ASTVผู้จัดการรายวัน- ผบช.ภ1 แถลงจับ5 ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงถล่มรถคู่อริกลางถนนจนมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ2 ราย สารภาพแค้นที่ถูกดูถูกและฆ่าน้องชายก่อนจึงตามมาล้างแค้นก่อนจะรู้ภายหลังว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายไม่ใช่คู่อริตนเองแต่อย่างใด
วานนี้ ( 5 พ.ย.) ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ1 พร้อมตำรวจชุดคลี่คลายคดียิงถล่มรถกลางถนน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งตาลาย ที่ก่อเหตุยิงถล่มรถกลางถนนเทพารักษ์ กม.10 จนมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายจักรภัทร คำใส อายุ 29 ปี จ.ลพบุรี นายสุเทพ ทองสุก อายุ 27 ปี จ.สมุทรปราการ นายปองพล กิจโอสถ อายุ 24 ปี กทม. นายธนัยพร วงษ์แพทย์ อายุ 25 ปี กทม. และนายภูรินทร์ เหล่าขจร อายุ 20 ปี จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อกล๊อค ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อบาเรตต้า ขนาด 6.35 มม.จำนวน 1 กระบอก รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อาแวนซ่า สีดำ ทะเบียน-ฎฟ 1446 กทม.จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา ทะเบียน-สอ 5681 กทม.จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 พ.ย.55 ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ย่านต.วัดศรีวารีน้อย อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยนายจักรภัทร 1 ในผู้ต้องหาให้การว่า ตนประกอบอาชีพขายอะไหล่เซียงกง และมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายโย ซึ่งเป็นคนในกลุ่มผู้ตายมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา นายโยได้ใช้อาวุธปืนยิงน้องชายของตนเสียชีวิตหน้าร้านตำนัว ในเขตกทม.และยังตระเวนมารอดักยิงตนและพวกตามร้าน สถานบันเทิงต่างๆมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุ นายโยได้โทรศัพท์มานัดให้ไปดวลปืนกันอีกครั้งที่หน้าสถานบันเทิง ย่านบางนา พร้อมพูดจาดูถูก หยาบคายจนตนทนไม่ไหวบันดาลโทสะ จึงวางแผนกับพวกรวม 8 คน จะชิงลงมือก่อน โดยทราบว่านายโย พักอาศัยอยู่ในซอยลิขิต7 ย่านอ.บางพลีและขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค จึงขับมารอก่อนถึงเวลานัด เมื่อเห็นรถเป้าหมายขับออกมา จึงได้ขับรถตามเมื่อสบโอกาสก็ใช้ปืนที่เตรียมมากระหน่ำยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนตนและพวกก็กลับไปนั่งดื่มสุรากันต่อที่ห้องเช่าดังกล่าว จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ จึงรู้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนไม่ใช่คู่อริ ตนรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว รวมทั้งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้
วานนี้ ( 5 พ.ย.) ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ1 พร้อมตำรวจชุดคลี่คลายคดียิงถล่มรถกลางถนน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งตาลาย ที่ก่อเหตุยิงถล่มรถกลางถนนเทพารักษ์ กม.10 จนมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายจักรภัทร คำใส อายุ 29 ปี จ.ลพบุรี นายสุเทพ ทองสุก อายุ 27 ปี จ.สมุทรปราการ นายปองพล กิจโอสถ อายุ 24 ปี กทม. นายธนัยพร วงษ์แพทย์ อายุ 25 ปี กทม. และนายภูรินทร์ เหล่าขจร อายุ 20 ปี จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อกล๊อค ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อบาเรตต้า ขนาด 6.35 มม.จำนวน 1 กระบอก รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อาแวนซ่า สีดำ ทะเบียน-ฎฟ 1446 กทม.จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา ทะเบียน-สอ 5681 กทม.จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 พ.ย.55 ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ย่านต.วัดศรีวารีน้อย อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยนายจักรภัทร 1 ในผู้ต้องหาให้การว่า ตนประกอบอาชีพขายอะไหล่เซียงกง และมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายโย ซึ่งเป็นคนในกลุ่มผู้ตายมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา นายโยได้ใช้อาวุธปืนยิงน้องชายของตนเสียชีวิตหน้าร้านตำนัว ในเขตกทม.และยังตระเวนมารอดักยิงตนและพวกตามร้าน สถานบันเทิงต่างๆมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุ นายโยได้โทรศัพท์มานัดให้ไปดวลปืนกันอีกครั้งที่หน้าสถานบันเทิง ย่านบางนา พร้อมพูดจาดูถูก หยาบคายจนตนทนไม่ไหวบันดาลโทสะ จึงวางแผนกับพวกรวม 8 คน จะชิงลงมือก่อน โดยทราบว่านายโย พักอาศัยอยู่ในซอยลิขิต7 ย่านอ.บางพลีและขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค จึงขับมารอก่อนถึงเวลานัด เมื่อเห็นรถเป้าหมายขับออกมา จึงได้ขับรถตามเมื่อสบโอกาสก็ใช้ปืนที่เตรียมมากระหน่ำยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนตนและพวกก็กลับไปนั่งดื่มสุรากันต่อที่ห้องเช่าดังกล่าว จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ จึงรู้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนไม่ใช่คู่อริ ตนรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว รวมทั้งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้
