xs
xsm
sm
md
lg

จวก“เด็จพี่”ปัญญาอ่อน สร้างเรื่องจ้างม๊อบหนุนซักฟอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(5 พ.ย.55)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจที่ระบุว่าต้องการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยตัวเองว่า ถูกต้องโดยระบบ หากมีการยื่นอภิปรายฯ นายกฯนายกฯก็ต้องมาตอบเอง ตนคิดว่าต้องทำตามระบบ และทำตามที่ประชาชนคาดหวัง แต่นายกฯ ไม่ให้ความสำคัญกับสภาฯ ก็ป่วยการที่จะไปเรียกร้องให้คนอื่นมาให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภา
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าจะยื่นอภิปรายฯไม่ไว้วางใจนายกฯเพียงคนเดียว เพื่อป้องกัน ไม่ให้องครักษ์มาชี้แจงแทนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องรอทางวิปฝ่ายค้านสรุปอีกสองวันรู้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านกับการชุมนุมเป็นกระบวนการเดียวกันที่จะล้มรัฐบาล ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ผู้ชุมนุมก็ประกาศชัดในเป้าหมาย ส่วนเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านก็ทำตามหน้าที่ ทำตามปกติ เพราะได้พูดมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพียงแต่ที่ผ่านมาก็เปิดโอกาสรอให้รัฐบาลแถลงผลงาน 1 ปี ก็เลยมายื่นญัตติในช่วงนี้ ส่วนที่รัฐบาลกล่าวหาว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหนึ่งในกระบวนการล้มรัฐบาลนั้น รัฐบาลไม่ควรหวั่นไหวเกิดเหตุ อีกอย่างรัฐบาลก็มีเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้ว จึงมีหน้าที่ชี้แจง เพราะตรงนี้เป็นไปตามกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นนายกฯและพรรคเพื่อไทยก็ควรทำตามระบบ อย่าพยายามดิสเครดิต และนายกฯก็ควรได้รับการตรวจสอบและมาชี้แจงด้วยตัวเอง ตามที่ผลสำรวจของประชาชนคาดหวัง แต่ถ้านายกฯ ไม่ให้ความสำคัญกับสภาฯ ก็ป่วยการที่จะไปเรียกร้องให้คนอื่น ให้ความสำคัญต่อสภา
"อยากย้ำว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ชอบอ้างระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการทำงานในสภาฯ เป็นกลไกในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่ควรให้กลไกนี้ถูกดิสเครดิต หรือถูกมองไปในทางที่ไม่ดี คนเป็นนักประชาธิปไตยต้องยอมรับการตรวจสอบ "นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ ระบุว่า ประชาชน 87.4 เปอร์เซ็นต์ อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า แสดงว่าประชาชนต้องการเห็นนายกฯ ให้ความร่วมมือกับสภาฯ จึงขอให้รัฐบาลเลิกสร้างเรื่องราวกลบเกลื่อน เบี่ยงเบนประเด็นของสังคม และดิสเครดิตการทำงานของฝ่ายค้าน แต่ควรเอาเวลาไปเตรียมตัว และข้อมูลที่จะชี้แจงกับสภาฯ เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยสร้างเรื่องกลบปัญหาการทำงานของรัฐบาล เช่น ปล่อยข่าวจ้างมวลชน หัวละ 1,500 บาท เข้ามาชุมนุมช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่าไร้สาระ ปัญญาอ่อน เพราะประชาชนที่เข้ามาชุมนุมเดือดร้อนจริงๆ แทนที่รัฐบาลจะหาแนวทางแก้ไข กลับเอาปัญหาของประชาชนมาเป็นเงื่อนไข ขอยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังการจัดม็อบมาชุมนุม เพื่อขับไล่รัฐบาล จึงขอเรียกร้องไปยังโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้เลิกสร้างเรื่องราวปัญญาอ่อน เพราะหากมีใครจ้างวานมวลชนให้ทำเรื่องผิดกฎหมาย รัฐบาลพรรคเพื่อไทยซึ่งมีอำนาจอยู่ในมือก็ต้องดำเนินอย่างเด็ดขาด
นายชวนนท์ แถลงว่า จากการติดตามการเบิกจ่ายการงบประมาณตามพ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 3.5 แสนล้านบาท พบว่า มีการเบิกจ่ายไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยในพื้นที่ภาคอีสาน ที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า มีคะแนนนิยมสูง แต่กลับได้รับการปฏิบัติแบบลูกเมียน้อย เพราะมีการจัดแบ่งงบประมาณดังกล่าวไปให้ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งที่ภาคอีสานเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และขณะนี้ได้เกิดปัญหาภัยแล้ง 12 จังหวัด แต่รัฐบาลไม่มีแนวคิดหรือโครงการใดๆ จัดสรรเงินไปช่วยเหลือคนอีสาน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลบอกว่า เป็นรัฐบาลของคนอีสาน ถือเป็นเพียงลมปาก ใช้คนอีสานเป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ โดยไม่สนใจปัญหาชีวิตและความเป็นอยู่เลย
นอกจากนี้ตนอยากถามความคืบหน้ากรณีที่อดีตเลขาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุมีการทุจริตการใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท ว่า มีการหาผู้กระทำผิดหรือไม่ หรือการย้ายอดีตเลขาป.ป.ท. ออกไปเป็นเพียงเพื่อกำจัดเสี้ยนหนามเท่านั้น โดยไม่มีการหาผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
นายชวนนท์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว ใน 4 ประเด็น คือ 1.แก้ปัญหากรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากมีการรับจำนำข้าว เกินโควตา 14ล้านตัน หลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ดทำให้ชาวนา เร่งปลูกข้าวมากขึ้น และยังเกิดปัญหาการเวียนเทียนข้าวเพื่อรับประโยชน์จากโครงการรับจำนำ ตันละ 15,000 บาท และยังเปิดช่องให้โรงสีรับจำนำข้าวจากเกษตรกร เพียง 80เปอร์เซ็นต์ ทีเหลือ 20เปอร์เซ็นต์เป็นการรับจำนำแบบกดราคาเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัว 2.แก้ปัญหาไม่มีสต๊อกหรือโกดังเก็บข้าวเพียงพออย่างไร 3.แก้ปัญหาการทุจริต เช่น การเวียนเทียน สวมสิทธิ์ ออกใบประทวนปลอมอย่างไร และ 4.แก้ปัญหาการโกหกของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องการส่งออกข้าวอย่างไร เพราะในตลาดโลกไม่พบการส่งออกข้าวไทยแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ตามที่กล่าวอ้างเลย ถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหา จะถูกกล่าวอ้างได้ว่ามีส่วนร่วมและรู้เห็นการโกงงบประมาณในครั้งนี้
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยถึงผลการหารือเบื้องต้นกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ถึงการเปิดประชุมวุฒิสภา เพื่ออภิปรายในญัตติอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ว่า ทางวิปรัฐบาลยังยืนยันว่าจะให้ วุฒิสภา ได้อภิปรายในวันที่ 28 พ.ย. หลังจากการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทำให้วุฒิสภามีเวลาอภิปรายเพียง 12 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ตามกลุ่มส.ว.ได้มีการหารือกับตนว่าควรไปเจรจากับวิปรัฐบาลอีกครั้ง ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้มีการประชุมสภาฯ เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันที่ 25 - 26 พ.ย. และลงมติในวันที่ 27 พ.ย. เบื้องต้นนั้นอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกัน
"การได้เวลาอภิปรายเพียงเท่านั้น ยอมรับว่าส.ว.บางกลุ่มแสดงความไม่พอใจ แต่ผมจะพยายามทำหน้าที่ประสานงานให้เต็มที่ ผมขอยืนยันว่าวุฒิสภาไม่ใช่เป็นสภาตรายาง แต่เป็นเรื่องของการที่สมาชิกมีข้อมูลและต้องการจะอภิปราย เบื้องต้นนั้นมีส.ว.ที่แสดงความประสงค์จะอภิปราย แล้ว 60 - 70 คน" นายนิคม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น