จ.พิษณุโลก ตลอดจนคนที่อยู่อาศัยบนอาคารสูงในกรุงเทพฯ
เช่นเดียวกับชาวบ้านในบ้าน หมู่ 1 และหมู่ 7 ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง ก็รับรู้ถึงเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เช่นกัน โดยนางทองเพียร สินธุชน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 283 หมู่1 ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาดังกล่าวตนนั่งทำงานอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็รู้สึกเวียนศีรษะคล้ายบ้านจะหมุนเป็นเวลาร่วม 5 นาที
"ในตอนแรกคิดว่าไม่สบาย แต่เมื่อทุกอย่างสงบจึงทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยชาวบ้านที่มานั่งตากแดดในตอนเช้าบริเวณถนนภายในหมู่บ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจนสายไฟฟ้าตามเสาไฟในหมู่บ้านแกว่งไปมา ส่วนสามีของซึ่งนำอาหารไปให้ปลาในสระเล่าว่าน้ำในสระเกิดกระเพื่อมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในตอนแรกยังคิดว่าจะมีพญานาคโผล่ขึ้นมาหรือไม่ แต่ทั้งนี้แผ่นดินไหวดังกล่าวชาวบ้านไม่สามารถบอกได้ว่ากี่ริกเตอร์ แต่ไม่มีความรุนแรงและไม่ได้สร้างความเสียหายขึ้นแต่อย่างใด"
สำหรับที่ จ.เชียงราย ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านได้วิ่งออกมานอกบ้านหลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวดังกล่าว ในเบื้องต้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทสาธาณะภัยจังหวัดเชียงรายได้ประสานกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่แล้วยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด
**ปภ.เชียงราย-เชียงใหม่ไม่พบเสียหาย
นายณรงค์ อินโส รักษาการ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงการเกิดแผ่นดินไหวในพม่าว่า หลังการเกิดแผ่นดินไหว แรงสั่นสะเทือนจะไม่ส่งผลมายัง จ.เชียงราย มากนัก โดยได้เร่งสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายใดๆ แต่ก็มีการเฝ้าระวัง เพราะอาจมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาได้อีก โดยเฉพาะ ในเรื่องของโบราณสถาน ที่มีความเก่าแก่และสภาพหลายแห่งทรุดโทรมมากแล้ว ทั้งนี้ แผ่นดินไหวลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นในพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลางปี 2554 ครั้งนั้นมีความเสียหายในพม่าอย่างรุนแรง ทั้งบ้านเรือนประชาชน ถนน รวมทั้งเกิดขึ้นในฝั่งไทย มีบ้านเรือนประชาชน โบราณสถาน ของ อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตด้วย 1 คน
นายณรงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง จ.เชียงราย ก็ได้มีการการจัดแผนป้องกันและรับมือแผ่นดินมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยให้ทางโยธาและผังเมือง รวมถึง กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่างๆ คุมเข้มการก่อสร้างบ้านเรือน อาคาร และตึกสูง ที่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้
ด้านนายคมสัน สุวรรณอำพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและมีรายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายเข้ามา เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากประเทศไทยกว่า 400 กิโลเมตร แต่ผู้อาศัยอยู่บนอาคารสูงอาจรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้จึงเตรียมส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง
**3 ผอ.เขื่อนสำคัญยันไม่ผลกระทบ
ในส่วน 2 เขื่อนใน จ.กาญจนบุรี นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ และนายวนิช แสงสุวรรณ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อน ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน จึงขอให้วางใจว่าทั้ง 2 เขื่อนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล ดังนั้น จึงขอให้มั่นใจในความปลอดภัย
ด้านนายวนิช แสงสุวรรณ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ทุกด้านพบว่า ตัวสันเขื่อนไม่มีแรงมากระทบ เครื่องตรวจวัดความสั่นสะเทือนเป็นปกติคือไม่มีแรงมากระทบกับตัวสันเขื่อน ในส่วนการตรวจสอบตัวเขื่อน ไหล่เขื่อน ลาดเขื่อน ตีนเขื่อน อุโมงค์ตรวจสอบ อาคารระบายน้ำ อาคารท้ายน้ำ อ่างเก็บน้ำ และสภาพทางธรณีวิทยา รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องกลด้วยมาตรฐานในระดับปกติตามแบบที่สากลปฏิบัติทุกประการ ยืนยันว่า เขื่อนปลอดภัยมั่งคงแข็งแรง
ทางด้านนายสมหวัง ปารสุขสาร ผอ.โครงการก่อสร้างเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลมากและไม่มีผลกระทบต่อเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ใช่ร่องผลกระทบ อีกทั้งเมื่อแผ่นดินไหวที่ จ.อุตรดิตถ์ที่ผ่านมา ทางเขื่อนแควน้อย ก็ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ทำให้เขื่อนแควน้อยยังคงรักษาสภาพตัวเขื่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทางท้ายเขื่อนจะมีเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวอีก หากตัวเขื่อนได้รับผลกระทบ หรือ เกิดวิกฤติจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ก็จะมีสัญญาณดังเกิดขึ้น และในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะรายงานให้ตนเองทราบอีกครั้งว่าสถานการณ์แผ่นดินไหวนี้เป็นอย่างไร
**กทม.ยันยังไม่มีเสียหาย
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแผ่นดินไหวในประเทศพม่าว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับรายงานว่าอาคารสูงใน กทม.ได้รับผลกระทบจนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเนื่องจากอาคารสูงใน กทม.ถูกออกแบบให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ เพียงแต่อาจจะรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้เนื่องจากเป็นดินอ่อนเมื่ออยู่บนตึกสูงมากก็จะรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้มากเหมือนกับไม้บรรทัด.