วานนี้(6 พ.ย.55) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) แถลงหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่เรื่องพิธีกรรมตามที่ฝ่ายรัฐบาลกล่าวหา แต่เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เวลา 10.30 น. จะมีการยื่นถอดถอน ซึ่งจะยื่นถอดถอนใครนั้นจะแจ้งให้ทราบในวันดังกล่าว โดยขณะนี้ได้ประสานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว และในวันที่ 9 พ.ย. จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นจะยื่นต่อประธานสภาฯ ทั้งนี้การยื่นถอดถอนนั้นจะต้องเข้าข่าย 3 ประเด็น คือ1.กรณีร่ำรวยผิดปกติ 2.กรณีการทุจริต และ3.การทำผิดกฎหมาย ซึ่งจากยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาแล้วนั้น ประธานวุฒิสภาก็จะตรวจสอบก่อนที่จะส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สอบสวน และหากป.ป.ช.ชี้มูลก็จะส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนด้วยเสียง 3 ใน 5 สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้าน นั้น ขณะนี้พรรครักประเทศไทยและพรรคภูมิใจไทย ได้ประสานงานจะร่วมลงชื่อเสนอญัตติฯ อย่างแน่นอน ส่วนในเรื่องประเด็นการอภิปรายนั้น จะมีการนำมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อน
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา161 ว่า ขณะนี้ทางวิปรัฐบาลได้มีการประสานกลับมาแล้วว่า จะให้ทางวุฒิสภามีการอภิปรายในวันที่ 28 พ.ย.เพียง 1 วัน ได้มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สว.ชลบุรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิฯ) เป็นผู้ไปเจรจากับทางวิปรัฐบาล ในวันที่ 7 พ.ย.นี้
ทั้งนี้หากรัฐบาลยังยืนยันที่จะให้เวลาในการอภิปราย ในวันที่ 28 พ.ย.เพียง 1 วัน คิดว่ากรอบเวลาดังกล่าวจะเพียงพอ นายนิคม กล่าวว่า เชื่อว่า สว.คงจะไม่อภิปรายทั้งหมด เพราะขณะนี้มีผู้ประสงค์ที่จะอภิปรายเพียง 60 - 70 คน แต่ก็ยอมรับว่ามีแรงกระเพื่อมจากทางกลุ่ม สว.ที่ไม่พอใจหากมีการอภิปรายเพียงวันเดียว
อีกด้านนายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา หารือต่อที่ประชุมวุฒิสภา ว่า ถือเป็นศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ดังนั้น ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิฯ จึงต้องไปเจรจาใหม่ในเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายใหม่ เพราะวุฒิสภาไม่ใช่ลูกไล่ของนายกรัฐมนตรีหรือสภาผู้แทนราษฎร ที่จะจัดเวลาให้อภิปรายแค่ครึ่งวัน วุฒิสภาควรมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด ได้แก่ 1.ไม่ร่วมสังฆกรรม 2.ต้องมีมาตรการแซงชั่นรัฐบาลในการประชุมร่วมรัฐสภาในคราวต่อไป
ที่พรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ตามมารยาททางการเมืองเราเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ต้องร่วมลงชื่อในญัตติอย่างแน่นอน ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจขอสงวนเอกสิทธิ์ว่าจะโหวตให้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้
ส่วนส.ส.กลุ่มมัชฌิมา 7 คนว่าจะร่วมลงชื่อด้วยหรือไม่ น.ส.ศุภมาสกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งมาทั้งนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.กลุ่มมัชฌิมาก็นั่งประชุมอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ไปไหน
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องหารือกันก่อน ซึ่งต้องมีการประเมินว่าผู้ถูกอภิปรายมีการตอบคำถามชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่ เพราะการยื่นญัตติอภิปรายไม่ใช่ว่าเราจะต้องโหวตว่าต้องลงมติเห็นชอบอย่างเดียวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า 7ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด และค่อนข้างชัดแจนแล้วว่า 7 ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา จะไม่ร่วมลงชื่อ เนื่องจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา จะพาสมาชิกในกลุ่มไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมตัวเป็นรัฐบาลส่งผลให้ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมลงชื่อได้ ทั้งสิ้น 24 คน เนื่องจากขณะนี้มีส.ส.จำนวน 3 คน ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่เนื่องจาก กกต. ยื่นคำร้องให้ศาลฎีกาฯมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยได้ขอข้อมูลจากร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานดำเนินการตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ได้ชี้แจงว่าจากการสอบถาม ฝ่ายตำรวจ ขณะนี้ไม่มีการตรวจพบโกดังไหนที่ข้าวหาย และไม่พบการทุจริต จึงขอให้สมาชิกพรรคสบายใจได้ และพรรคยินดีที่จะให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ
แต่ที่ประชุมยังกังวลกับสถานการณ์การชุมนุมที่มีการปลุกระดมประชาชนในพื้นที่ภาคและหลายจังหวัดที่เป็นฐานเสียงฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลออกมาชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ค่อนข้างชัดเจนว่าจะยื่นอภิปรายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และถอดถอนพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะขออภิปรายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมญ์ รมว.พาณิชย์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ และนายปลอดประสพ สุรัสสวดี รองนายกฯ
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา161 ว่า ขณะนี้ทางวิปรัฐบาลได้มีการประสานกลับมาแล้วว่า จะให้ทางวุฒิสภามีการอภิปรายในวันที่ 28 พ.ย.เพียง 1 วัน ได้มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สว.ชลบุรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิฯ) เป็นผู้ไปเจรจากับทางวิปรัฐบาล ในวันที่ 7 พ.ย.นี้
ทั้งนี้หากรัฐบาลยังยืนยันที่จะให้เวลาในการอภิปราย ในวันที่ 28 พ.ย.เพียง 1 วัน คิดว่ากรอบเวลาดังกล่าวจะเพียงพอ นายนิคม กล่าวว่า เชื่อว่า สว.คงจะไม่อภิปรายทั้งหมด เพราะขณะนี้มีผู้ประสงค์ที่จะอภิปรายเพียง 60 - 70 คน แต่ก็ยอมรับว่ามีแรงกระเพื่อมจากทางกลุ่ม สว.ที่ไม่พอใจหากมีการอภิปรายเพียงวันเดียว
อีกด้านนายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา หารือต่อที่ประชุมวุฒิสภา ว่า ถือเป็นศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ดังนั้น ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิฯ จึงต้องไปเจรจาใหม่ในเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายใหม่ เพราะวุฒิสภาไม่ใช่ลูกไล่ของนายกรัฐมนตรีหรือสภาผู้แทนราษฎร ที่จะจัดเวลาให้อภิปรายแค่ครึ่งวัน วุฒิสภาควรมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด ได้แก่ 1.ไม่ร่วมสังฆกรรม 2.ต้องมีมาตรการแซงชั่นรัฐบาลในการประชุมร่วมรัฐสภาในคราวต่อไป
ที่พรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ตามมารยาททางการเมืองเราเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ต้องร่วมลงชื่อในญัตติอย่างแน่นอน ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจขอสงวนเอกสิทธิ์ว่าจะโหวตให้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้
ส่วนส.ส.กลุ่มมัชฌิมา 7 คนว่าจะร่วมลงชื่อด้วยหรือไม่ น.ส.ศุภมาสกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งมาทั้งนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.กลุ่มมัชฌิมาก็นั่งประชุมอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ไปไหน
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องหารือกันก่อน ซึ่งต้องมีการประเมินว่าผู้ถูกอภิปรายมีการตอบคำถามชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่ เพราะการยื่นญัตติอภิปรายไม่ใช่ว่าเราจะต้องโหวตว่าต้องลงมติเห็นชอบอย่างเดียวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า 7ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด และค่อนข้างชัดแจนแล้วว่า 7 ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา จะไม่ร่วมลงชื่อ เนื่องจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา จะพาสมาชิกในกลุ่มไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมตัวเป็นรัฐบาลส่งผลให้ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมลงชื่อได้ ทั้งสิ้น 24 คน เนื่องจากขณะนี้มีส.ส.จำนวน 3 คน ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่เนื่องจาก กกต. ยื่นคำร้องให้ศาลฎีกาฯมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยได้ขอข้อมูลจากร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานดำเนินการตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ได้ชี้แจงว่าจากการสอบถาม ฝ่ายตำรวจ ขณะนี้ไม่มีการตรวจพบโกดังไหนที่ข้าวหาย และไม่พบการทุจริต จึงขอให้สมาชิกพรรคสบายใจได้ และพรรคยินดีที่จะให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ
แต่ที่ประชุมยังกังวลกับสถานการณ์การชุมนุมที่มีการปลุกระดมประชาชนในพื้นที่ภาคและหลายจังหวัดที่เป็นฐานเสียงฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลออกมาชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ค่อนข้างชัดเจนว่าจะยื่นอภิปรายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และถอดถอนพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะขออภิปรายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมญ์ รมว.พาณิชย์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ และนายปลอดประสพ สุรัสสวดี รองนายกฯ
