ASTVผู้จัดการรายวัน-กมธ.เศรษฐกิจวุฒิฯ-เครือข่ายหยุดผูกขาดข้าว ยื่นผู้ตรวจฯ สอบจำนำข้าว ส่อเค้าทุจริต และสร้างความเสียหาย “ปลัดพาณิชย์” รับประกันขายข้าวหอมมะลิวิธีพิเศษไม่ต่ำกว่าราคาตลาด ส่วนชาวนาพัทลุงร้องพ่อเมืองเดือดร้อนหนักโรงสีไม่เปิดรับจำนำข้าว ขณะที่บุรีรัมย์ จ่อออกหมายจับขบวนการโกงรับจำนำข้าวอีก 10 ราย ภายในสัปดาห์หน้า แฉมีทั้งนักการเมืองและเจ้าของโรงสี ด้าน ปชป. เย้ยรัฐบาลจนตรอกแอบขายข้าวหอมมะลิแทนข้าวในโกดัง หวังทำตัวเลขตามเป้า
วานนี้ ( 1 พ.ย.) นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การระบายข้าวหอมมะลิในสต๊อกที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาล 2555/56 ตามที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเสนอให้ใช้วิธีพิเศษ ด้วยการให้ผู้ส่งออกกับโรงสีจับคู่ซื้อขายข้าวกัน ยืนยันว่าราคาที่กระทรวงฯ จะอนุมัติขายไม่ต่ำกว่าราคาตลาดที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน และวิธีการดังกล่าวก็ไม่ถือว่าเป็นการมุบมิบขายข้าวให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง แต่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องขนข้าวเก็บไว้ในโกดังกลาง และไม่ถือว่าเป็นการอุดหนุนราคาให้กับผู้ส่งออก เพราะเป็นการซื้อขายตามราคาตลาด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเร่งระบาย เพื่อแก้ไขปัญหาโกดังกลางเก็บข้าวเต็ม ยืนยันว่าโกดังข้าวที่มีอยู่ทั่วประเทศขณะนี้เก็บข้าวได้มากถึง 21 ล้านตัน ที่ผ่านมา ใช้เก็บข้าวไปแล้ว 10 ล้านตัน ยังเหลือพื้นที่ว่างอีกมาก และมีโกดังที่กำลังสร้างใหม่ ซึ่งจะสามารถเก็บข้าวได้อีก 6 ล้านตัน รัฐบาลจึงมีสถานที่เก็บข้าวเพียงพอ
วันเดียวกันที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพานิชย์ และอุตสาหกรรมวุฒิสภา พร้อมคณะ ได้เข้ามอบรายงานการพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบกับปัญหาเศรษฐกิจประเทศไทย และการพิจารณาศึกษาโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นนโยบายของรัฐซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะหนี้สาธารณะและปัญหาเศรษฐกิจในอนาคตให้กับนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญาพานิช และนายประวิช รัตนเพียร
นายมหรรณพ กล่าวว่า จะเดินหน้ามอบรายงานผลการศึกษานี้ให้กับองค์กรตรวจสอบทุกแห่งไม่ว่าจะศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงบประมาณ เพื่อตรวจสอบและยับยั้งการดำเนินโครงการตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติที่กรรมาธิการฯศึกษาแล้วพบว่ามีปัญหาคอรัปชั่นทุกขั้นตอน ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์จริง
ด้านนางผานิต กล่าวว่า กรณีนี้ไม่ถือเป็นเรื่องร้องเรียน ถือเป็นการมาให้ข้อมูลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะนำไปประกอบการพิจารณาคำร้องเรื่องการจำนำ
ด้านนายวรา จันทร์มณี ผู้นำกลุ่มเครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าว พร้อมคณะ เดินทางมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีให้ตรวจสอบรัฐบาลบริหารกิจการประเทศผิดพลาดตามมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และ 84(1) และส่อพฤติกรรมทุจริตมิชอบ
ที่ จ.พัทลุง เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง จำนวน 50 คน บุกศาลากลางจังหวัดพัทลุง ร้องขอความช่วยเหลือ ต่อนายวิญญู ทองสกุล ผวจ.พัทลุง หลังโรงสีทุกโรงในพื้นที่ไม่เปิดรับจำนำข้าวจากเกษตรกรโดยโรงสีต่างๆระบุว่า ปิดรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีมติสิ้นสุดการรับจำนำข้าวนาปรังเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา
นางอุทัย หมวดทอง เกษตรกรชาวนา กล่าวว่า การปิดรับจำนำของโรงสีต่าง ๆ ในพื้นที่ไม่มีการแจ้งให้เกษตรกรทราบล่วงหน้า ทั้งในใบรังรองที่สำนักงานเกษตรออกให้กับเกษตรกรระบุระยะเวลาสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวข้าวในวันที่ 25 พ.ย.55 ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวในพื้นที่ 3 ตำบล กว่า 7,000 ไร่ ได้รับความเดือดร้อน บางรายเก็บเกี่ยวข้าวแล้วไม่รู้จะนำไปไหนเกษตรกรทุกรายไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว และยังมีข้าวของเกษตรกรจำนวนหลายราย ที่สุกเต็มที่จำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากกลัวจะได้รับความเสียหายจากสภาพฝนที่ตกลงมาตลอดในระยะนี้.
ที่จ.บุรีรัมย์ นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจจับทุจริตจำนำข้าวโรงสีทั้งในและนอกพื้นที่ป้องกันทุจริตซ้ำรอย ขณะตำรวจเร่งสอบปากคำเกษตรกรและรวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการโกงจำนำข้าวปีที่แล้วกว่า 44 ล้าน เพิ่มอีกกว่า 10 ราย ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่พบว่ามีทั้งนักการเมืองและเครือญาติโรงสี หลังจับกุมเจ้าของโรงสีและเจ้าหน้าที่ เป็นแล้ว 5 ราย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ oryza.com เปิดเผยว่ารัฐบาลตกลงขายข้าวหมอมะลิ 5 แสนตัน ให้กับผู้ส่งออกบางรายเป็นการลับ ซึ่งทำให้ขาดทุน 2,000 ล้านบาทนั้น ว่า แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังจนตรอก ซึ่งก็แสดงว่าการที่พูดเรื่องการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีนั้นก็แสดงว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามทำเป้าส่งออก โดยใช้ข้าวหอมมะลิที่พอมีราคาในตลาดโลกขายให้ผู้ส่งออก แต่กลับไม่นำข้าวในโกดังที่รัฐบาลมีอยู่ออกมาขาย และสิ่งที่น่าแปลกใจคือมีการเลือกใช้การเจรจากับผู้ส่งออกเป็นรายๆ ซึ่งเป็นวิธีที่เอื้อให้มีการทุจริต แทนที่จะมีการประมูลปรกติ อย่างไรก็ตามการยอมขายข้าวขาดทุนของรัฐบาลก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลกำลังยอมแพ้ต่อโครงการจำนำข้าว เพราะรัฐบาลเคยให้เหตุผลว่าดำเนินโครงการเพื่อยกระดับราคาในตลาดโลก ซึ่งการที่รัฐบาลยอมขาดทุนก็เท่ากับยกราคาไม่สำเร็จตามที่พูด.
วานนี้ ( 1 พ.ย.) นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การระบายข้าวหอมมะลิในสต๊อกที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาล 2555/56 ตามที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเสนอให้ใช้วิธีพิเศษ ด้วยการให้ผู้ส่งออกกับโรงสีจับคู่ซื้อขายข้าวกัน ยืนยันว่าราคาที่กระทรวงฯ จะอนุมัติขายไม่ต่ำกว่าราคาตลาดที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน และวิธีการดังกล่าวก็ไม่ถือว่าเป็นการมุบมิบขายข้าวให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง แต่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องขนข้าวเก็บไว้ในโกดังกลาง และไม่ถือว่าเป็นการอุดหนุนราคาให้กับผู้ส่งออก เพราะเป็นการซื้อขายตามราคาตลาด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเร่งระบาย เพื่อแก้ไขปัญหาโกดังกลางเก็บข้าวเต็ม ยืนยันว่าโกดังข้าวที่มีอยู่ทั่วประเทศขณะนี้เก็บข้าวได้มากถึง 21 ล้านตัน ที่ผ่านมา ใช้เก็บข้าวไปแล้ว 10 ล้านตัน ยังเหลือพื้นที่ว่างอีกมาก และมีโกดังที่กำลังสร้างใหม่ ซึ่งจะสามารถเก็บข้าวได้อีก 6 ล้านตัน รัฐบาลจึงมีสถานที่เก็บข้าวเพียงพอ
วันเดียวกันที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพานิชย์ และอุตสาหกรรมวุฒิสภา พร้อมคณะ ได้เข้ามอบรายงานการพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบกับปัญหาเศรษฐกิจประเทศไทย และการพิจารณาศึกษาโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นนโยบายของรัฐซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะหนี้สาธารณะและปัญหาเศรษฐกิจในอนาคตให้กับนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญาพานิช และนายประวิช รัตนเพียร
นายมหรรณพ กล่าวว่า จะเดินหน้ามอบรายงานผลการศึกษานี้ให้กับองค์กรตรวจสอบทุกแห่งไม่ว่าจะศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงบประมาณ เพื่อตรวจสอบและยับยั้งการดำเนินโครงการตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติที่กรรมาธิการฯศึกษาแล้วพบว่ามีปัญหาคอรัปชั่นทุกขั้นตอน ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์จริง
ด้านนางผานิต กล่าวว่า กรณีนี้ไม่ถือเป็นเรื่องร้องเรียน ถือเป็นการมาให้ข้อมูลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะนำไปประกอบการพิจารณาคำร้องเรื่องการจำนำ
ด้านนายวรา จันทร์มณี ผู้นำกลุ่มเครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าว พร้อมคณะ เดินทางมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีให้ตรวจสอบรัฐบาลบริหารกิจการประเทศผิดพลาดตามมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และ 84(1) และส่อพฤติกรรมทุจริตมิชอบ
ที่ จ.พัทลุง เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง จำนวน 50 คน บุกศาลากลางจังหวัดพัทลุง ร้องขอความช่วยเหลือ ต่อนายวิญญู ทองสกุล ผวจ.พัทลุง หลังโรงสีทุกโรงในพื้นที่ไม่เปิดรับจำนำข้าวจากเกษตรกรโดยโรงสีต่างๆระบุว่า ปิดรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีมติสิ้นสุดการรับจำนำข้าวนาปรังเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา
นางอุทัย หมวดทอง เกษตรกรชาวนา กล่าวว่า การปิดรับจำนำของโรงสีต่าง ๆ ในพื้นที่ไม่มีการแจ้งให้เกษตรกรทราบล่วงหน้า ทั้งในใบรังรองที่สำนักงานเกษตรออกให้กับเกษตรกรระบุระยะเวลาสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวข้าวในวันที่ 25 พ.ย.55 ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวในพื้นที่ 3 ตำบล กว่า 7,000 ไร่ ได้รับความเดือดร้อน บางรายเก็บเกี่ยวข้าวแล้วไม่รู้จะนำไปไหนเกษตรกรทุกรายไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว และยังมีข้าวของเกษตรกรจำนวนหลายราย ที่สุกเต็มที่จำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากกลัวจะได้รับความเสียหายจากสภาพฝนที่ตกลงมาตลอดในระยะนี้.
ที่จ.บุรีรัมย์ นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจจับทุจริตจำนำข้าวโรงสีทั้งในและนอกพื้นที่ป้องกันทุจริตซ้ำรอย ขณะตำรวจเร่งสอบปากคำเกษตรกรและรวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการโกงจำนำข้าวปีที่แล้วกว่า 44 ล้าน เพิ่มอีกกว่า 10 ราย ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่พบว่ามีทั้งนักการเมืองและเครือญาติโรงสี หลังจับกุมเจ้าของโรงสีและเจ้าหน้าที่ เป็นแล้ว 5 ราย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ oryza.com เปิดเผยว่ารัฐบาลตกลงขายข้าวหมอมะลิ 5 แสนตัน ให้กับผู้ส่งออกบางรายเป็นการลับ ซึ่งทำให้ขาดทุน 2,000 ล้านบาทนั้น ว่า แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังจนตรอก ซึ่งก็แสดงว่าการที่พูดเรื่องการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีนั้นก็แสดงว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามทำเป้าส่งออก โดยใช้ข้าวหอมมะลิที่พอมีราคาในตลาดโลกขายให้ผู้ส่งออก แต่กลับไม่นำข้าวในโกดังที่รัฐบาลมีอยู่ออกมาขาย และสิ่งที่น่าแปลกใจคือมีการเลือกใช้การเจรจากับผู้ส่งออกเป็นรายๆ ซึ่งเป็นวิธีที่เอื้อให้มีการทุจริต แทนที่จะมีการประมูลปรกติ อย่างไรก็ตามการยอมขายข้าวขาดทุนของรัฐบาลก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลกำลังยอมแพ้ต่อโครงการจำนำข้าว เพราะรัฐบาลเคยให้เหตุผลว่าดำเนินโครงการเพื่อยกระดับราคาในตลาดโลก ซึ่งการที่รัฐบาลยอมขาดทุนก็เท่ากับยกราคาไม่สำเร็จตามที่พูด.
